หลายคนคงคุ้นหูกับเพลง " เรื่องมหัศจรรย์ " ของวง Sofa ที่มักได้ยินบ่อยในคลื่นวิทยุเพลงเก่าทั้งหลาย ด้วยความเป็นดนตรีป๊อปร็อกที่ฟังสบาย ท่อนฮุคที่ติดหู เนื้อหาที่ฟีลกู้ด โลกสวยอะไรปานนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เพลงนี้จะติดอันดับเพลงยอดฮิตในยุคสิบปีกว่าก่อน แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือคนส่วนใหญ่มักจะไม่รู้จักผลงานอัลบั้มก่อนหน้านี้ของวง Sofa ที่มีชื่อว่า " Not So Sad " ทั้งที่อัลบั้มนี้มีเพลงดีๆที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ แต่เนื่องจากยุคแรกของวงนี้ยังทำเพลงในค่ายอินดี้เล็กๆ ซึ่งไม่ได้มีกำลังในการโปรโมทหรือจัดจำหน่ายมากนัก จึงไม่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ฟังกระแสหลักในยุคนั้นเท่าที่ควร
ในวันนี้เราจะมาแนะนำเพลงของวง Sofa เพลงหนึ่งจากอัลบั้มแรกของพวกเขาซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่กลับเป็นเพลงที่เราชอบที่สุดของวงนี้เลยล่ะ ด้วยดนตรีและเนื้อหาเพลงที่มีกลิ่นอายความป๊อปเท่ๆ ของยุคมิลเลนเนียม ( 2000s) อย่างเต็มเปี่ยม หากยังนึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกถึงเพลงของค่ายเบเกอรี่ยุครุ่งเรืองดูนะฮะ ( โยคีเพลย์บอย , P.O.P , Pause ฯลฯ ) ฟีลประมาณนั้นเลย
เพลง : ได้โปรด
ศิลปิน : Sofa
อัลบั้ม : Not So Sad (2001)
หากเปรียบเพลง "เรื่องมหัศจรรย์ " เป็นตอนจบของนิยายรักที่สุขสมหวังในพรหมลิขิต
เพลง " ได้โปรด " ก็คงไม่ต่างจากหน้าแรกของนิยายที่เต็มไปด้วยการโหยหาสิ่งเหล่านั้น
พาร์ตดนตรีในเพลงนี้จะเป็นดนตรีป๊อปร็อกที่มีซาวด์เอกลักษณ์เฉพาะตัวของวง ซึ่งจะแตกต่างจากเพลงป๊อปร็อกตลาดๆในยุคนั้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเรียบเรียงดนตรี ลีดกีต้าร์ที่ประสานกับเสียงร้องในบางช่วงอย่างลงตัว ไลน์เบสช่วงอินโทรที่สุดแสนจะเร้าใจ คาดว่าซาวด์ดนตรีในเพลงนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากยุคอัลเทอร์เนทีฟมาพอสมควร จนพัฒนามาเป็นซาวด์ป๊อปร็อกเท่ๆ ในแบบฉบับของ Sofa
ยิ่งได้เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ พี่โตน จักรธร ยิ่งทำให้ซิกเนเจอร์ของวงในอัลบั้มนี้มีความโดดเด่นมากเลยทีเดียว ฟังแล้วรู้ทันทีว่านี่คือเพลงยุคแรกๆของวง Sofa
เนื้อหาของเพลงนี้ หากจะให้ตีความก็คงหนีไม่พ้นความเป็น loser ที่โหยหาความรัก อ้อนวอนโชคชะตา
โหยหาความรักอย่างเดียวยังไม่พอครับ ยังมโนเก่งอีก เวลาเจอคนที่ชอบที่ถูกใจมากๆ ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ก็จะชอบทึกทักไปเองว่านี่ต้องเป็นพรหมลิขิตจากฟ้าแน่ๆ (อาการนี้เคยเกิดขึ้นกับ loser ทุกคนที่อินเลิฟแน่นอนรวมทั้งข้าพเจ้า) ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นคือสิ่งที่ปรากฎอยู่ในเนื้อเพลงนี้หมดเลย
เป็นธรรมดาของมนุษย์แหละครับที่เติบโตมาท่ามกลางหนัง ละคร นิยายโรแมนติก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนเราจะยังมีความเชื่อแบบเพ้อเจ้อ
ที่เชื่อว่ารักแรกพบมีอยู่จริง
ที่เชื่อว่าพรหมลิขิตมีอยู่จริงในโลกใบนี้
ในเมื่อคนเราก็ล้วนโหยหาความรักกันทั้งนั้นแหละเนอะ
" ห้ามอย่างไรความรัก ใครก็คงรู้ดี
ตกอยู่ในความรัก ใครช่วยดึงฉันที
ก็ฉันไม่อาจลืม ฉันไม่อาจลืมเธอคนนั้น
หรือเธอจะมาจากฟ้า หรือเธอจะมาตามหา
ใครซักคนบนดินอันกว้างใหญ่ จากฟากฟ้าที่แสนไกล
หากเธอมาจากฟ้า หากเธอมาตามหา
ใครซักคน บนดินอันกว้างใหญ่ ได้โปรดให้เป็นฉันที
ขอรับทุกอย่าง ที่มันจะเกิด
หัวใจฉันเปิด และพร้อมจะยอมรับ วันที่จะถึง
ฉันไม่อาจลืม ฉันไม่อาจลืมเธอคนนั้น
หรือเธอจะมาจากฟ้า หรือเธอจะมาตามหา
ใครซักคนบนดินอันกว้างใหญ่ จากฟากฟ้าที่แสนไกล
หากเธอมาจากฟ้า หากเธอมาตามหา
ใครซักคน โอ้ใครซักคน ได้โปรดให้เป็นฉันที
อยากเจอเธอให้ได้ จากในวันนั้น
ที่ฉันไม่อาจลืม ฉันไม่อาจลืม เธอคนนั้น
หรือเธอจะมาจากฟ้า หรือเธอจะมาตามหา
ใครซักคนบนดินอันกว้างใหญ่ จากฟากฟ้าที่แสนไกล
หากเธอมาจากฟ้า หากเธอมาตามหา
ใครซักคน โอ้ใครซักคน ได้โปรดให้เป็นฉันที "
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in