เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
# I N N E R STELLARYES GOOD NO BAD
[2] ไม่กล้าทักอากาศเลยว่าหนาว กลัวว่าจะหายไปแบบแก
  • 19.12.17



    วันนี้เป็นวันที่สองของเดือนธันวาคมที่อากาศหนาวตามคำพยากรณ์ค่ะ เป็นวันที่สองแล้วที่นอนแบบไม่ต้องเปิดแอร์และกลั้นใจเวลาอาบสระผม แต่จริงๆแล้วก็คือชอบมากๆเลยค่ะ ตื่นมาม้วนตัวในผ้านวม นอนสลับคว่ำหงายดูหนังบนเตียงทั้งวันแบบนี้---วันหยุดสิ้นปีนี่มันสุดยอดไปเลย ให้ตาย  เวลาว่างไม่ได้ทำให้ตัวเรา productive เลยเนอะถ้ามันมาพร้อมอากาศเย็นๆ แต่คิดไปคิดมาก็ไม่อยากทำอะไรอยู่ดีถึงจะหนาวหรือไม่หนาว เพราะว่าอีกไม่กี่วันมหาลัยก็จะเปิดเทอมสองแล้ว ต้องกลับไปใช้ชีวิตพังๆอีกรอบ

    วันๆนึงของเราช่วงก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าแมคบุค ไอโฟนแล้วก็ทิชชู่ค่ะ (อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ภูมิแพ้ขึ้นตลอด!)  ส่วนใหญ่ก็ดูหนังดูซีรีย์อะไรไป สลับกับเล่นทวิตเตอร์ไปตามปกติค่ะ แต่ตอนนี้เพิ่มมาอีกอย่างแล้วคือการเปิดบทความใน minimore ค่ะ ฮ่าๆ สำหรับคนชอบเขียนชอบพิมพ์แบบเรา ได้เล่าเรื่องที่อยากเล่าก็มีความสุขแล้วค่ะ วันนี้มาเปิดบทความว่าด้วยเรื่องหนึ่งที่เราอยากพูดถึงมาตลอดและไม่มีเวลาสักที ประจวบกับว่าพี่ที่รู้จักคนหนึ่งโพสทวิตเช้านี้ด้วยประโยคนึงที่ทำให้เราต้องเปิดคอม กดเพิ่มตอนใหม่ในบทความอย่างเร็วเลยค่ะ ทวิตของพี่คนนั้นก็คือ ชื่อของบทความนี้นี่แหละค่ะ


    ไม่กล้าทักอากาศเลยว่าหนาว กลัวว่าจะหายไปแบบแก

    ไม่กล้าทักอากาศเลยว่าหนาว กลัวว่าจะหายไปแบบแก---อ่านแล้วก็ชะงักไปนิดนึงเลยแหละ แบบว่า โอ้ มันก็จริงนี่นะ เราก็เป็นอีกคนที่ไม่กล้าทัก ไม่กล้าพูดอะไรบางอย่าง เพราะกลัวคนบางคนจะหายไป

    ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงที่ควรจะพูดได้ก็เถอะ จะให้โกหกเขาเราก็ไม่อยากทำ เพราะอย่างนั้นก็เลยเลือกที่จะไม่บอกเสียดีกว่า

    เวลามีคนมาปรึกษาเรื่องแอบชอบใครสักคน หรือจะเป็นตัวเราเองที่ไปปรึกษาคนสักคนก็ตาม ก็มักจะมีประโยคยอดฮิตตามมาเสมอ ชอบก็บอกไปเถอะ ชอบก็บอกว่าชอบสิ  ในความเป็นจริงแล้วเนี่ย ถ้าใครเคยผ่านประสบการณ์หน้าแห้ง (หรือจะหน้าเปียกเพราะน้ำตาก็อีกเรื่อง) มาแล้วแบบเรา จะรู้ว่าเรื่องการปฏิบัติจริงมันยากกว่าทฤษฏีมากกกก ในความเป็นจริงมันมีเรื่องอื่นต้องคิดอีกมากกว่าแค่เดินเข้าไป สะกิดหลังแล้วบอกเขาว่า นี่ เราชอบเธอนะ ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนแล้วล่ะ แล้วก็สมหวัง พูดกันตรงๆเปอร์เซนต์ที่จะผิดหวังเนี่ยมันก็มากกว่าสมหวังอยู่แล้ว แต่ มันก็ถูกอีกนั่นแหละค่ะที่บอกกันว่า ได้ลองทำ ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วปล่อยให้เขาหลุดมือไปเฉยๆ อืม น่าคิด มีเหตุผล แต่เราว่า คำนี้มันใช้ได้เฉพาะเรื่องงาน เรื่องเรียนหรืออะไรแบบนั้นมากกว่า แต่พอเป็นเรื่องสารภาพกับใครสักคนว่าชอบเนี่ย

    อ้อ แล้วเราก็ไม่ชอบคำว่าสารภาพรักเท่าไหร่ด้วย เพราะเป็นคนทื่อๆที่รู้สึกว่ามันจะรักได้ยังไงในเมื่อยังไม่เคยเป็นอะไรกัน รักมันต้องสองฝั่งสิ อย่างมากก็แค่ชอบล่ะว้า... (ทื่อแบบนี้ถึงได้โสดยาวๆไงคะ จ๋อย)

    แต่ใครๆก็ต้องเคยลองทำให้กันมาทั้งนั้นแหละเนอะ รวบรวมความกล้าแล้วไปบอกเขาเลย! ถ้าเขาชอบเราเขาก็จะตอบรับเอง---ยินดีกับคนที่สมหวังนะคะ แต่เรามันคนดวงตกที่แท้ทรู พูดง่ายๆว่านกจิ๊บๆ...หน้าแห้งยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะไม่ได้ร้องไห้เลยสักหยด คืนนั้นจำได้ว่าพอได้รับคำตอบของเขาเป็นข้อความ ก็ทำได้แค่คว่ำจอมือถือ เดินไปแปรงฟันแล้วกลับมานอนต่อยันเช้าแล้วไปโรงเรียนต่อในอีกวัน ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องเจอกันกับเขา---ก็เป็นวันที่อึดอัดที่สุดในโลกวันนึงเลยค่ะ เพราะวันนั้นเพื่อนคนอื่นก็ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แล้วเราเองก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้เพื่อความสบายใจของเขาเองด้วย

    ใช่ค่ะ เราเป็นเพื่อนกัน นี่คือเหตุผลที่ว่าการจะบอกเขาคำเดียวมันยากมากๆเลย ความเสียใจของเรามันนิดเดียวเมื่อคิดว่าเขาจะต้องวางตัวยังไงถ้าเพื่อนๆรู้ว่าเขาเซย์โนกับเราที่เป็นเพื่อนของเพื่อนเหล่านั้นอีกที ไหนจะเรื่องที่ว่าเราจะมองหน้ากันและกันติดไหม เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนตอนก่อนที่เราจะทำให้เขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหนและดีพอที่จะทำให้คนๆนึงชอบเขาจะต้องพูดออกไปได้มั้ย แล้วเราเห็นแก่ตัวมั้ยที่ยังอยากมีเขาอยู่ในชีวิตต่อแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ไม่กล้าบอกแกเลยว่าชอบ กลัวว่าแกจะหายไปเหมือนอากาศหนาว 

    เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ



    แต่ว่า เรื่องทำนองนี้มันออกจะคลิเช่และเจอได้ตามหนังหรือหนังสือทั่วๆไปนั่นแหละ แต่เหตุผลที่เราอยากเขียนไม่ใช่เรื่องของเรา แต่เป็นเรื่องของเขาซะมากกว่า เพราะทุกวันนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ดีด้วยค่ะ---เราไม่เคยเข้าหาเขาอีกเลย มีแต่จะถอยออกเพราะกลัวมากและไม่อยากจะรับมือกับอะไรอีกแล้ว เป็นเขาเสียอีกที่คอยเข้าหาเราอยู่ตลอดและทำให้เรายังเก็บมิตรภาพดีๆระหว่างกันไว้ได้จนถึงทุกวันนี้เลยนะ ถึงรู้สึกขอบคุณเขามากๆในทุกๆวันที่ไม่ได้รู้สึกแย่กับสิ่งที่เราบอกไป ถึงจะรู้ว่าเราคาดหวังอะไรกับเขามากกว่านั้น แต่เขาก็ยังชอบที่มีเราเป็นเพื่อนถึงได้พยายามให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ในขณะที่เรากลับคิดเห็นแก่ตัวว่า ถ้าไม่ได้เป็นมากกว่าเพื่อน กูก็ไม่ขอเป็นอะไรกับมึงแล้ว


    เหตุการณ์แบบนี้เนี่ยบางทีไม่ใช่แค่เราที่เสียใจนะคะ โปรดอย่าลืมเลยว่าเขาก็คงเสียใจเหมือนกัน


    เรารู้มาอีกทีว่าเขารู้สึกแย่กับการที่เราตีตัวออกห่าง การที่เราไม่มองหน้า ไม่พูดคุย แล้วทำเหมือนความเป็นเพื่อนที่ผ่านมาเป็นศูนย์เขารู้สึกแย่ที่ทำให้เราโกรธ ทั้งๆที่เขาไม่ได้ผิดอะไรเลยนะคะที่ซื่อสัตย์แต่ความรู้สึกของตัวเอง---คนเห็นแก่ตัวคือเรา คนใจร้ายก็เราต่างหาก เราคิดแบบนี้เลยค่ะตอนที่ได้ยินว่าที่ผ่านมาเขารู้สึกแบบนี้ แล้วก็รู้สึกผิดมากถึงมากที่สุดที่ทำอะไรแบบนั้นลงไป รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีกตรงที่หลังจากรู้เรื่องนี้ ในวันเดียวกันเข้าก็ยังพยายามเข้าหาเราเหมือนเดิม วันนั้นเป็นวันที่เราร้องไห้ค่ะ มากกว่าวันที่รู้ว่าตัวเองผิดหวังอีกแน่ะ ไม่ใช่แค่เราที่กลัวเขาจะหายไป แต่เขาก็กลัวว่าเราจะหายไปเหมือนกัน  นึกไปถึงตอนที่เราตัดสินใจบอกเขาเป็นข้อความยาวเหยียด เขาใช้เวลาไม่นานที่จะเข้ามากดอ่าน แต่ใช้เวลานานมากๆกว่าจะตอบเรากลับมา อืม มันไม่ง่ายเลยจริงๆแหละเนอะกับการที่ต้องบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปโดยที่รู้ทั้งรู้ว่าผลกระทบกลับมันไม่ดีแน่ๆ เหมือนกับตอนที่เราตัดสินใจกดส่ง

    หลังจากนั้นเราเลยพยายามกลับไปเป็นเพื่อนเขาค่ะ แล้วก็ขอโทษด้วย ซึ่งเขาก็ยิ้มแล้วบอกไม่เป็นไร แถมยังถามอีกว่าเราโอเคหรือเปล่า? เราก็ตอบว่าโอเค---มันไม่โอเคกันทั้งคู่นั่นแหละ จริงๆแล้ว แต่บางครั้งเราก็ยอมเหยียบข้ามความรู้สึกของตัวเองเพื่อความรู้สึกของคนอื่นล่ะเนอะ เพราะว่าเขาสำคัญนี่นา  คนสำคัญจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นเพื่อนก็ได้ ขอแค่ยังเป็นอะไรสักอย่างในชีวิตเรานั่นคือที่สุดแล้ว

    ถึงจะโชคร้ายที่ไม่สมหวัง แต่เราก็ยังคิดว่าเรายังโชคดีที่มีอากาศหนาวที่ทักไปแล้ว ก็ยังจะไม่ไปไหน ถ้าถามว่าตอนนี้ยังชอบอยู่ไหม? ก็ไม่ได้อยากเป็นอะไรมากไปกว่านี้แล้ว พอใจกับสถานะตรงนี้และชอบความเป็นเพื่อนมากๆ คิดย้อนกลับไปยังใจหายถ้าวันนั้นเขาช่างมันกับเรื่องนี้แล้วปล่อยให้เราทำตัวบ้าๆบอๆต่อไป เราคงไม่มีเพื่อนคนนึงที่ดีกับเราขนาดนี้จนถึงปัจจุบันค่ะ แฮปปี้เอนดิ้งเนอะ อิอิ


    อันที่จริงมันไม่มีอะไรหรอกค่ะ อยากเขียนถึงก็เลยเขียนถึงเท่านั้นแหละ555 ไม่กี่วันก่อนเพิ่งไปเจอกันมารู้สึกความอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกันหายไปเกือบหมดเกลี้ยงแล้ว! (กว่าจะทำใจได้ขนาดนี้จนมาพิมพ์เล่ากับชิลล์ๆนี่ก็สามปีเลยนะคะ ทำเป็นเล่นไป555)  ประจวบเหมาะกับอากาศหนาวๆกับเวลาอยู่บ้านว่างๆ เลยชิฟท์ตัวเองเข้าโหมดวึ่นวือชีวิตแล้วพิมพ์ยาวเหยียดแก้เบื่อค่ะ พิมพ์จบแล้ว สบายใจ ! เพราะงั้นเราจะขอปิดบทความนี้ไว้เพียงเท่านี้นะคะ และจะขอทิ้งท้ายไว้ด้วย Thank you message สั้นๆ เพราะว่าอยากพิมพ์อะไรเท่ๆเกร๋ๆแบบนักเขียนเก่งๆเขาบ้างค่ะ555


    บทความนี้ต้องขอขอบคุณแกที่ใจดีกับเราที่สุดในโลก แกที่ตามใจเราที่สุดในโลก แกที่น่ารักกับเราที่สุดในโลก! ขอให้แกหลุดพ้นจากความคิดที่ว่าตัวเองไม่ดีเพราะแกดีมากๆ ขอให้แกเลิกเก็บความทุกข์ของคนอื่นมาเครียดให้ได้ไวๆ ขอให้แกได้เจอกับคนดีๆสักคนที่น่ารักกับแกยิ่งกว่าทุกคนบนโลกนี้แล้วเปิดใจรับเขาซะ และขอให้แกเป็นแกที่ดีแบบนี้ไปนานๆ! เป็นเด็กดีของป๊าม๊า! มีอะไรก็ขอความช่วยเหลือได้เสมอเพราะว่าเราตอบเร็วมากๆ! ถ้าอยากกินอะไรหรืออยากดูหนังเรื่องไหนแล้วไม่มีเพื่อนจริงๆค่อยทักมาเพราะเราจะพาแกไปเอง แต่เพื่อนใกล้ตัวแกต้องมาก่อนนะ! ถือโอกาสนี้บอกทีเดียวละกันเพราะปีใหม่แกคงไปเที่ยวกับที่บ้าน แล้วก็ขอบคุณมากๆสำหรับปีนี้ 
    รัก!


    : ความหนาวทำให้คนโม้เก่ง ก็ไม่กล้าทักอากาศเลยว่าหนาว กลัวว่าจะหายไป

    : แต่แกไม่หายไปอยู่ละ กลัวแค่อากาศหนาวนี่แหละ 555

    : เท่านี้แหละค่ะ เจอกันตอนหน้าเมื่อฟ้าต้องการ! - YES GOOD NO BAD


    PS.

    All my condolences to Kim Jonghyun's family, his SHINee members, his friends, his colleagues and his beloved fans. Rest in peace.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in