วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2563
ทั้งที่เป็นวันศุกร์ เราควรจะรอเวลาเลิกงานแล้วรีบกลับมาบ้าน กินของอร่อยและนอนเล่นแล้วแท้ๆ
แต่วันนี้กลับต้องมานั่งจดรายชื่อ ของผู้โชคดี ไม่สิ ต้องเรียกว่าผู้ร่วมโปรเจคการส่ง postcard ที่โพสต์แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
"อยากส่ง Postcard แต่ไม่รู้จะส่งให้ใคร มีใครสนไหม จะวาดรูปลงไปให้"
หลังจากลงได้ไม่ถึงสิบกว่านาที ก็มีเพื่อนๆใน Facebook ก็เริ่มทยอยกันเข้ามาคอมเมนต์ขอ postcard กันมากมาย ทั้งเพื่อนที่ไม่ได้ทักกันนาน เพื่อนที่คุยกันบ่อย หรือรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อน มัธยม มหาลัยที่เราเองก็เกือบจะลืมกันไปแล้ว
ตอนแรกแค่อยากจะลองฝึกการเขียนให้กระชับและได้ใจความ อีกทั้งอยากจะลองฝึกวาดภาพด้วย ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่เป็นไร ฉัน จะ สู้!
แต่ติดตรงที่ postcard ที่เขาส่งกัน ส่วนใหญ่จะส่งจากสถานที่ท่องเที่ยว โอกาสในวันสำคัญ หรือความคิดถึงที่ถูกบรรยายลงไปในกระดาษที่เล็กแค่ 1 ส่วน 4 ของกระดาษขนาด A4 และนั่นทำให้ตัวเองต้องมานั่งคิดว่าถ้าคิดถึง ทำไมไม่พิมพ์ถามไถ่ใน Messenger ก็ได้
งั้นเราจะหาหัวข้ออะไรมาพูดคุยกับเพื่อนดี? (หรืออีกนัยหนึ่งก็คือข้ออ้างในการส่ง ฮา)
และเหมือนกับมือถือเป็นใจ ได้ยินความคิดที่ตีกันในหัว Netflix แจ้งเตือนว่ามีหนังอะไรน่าสนใจบ้าง ในนาทีนั้นเหมือนได้ยินเสียง ปิ๊ง! ดังขึ้นมาพร้อมกับหลอดไส้ที่สว่างลอยอยู่เหนือหัว ก็เลยทักไปขอที่อยู่กับผู้คนที่เข้ามาคอมเมนต์และถามว่าชอบหนังอะไร จะเอาไปเป็นหัวข้อในการวาด (และสนทนา) บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราชอบเหมือนกัน บางเรื่องเองก็ไม่เคยดู หรือบางคนไม่มีเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษ ตอนนั้นก็เลยจำเป็นต้องแปลงกายเป็นพนักงานร้านเช่าวีดีโอ (ยังมีอยู่ไหมนะ?) ที่จะเขียนแนะนำหนังที่คิดว่าจะชอบให้กับเพื่อนๆเหล่านั้นไป
พอทำแบบนี้แล้วจากตอนแรกที่รู้สึกไม่รู้จะเขียนอะไร เลยมีความคิดหลายๆอย่างขึ้นมาบนหัว ทำให้อยากรีบกลับบ้านไปสมัครและเริ่มเขียน minimore บอกเล่าเรื่องราวความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว postcard หนังที่ชอบ และความคิดถึง มันจะทำให้เรารู้สึกแบบไหนนะ
ต้องรีบทำแล้ว รอก่อนนะเพื่อนๆทาง postcard
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in