เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I<Ethiopia>U : มี<เอธิโอเปีย>ระหว่างเราArmmie Born TobeBrave
บทที่ 6 < กาแฟ >
  • รู้หรือไม่

    กาแฟต้นแรก

    อยู่ที่เอธิโอเปีย



    ประเทศนี้มีจุดกำเนิดของอะไรหลายๆอย่าง

    เรารู้จักมนุษย์คนแรกไปแล้วในบทก่อน

    บทนี้เราจะมาพูดถึงยาเสพติดที่ได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลกกันดีกว่าค่ะ


    มีหลักฐานหลายๆอย่างว่า ต้นแกแฟต้นแรก ถือกำเนิดที่แคว้น Kaffa  แคว้นทางตอนใต้ของประเทศ ที่ติดกับซูดาน มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขา และอากาศเย็นๆ เหมาะกับการขึ้นของต้นกาแฟ


    ต้นกาแฟอาจจะกลายเป็นแค่ไม้พุ่มวัชพืชที่ไม่มีใครรู้จัก 

    หากไม่มีตำนานการถือกำเนิดอันน่าพิศดารของกาแฟ 

    ตำนานนั่นเล่าว่า


    กาลครั้งหนึ่งนานมาสักพักนึงแล้ว

    ที่แค้วน Kaffa บนเขตที่ราบสูงทางตอนใต้อันห่างไกลของประเทศเล็กๆอย่างเอธิโอเปีย

    ชายเลี้ยงแพะคนหนึ่ง เลี้ยงแพะไปเรื่อยๆตามประสา

    เขามักจะพบแพะของเขาจำนวนนึงชอบเล็มใบไม้ผละผลของต้นไม้ชนิดหนึ่งกันตลอดๆ

    ในใจตอนนั้น คนเลี้ยงแพะก็ไม่ได้คิดอะไร

    เพราะแพะพวกนี้ ก็สวาปามต้นไม้พุ่มข้างทาง อะไรเทือกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว


    แต่คืนหนึ่งกลางดึกสงัด คืนนั้นเอง

    นัคนเลี้ยงแพะถูกปลุกตื่นด้วยเสียงก๊อก แก๊กๆ ภายนอกบ้านของเขา

    เมื่อมองออกไปก็เห็นแพะฝูงนั้นคึกผิดปกติ ทั้งๆ เวลานั้นตามวิสัย ก็ควรจะสงบและยืนหลับไปนานแล้ว

    เขาคิดว่าพลังมืดบางอย่างอาจจะรบกวนมัน. จะสักพักแพะพวกนั้นก็แพะสงบไป


    แต่ไม่ใช่แค่คืนเดียว

    คืนแล้วคืนเล่าที่เขาต้องตื่นขึ้นมาเจอ กิจกรรมยามดึกของแพะข้างบ้าน 

    เขาทำทุกวิถีทางให้พวกแพะสงบ แต่พวกมันก็ยังคึก 

    party overnight Dancin’ on the floor กันแทบทุกคืน

    คนเลี้ยงแพะก็แอบสงสัยว่า เอ ทำไมนะ มันไม่น่า ใช่พลังร้ายๆแล้วล่ะ

    มันต้องมีอะไรแย่ๆ ที่ทำให้ อีแพะพวกนั้นตอนกลางคืนมันถึงคึกผิดปกติ ขนาดนี้



    คนเลี้ยงแพะก็เริ่มสังเกตุ

    อีพวกแพะตัวที่คึก โจ๊ะพรึมๆกันตอนกลางคืนนั้น 

    มีแต่ตัวที่ไปแทะเล็มต้นไม้ชนิดหนึ่งข้างทางทุกวันนี่นา


    ตรรกะเชื่อมโยงของคนเลี้ยงแพะก็ทำงาน

    1. แพะ
    2. คึกโจ๊ะพรึมๆ
    3. กลางคืน
    4. ต้นไม้ผลสีแดง

    โอ้สี่ข้อนี้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน


    ได้ที

    เย็นวันนั้น

    คนเลี้ยงแพะจึงลองเด็ดเอาผลของมันมาลอง แช่น้ำแล้วดื่มดู

    ทดลองไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าคืนนั้นทั้งคืน

    คนเลี้ยงแพะเอง ก็ลุกขึ้มา โจ๊ะพรึมๆ Dancin on the floor แข่งกับแพะข้างนอกทั้งคืน

    และก็พบว่าเมล็ดของผลนั้นเมื่อเผาไฟ แล้วมีกลิ่นหอมชวนดม ชวนเลียเอามากๆ 



    หลังจากนั้นท่เขาก็เอาไอ้เมล็ดของผลนี่ มาดัดแปลงเป็นเครื่องดื่ม 

    เรื่องนี้รู้ไปถึงนักบวชคนนึง และก็ได้นำมันไปใช้

    เพื่อใช้ร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 


    คนสมัยนั้น พอเป็นอะไรที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับศาสนาปุ๊ป

    มันก็ hit ระเบิดระเบ้อ ด้วยฤทธิ์ของมันที่เสริมกำลังวังชา ทำงานแข็งขันเหมือนมีพลังพิเศษ

    ร้านกาแฟแบบดั้งเดิม ข้างถนนที่เอธิโอเปีย จะตั้งเตาถ่านต้มเมล็ดกันเดี๋ยวนั้นเลย

    บอกกับความหอมละมุน สดชื่น ราวกลิ่นหอมจากสรวงสวรรค์

    มันเลยแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งเอธิโปเปีย

    จากเอธิโอเปีย ก็ข้ามทะเลแดงไปยังอาหรับ

    จากอาหรับ สู่เส้นทางสายไหม 

    จากเส้นทางสายไหม กระจายไปทั่วโลก

    กาแฟนั้นไม่เป็นเพียงเครื่องดื่มเพื่อจุดประสงค์ทางศาสนาอีกต่อไป

    มันกระจายความโจ๊ะ พึมๆ ไปให้คนทั้งหลาย เสพติดมัน ดื่มด่ำมัน และมีความสุขกับมัน


    ที่เมือง Adis ababa หรือทุกเมืองของเอธิโอเปีย คนเค้านิยมดื่มกาแฟกันมากๆ

     เราสามารถหาร้านกาแฟได้ทั่วทุกมุมถนนยิ่งกว่าคลินิกหมอสิวบ้านเรา

    มีทั้งแบบดั้งเดิมริมถนน ที่คนขายจะต้มเมล็ดกาแฟบนเตาถ่าน  แล้วค่อยๆรินใส่แก้วให้เรานั่งดื่ม

    ไปจนถึงร้านทันสมัยที่มี่ เครื่องชงกาแฟ และห้องหับสวยหรู มาตรฐานแบบร้านกาแฟหรูๆที่เราชอบไปดื่มกัน


    มันจะมีอยู่ร้านนึงที่โด่งดังมาก เป็นเหมือน Signature ของ เอธิโอเปีย

    (ไม่ใช่นางเงือกเขียวแน่นอน)

    ชื่อว่าร้าน TOMOCA


    ภาพบรรยากาศภานในร้าน TOMOCA สาขาดั้งเดิม

    ร้านนี้เป็นร้านดั้งเดิม 

    ที่มีชื่อเสีงอยู่คู่เมือง Adis มานมนาน ตัวร้านมีอยู่ 4 สาขา

    สาขาดังเดิมอยู่แถวๆแกรนด์บาร์ซาร์

    ส่วนสาขาที่โออ่าที่สุด อยู่ที่ แถบ Bole  หรือเมืองใหม่


    ด้วยความที่ดิฉันไม่ใช่นักดื่ม กาแฟ

    แต่มาดินแดนต้นกำเนิดทั้งที ถ้าไม่ลองก็จะเสียหมา

    เย็นวันนั้นหลังจากเสร็จจากป้าลู่ซี่ ดิฉันก็ให้รถไปส่งที่ Tomoca สักสาขาทันที


    ขั้นตอนการสั่งกาแฟที่นี่ก็ดูจะผิดจากบ้านเรา หรือร้านที่เราคุ้นเคย

    คือเดินไปสั่ง จ่ายเงิน แล้วพนักงานแคชเชียร์จะให้ บัตรหมายเลขมา ให้เดินไปหาพนักงานชงกาแฟ วางบัตร

    แล้วพนักงานอีกจะชงสดๆ แก้วต่อแก้ว

    เสร็จแล้วก็จะส่งให้เรากับมือ ตามหมายเลข พร้อมรอยยิ้มละมุนอย่างพิถีพิถัน ราวกับว่าได้มอบของขวัญล้ำค่าให้


    หน้าที่ของเราคือไปยืนดื่มที่โต๊ะตัวสูงๆ 

    ไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง (ที่นั่นเค้าจะยืนกินกาแฟกัน ใครถามหาเก้าอี้คือ เป็นผู้ไม่เจริญ)

    แก้วกาแฟเล็กๆ เพียงพอสำหรับ สามอึก แต่เหมาะที่ ละเลียดทีละจิบสัก 10 นาที  กาแฟที่นี่ถือว่าถูกว่า โคล่าอีก หนึ่งแก้วในร้านหรูอย่าง TOMOCA นั้นแค่ 12Birr (20บาท)


    คนนี่ๆเค้าไม่นั่งดื่มกาแฟกันค่ะ เน้นยืนเพราะดื่มแปปเดียว
    ป๊าขา เหม่เม๋อยากดื่มกาแฟ ป๊าไปขอเงินกงสีมาซื้อให้เม๋แก้วได้ไหมคะ
    ที่นี่นิยมดูละคร จากอินเดียค่ะ มีทุกร้านเลย ติดกันงอมแงม 

  • ดิฉันลองสั่ง ลาเต้ เพราะกลัวกับการลองตอนแรกๆ เลยขอเบาๆก่อน

    จากคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มกาแฟ  แรกๆ กลิ่นของกาแฟหอมมาก จนคิดว่าเอาไปทำน้ำหอมก็ซื้อ

     กลิ่นมันชนะทุกสิ่ง มันเข้าไปเล่าเล้าโลมเส้นประสาทรับกลิ่นให้เคลิบเคลิ้มจนเหมือน จะตกเป็นทาสเดี๋ยวนั้น

    เป็นแรงขับให้เราทำอะไรเพื่อมันก็ได้ ทั้งร้ายและดี

    เมื่อยกมือขึ้นจิบ ความขมที่ปกติมันจะเริ่มที่โคนลิ้น 

    แต่ทันทีที่จิบ กลิ่นหอมนั้นเองที่ทำให้ลิ้นขม ขมจนนึกถึงความขมขื่นที่สุดในชีวิต

     ตามมาด้วยรสเปรี้ยวฝาด ที่ ทำให้นึกถึง ใบเขียวๆของพุ่มไม้เล็กๆบนที่ราบสูง ที่ย้ำเตือนว่าต้นกำเนิดของมันมาจากไหน ทำให้นึกถึงเรื่องราวของนักบวช แพะ และทางเดินบนภูเขา

     น่าประหลาดที่ความขมเปรี้ยวแทบจะทนไม่ได้เมื่อสักครู่ คลี่คลายน้อยๆ ให้รสหวานเลือนประสาทลิ้นแทรกขึ้นมา  ความหวานทิ้งทวนนั้น ทำให้นึกโหยหาจิบต่อไป ให้มาทรมานกันอีกสักจิบ 

    โอ้วววววววววว ดิฉันที่ไม่ชอบดื่มกาแฟ สั่งอีกแก้วแบบไม่ใส่นม เพียวๆ 

    บอกได้คำเดียวว่า ไปเถอะค่ะ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว

    จองตั๋วเครื่องบินไป เพื่อจิบกาแฟ ที่ TOMOCA แล้วบินกลับยังคุ้มเลย 


     สภาพหลังจากนั้น

    ใครคิดว่ากาแฟร้านสะดวกซื้อบ้านเราดีดมากแล้ว 

    อันนี้ดีดกว่าหลายเท่าค่ะ 

    ใจดิฉัน เต้นรัวเป็นกลองทิมปานี

    ตึมตัม ตึมตัม

    จากสี่โมงครึ่ง ไปจนถึงสามทุ่มของคืนนั้น 

    และหลับอีกทีตอนตีสอง

    โจ๊ะพึมๆ. ทั้งคืนเลย

    คึกปานพวกแพะซุกซนพวกนั้นไม่มีผิด
    ดิฉันว่าดิฉันต้องคำสาปพลังงานชั่วร้ายของกาแฟซะแล้ว

    ดิฉันรู้สึกว่าคงตกเป็นทาสของมัน
    เหมือนคนอีกหลายล้านคนทั่วโลก

    (แต่ดิฉันก็ชอบนะ)





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in