เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me : 2020panpanmeme
how grace (great)
  • “And if by grace, then it cannot be based on works; if it were, grace would no longer be grace.”‭‭Romans‬ ‭11:6‬ ‭NIV


    บทสนทนาสั้นๆ ระหว่างทาง

    : เดี๋ยวนี้มีเต็มไปหมดเลยนะครับ โบสถ์เนี่ย
    : อืม...ใช่ค่ะ

    เสียงเอ่ยทักทายเมื่อฉันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งได้สักพัก
    บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะคนที่เอ่ยทักมานั้นเห็นว่าจุดหมายปลายทางของฉัน คือที่ไหน

    : ผมว่า ดีนะครับ การได้ไปโบสถ์หรือวัด ใน 1 วันของสัปดาห์ ได้เอาตัวเอง ไปอยู่ในที่ที่ดี

    : อืม ค่ะ 
    ฉันพยักหน้าเห็นด้วย แต่หัวสมองยังไม่ประมวลผลคำพูดใดๆ ออกมานอกจากการแสดงความเห็นด้วยออกไปกับเจ้าของประโยคที่ดูผ่านอะไรมามากมาย

    เขาดูสงบและนิ่ง มีความรู้สึกสบายๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูดแต่ละประโยค ขัดกับแววตาที่ดูอารมณ์ร้อนและเงียบขรึมที่ฉันสังเกตเห็นผ่านกระจกมองหลัง

    ฉันอาจจะมองเขาผิดไปจนคุณคิดว่าฉันกำลังตัดสิน
    หรือเขาอาจจะเคยเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้เขากำลังกลายเป็นคนในแบบที่เค้าต้องการแสดงออกมาอยู่

    ฉันมีความสนใจใคร่รู้อยู่บางๆ เกี่ยวกับคนที่ควบคุมพวงมาลัยรถตรงหน้า

    : เคยไปมั้ยคะ
    ฉันถามออกไปสั้นๆ
    : ครับ? โบสถ์หน่ะหรือ
    : ค่ะ
    : ไม่หรอกครับ

    เงียบไปสักพัก

    : คนเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ค่อยไปวัดกันแล้ว
    ผมเองก็ไม่ได้ไป

    : อืม ค่ะ

    ฉันฟังและอยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

    : ศาสนาทุกศาสนาก็สอนให้คนเป็นคนดีหมด


    ประโยคที่คุ้นชิน
    และฉันเองก็ทบทวนคำพูดนี้มาตลอดตั้งแต่เป็นเด็ก
    เวลาที่ฉันบอกคนอื่นๆ ว่าตัวเองนับถือศาสนาอะไร
    อีกฝ่ายมักจะตอบกลับมาแบบนี้เสมอ

    ฉันคิดมาตลอดว่า ถ้าแค่อยากเป็นคนดี
    ฉันนับถือศาสนาอะไรก็ได้
    จะนับถือทุกศาสนาก็ยังได้
    หรือจะไม่นับถืออะไรเลย ก็รู้จักความดีได้
    ความดีถูกบรรจุไว้ในธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว
    เช่นนั้นศาสนาจะต่างอะไรกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
    เพียงแต่เป็นในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น

    คนที่ไม่นับถือศาสนาไม่ได้แปลว่าเป็นคนเลว
    และคนที่มีศาสนาก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าคนอื่น
     

    ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า
    แล้วทำไมฉันถึงเชื่อในพระเจ้า
    ทำไมถึงเป็นคริสเตียน?

    ฉันไม่ได้ดีไปกว่าใคร
    ฉันยังคงมีนิสัยแย่ๆ
    มีพฤติกรรมที่คนรอบข้างก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่ารัก


    แต่การที่ฉันยังยืนอยู่ในความเชื่อในพระเจ้าเพราะฉันรู้ว่า พระเจ้าเป็นความจริง เป็นชีวิตและเป็นความรัก — รักที่ฉันเป็นฉันแบบนี้แหละ
    ไม่ว่าฉันจะเป็นใคร ฉันก็รู้จักพระเจ้าได้
    ไม่ว่าฉันจะเป็นยังไง พระเจ้าก็รักฉัน

    สำหรับฉันพระเจ้าไม่ใช่ศาสนา
    แต่พระเจ้าคือ ‘ชีวิต’
    ทั้งร่างกาย จิตใจ และ จิตวิญญาณ
    การสัมผัสว่าพระเจ้ารักเราทั้งหมด ที่เราเป็น
    มันทำให้ฉันเป็นอิสระเหนือกฎแห่งความดี
    แต่ไม่ได้แปลว่า ฉันจะมีอิสระเพื่อทำเลว หรือเป็นคนเหลวแหลกไม่เอาไหน ทำอะไรตามใจ

    แต่ฉันเลือกที่จะอยู่ในความรักและพระคุณของพระเจ้า
    เพราะพระเจ้าแสนดีต่อฉัน เพราะพระเจ้ามีพระคุณต่อฉัน
    พระเจ้าทรงไถ่ฉันจากความบาปของเนื้อหนังจากความตายฝ่ายจิตวิญญาณ — และทรงอยู่กับฉันเสมอเพื่อช่วยฉัน ให้ดำเนินชีวิตในโลกนี้ต่อไปได้ 



    และอยากเป็นคนที่ดีขึ้น
    แม้ฉันจะล้มลงเป็นร้อยครั้งกับเรื่องเดิมๆ
    แต่ฉันเชื่อว่า ใน ร้อยครั้งนั้น 
    มันจะไม่ใช่จุดเดิมอย่่างแน่นอน 
    ต่อให้ฉันล้มลุกคลุกคลาน 
    มันก็จะไปข้างหน้าเสมอ 
    อาจจะทีละมิลลิเมตร 
    เซนติเมตร 
    หรือบางครั้งมันอาจจะขยับไปไกลได้เป็นเมตรๆ
    เลยก็ได้



    ฉันอยากเป็นคนที่ดีขึ้น เพราะฉันมีความหวังในความรักของพระเจ้าที่มีต่อฉัน — อยากก้าวไปข้างหน้า เพราะฉันอยากใกล้ชิดพระเจ้า อยากเป็นคนที่พระเจ้าทรงโปรดปราน อยากอยู่กับพระองค์ในวันสุดท้ายของชีวิตฉันและตลอดไปหลังจากนั้น ที่ซึ่งไม่ใช่โลกนี้



    : ไม่มีใครดี 100% หรอกค่ะ 
    ฉันเอ่ยขึ้นมา



    : ใช่ครับ ตอนนี้ผมคิดว่า แค่เราคิดดี พูดดี ทำสิ่งที่ดี
    ไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน ออกมาขับรถสักครึ่งวันแล้วก็กลับบ้านไปพัก ผมก็พอแล้วล่ะ ไม่ต้องการอะไรแล้ว



    ฉันยิ้มเฉยๆ
    และไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก

    บทสนทนาเพียงสั้นๆระหว่่างทาง
    แต่ความคิดกลับยืดยาว
    คงเป็นปกติสำหรับคนอย่างฉันไปแล้ว

    ถึงฉันอยากจะให้เขาได้รู้จักกับความรักของพระเจ้า
    แต่ก็เห็นว่่า เขาสบายใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ดูสงบอย่างที่เขาแสดงออก ฉันอาจจะคิดผิดที่ไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ ; แต่นี่อาจจะเป็นทางเลือกของเขา หากวันหนึ่งที่มีโอกาส ฉันก็หวังว่า อาจจะเป็นฉันที่ได้พูดกับเขาอีก หรือเป็นใครสักคนที่ได้พูดกับเขา 

    แม้ชีวิตจะดูสงบราบเรียบ ไม่มีปัญหาใดๆ
    แต่ฉันอยากให้เขาได้พบกับรอยยิ้มที่เป็นสีสันให้กับใบหน้านั้น อยากให้เขาได้รู้ว่า ชีวิตที่มีพระเยซูคือชีวิตที่มีสันติสุข ท่ามกลางโลกที่โหดร้ายนี้ยังไง


    ส่วนฉันที่มายืนตรงนี้ได้
    ไม่ใช่เพราะความดีของฉัน
    แต่เป็นเพราะพระคุณ ความรัก ของพระเจ้า
    ที่มีต่อฉัน ต่อเขา
    และต่อคุณด้วย




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in