อันที่จริงเราเกิดไม่ทันยุคของสตาร์วอร์ส ภาคแรกที่ได้ดูก็คือ The Force Awaken ที่เข้าโรงไปเมื่อปี 2015 ซึ่งเพิ่งหยิบมาดูเมื่อวานนี้เองเพราะว่าลืมเนื้อเรื่อง ส่วนหกภาคก่อนหน้านั้นก็อ่านเรื่องย่อแบบละเอียดเอาเพื่อความไม่สับสนเนื้อเรื่อง พอกลับจากโรงวันนั้นก็รู้สึกชอบหนังชุดนี้มากๆเลยพยายามจะหาภาคอื่นๆมาดู แต่ก็ดูไปได้แค่ภาค 1 ที่สร้างเป็นเรื่องที่สี่ หลังจากนั้นก็ไม่มีเวลาดูอีกเลย ลืมไปหมด รู้ตัวอีกทีนึงก็เห็นคำว่า coming soon อยู่บนโปสเตอร์ The Last Jedi แล้ว---จำได้ว่าตอนดูเทรลเลอร์ตัวแรก เรากลั้นกรี๊ดจนน้ำตาคลอ555 ขนาดเราที่มาทีหลังแล้วยังไม่ได้ดูจนครบยังชอบขนาดนี้ แล้วแฟนสตาร์วอร์สตัวจริงเขาจะตื่นเต้นขนาดไหนน้า

เราเป็นคนนึงที่ ถ้าเป็นแฟนหนังเรื่องไหน หรือชุดไหนเราจะอินมากถึงมากที่สุดเวลาได้ดู โดยเฉพาะที่ดูในโรง เราจะรีบเคลียร์เวลาว่างไปดูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้หลังจากหนังเข้าโรงวันพฤหัส---แล้วก็จะรู้สึกพราวด์เล็กๆถ้าได้ดูในวันแรกที่หนังเข้าโรงเลย (ส่วนรอบ sneek-peek นี่ไม่เคย เพราะกลับบ้านดึกไม่ได้ค่ะ555) ยกตัวอย่างเช่น Harry Potter ทำให้เราเข้าไปนั่งน้ำตาคลอตั้งแต่ Hedwig's theme ขึ้นในต้นเรื่อง Fantastic Beasts หรือ The Hobbit ภาคสุดท้ายที่นั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรยันจบ end credit เพราะว่าชอบมากๆจนน้ำตาไหล แล้วก็เสียใจที่นี่จะเป็นภาคสุดท้ายที่เราจะเห็นตัวละครที่เรารักได้โลดเล่นอยู่บนจอ นอกจากนี้ก็ยังมีหนังตระกูล MARVEL ที่ทำเอาอินนักอินหนามาเป็นชาติ---รู้ตัวอีกทีจักรวาลของตัวละครเกือบทั้งหมดที่เรารักก็จะถูกผูกรวมกันแล้ว (Infinity War นั่นเอง!)  เพราะว่าเป็นคนแบบนี้เลยค่อนข้างจะเข้าใจอารมณ์ของคนที่คลั่งหนังชุดสตาร์วอร์สมากๆ แล้วสตาร์วอร์สเองก็มีมานานมากกกกกกกกกด้วย จนถึงตอนนี้ก็ภาค 8 แล้วและยังมีท่าว่าจะไปต่อ นึกถึงคนที่มีชีวิตทันดูภาค 4 ซึ่งเป็นภาคที่สร้างเป็นตัวแรกของหนังชุดนี้ ก็คงจะผูกพันกับหนังชุดนี้ยิ่งกว่าเรามากๆ

ที่มาเขียนวันนี้เพราะเรื่องนี้นี่แหละค่ะ---ความสุขของคนคลั่งหนังชุด แต่ขอใช้ไตเติ้ลเท่ๆด้วยประโยคว่า

เนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดา หนังรอบบ่ายเลยไม่มีคนดูเยอะเท่าไหร่เพราะคนส่วนใหญ่ก็เรียนหรือทำงานกัน เราไปจองตั๋วรอบ 14.00 ตอน 13.30 ยังได้ที่นั่งแถวบนๆตรงกลาง ก็เลยคิดว่าคงจะได้ดูแบบสบายๆละวันนี้ แต่ผิดคาดเลยเพราะว่าพอถึงเวลาฉายจริงคนมานั่งเต็มโรงเลยค่ะ! ก็แปลกนะสำหรับวันธรรมดาแบบนี้ที่จะมีคนนั่งจนเกือบถึงแถวล่างสุดติดจอ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีอายุหน่อยแล้วทั้งนั้นเลย แล้วก็มีชาวต่างชาติมาดูเยอะมากๆ (มีอายุเช่นกัน)  ลุงคนข้างๆเราก็เป็นลุงฝรั่งที่มาคนเดียวเช่นกัน เลยคิดว่า เออ ในอนาคตเราคงเป็นแบบนี้นี่แหละแต่หนังบนจอคงเป็นสักเรื่องของ Marvel (5555555)  อารมณ์ว่า หนังชุดที่เราชอบ เราก็จะดูมันให้ครบไม่ว่าใครจะว่ายังไง หรือจะได้มะเขือเน่าไปเยอะเท่าไหร่เพราะมันเป็นมิชชั่นนึงไปแล้วว่าฉันต้องดูให้ครบ ถ้าไม่ตายก็อย่าหวังจะเลิกดูเลย! และแอบเดาไปแล้วว่าลุงแฟนสตาร์วอร์สข้างๆก็คงจะคิดคล้ายๆเรานี่แหละ สมัยที่เขายังเป็นหนุ่ม เป็นวัยรุ่นคนนึงอยู่

สำหรับเรา เหตุผลนึงที่ไม่ได้ไปดูสตาร์วอร์สภาค 1-3 เป็นเพราะว่าภาพมันเก่ามากกกกกกจริงๆ แล้วเป็นคนดูอะไรแบบนี้ทีไรก็หงุดหงิดตัวเอง เลยชอบภาคหกมากๆเพราะถ่ายด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้นแล้ว (ภาคล่าสุดนี้ยิ่งชอบเลยค่ะ หาเวลาไปดูกันนะคะ!) เลยรู้สึกว่าสตาร์วอร์สไม่ได้เป็นภาพจำของหนังยุคเก่าอีกแล้ว เพราะภาคต่อไปมันก็จะเริ่มเติบโตไปพร้อมๆกับเรานี่แหละ แต่พอนึกถึงลุงฝรั่งข้างๆ...อยู่ๆหนังที่เราเคยดูด้วยภาพแบบนี้ เทคนิคแบบนี้ มันเปลี่ยนไปเป็นความทันสมัยและสมจริงมากขึ้นแบบนี้ แต่มันจะดีกว่าห้าภาคนั้นในความจำของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้  ในโลกที่คนรุ่นเราไม่ชอบถ้าจะต้องกลับไปใช้เทคโนโลยีเก่าๆ (ยกเว้นกระแสวินเทจ เรโทร ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็แค่พวกเสื้อผ้าเครื่องประดับ หรือการตกแต่งสถานที่ซะมากกว่า) คนรุ่นเก่าก็คงรู้สึกยากเหมือนกันที่จะปรับตัวเข้าหาความเป็นโมเดิร์น มีกระแสต่อต้าน The Last Jedi อยู่เหมือนกันนะคะ (พี่ม.บอกว่าถึงขั้นประท้วงให้ถอดภาคนี้ออกจากเส้นเรื่องหลักเลยด้วย...) เพราะมันมีส่วนที่ทำออกมาขาดความคลาสสิคของความเป็นสตาร์วอร์สบ้าง ขลังน้อยลงบ้าง หรือเรื่องของลุค สกายวอล์กเกอร์อีก---ความทันสมัยบางทีก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนพอใจเนอะ อย่างน้อยๆก็กับแฟนสตาร์วอร์สบางกลุ่มที่ agianst หนังภาคนี้นี่แหละ

แต่ลุงข้างเราดูชอบนะคะ ฉากตื่นเต้นๆนี่แกนั่งหลังตรง เอนเข้าหาเจออัตโนมัติเลยค่ะ555

ส่วนตัวเราว่าถ้าไม่นับเรื่องการถ่ายทำหรือเทคนิคต่างๆ มันก็ยังคงมีความ Starwars อยู่นะคะ เช่นเพลงเปิดเรื่องกับตัวอักษรสีเหลืองเป็นพรืด, เทคนิคการเปลี่ยนซีนแบบสมัยก่อน, การทำให้ตัวละครบางตัวมีความติดขัดเล็กน้อยเหมือนกับที่สร้างในยุคก่อน เช่นพวกดรอยด์ของฝั่ง The Resistance หรือจะเป็นรายละเอียดเล็กๆอื่นๆที่เราดูแล้วก็รู้สึกว่า มันก็ไม่ได้ใหม่ซะทีเดียวทั้งหมด แต่ทำไงได้ กล้องมันดีนี่นา...

ส่วนตัวเราชอบมากนะ เราอยากให้เด็กๆเข้าถึงสตาร์วอร์ส เพราะว่ามันดีอ่ะ เรายังชอบเลย!

สตาร์วอร์สนี่ ดูแล้วก็เข้าใจได้ว่าทำไมเมื่อก่อน เด็กทุกคนมันต้องมีฟีลลิ่งอยากเขียนในช่องอาชีพในฝันว่า เจได สักครั้งในชีวิต  หยิบไม้มาแกว่งเป็นไลท์เซเบอร์แล้วทำเสียงหวืดหวืดเหมือนในหนัง หรืออยากทำทรงผมเจ้าหญิงเลอาสักครั้ง! (อันนี้เป็นความอยากของเราเองค่ะ 555) เพราะว่ามันยูนีคมากๆ และมันโคตรเท่ ถึงพอโตมาจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว ก็คงเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเหมือนอยากติดตามเรื่องราวของคนรู้จักว่าจะเป็นยังไงในภาคต่อไป ภาคต่อๆไป หรือภาคต่อๆๆๆๆไปเรื่อยๆอีกเพราะว่ามันดี! เราก็เป็นโรคจิตอีกนั่นแหละที่เป็นพวกอยากรู้ตอนจบนะ แต่กับหนังที่ชอบก็ไม่อยากให้มันจบเลย อยากดูตัวละครที่เราชอบเรื่อยๆไปจนแก่เลย จะว่าไบแอสก็ได้ แต่มันเป็นความสุขของคนคลั่งหนังชุดนี่นา

ว่าแล้วก็อยากดูภาคต่อไปแล้วอ่ะ!

ออกจากโรงแล้วอินเหมือนตอนปี 2015 อีกละ---อยากจะ May the force be with you กับทุกคนเลย

ขอสักหน่อยละกัน555  May the force be with you นะคะ Always เลย!

ก่อนจากไป สำหรับคนที่กำลังจะไปดู The Last Jedi

1. Red Guard ในห้องของสโน๊ค...เหมือนล็อบสเตอร์มาก555555555555555555

2. ส่วนอ.ท่านหนึ่ง เหมือน. Pickle อ่ะ แง555555555555555555555

3. บีบีเอท น่ารักที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกก

4. บนเกาะเจไดมีแต่ตัวน่ารักๆ T_____T

5. นางเอก Chewing Gum (Netflix) เล่นด้วยวินึง เป็นฝ่ายต่อต้าน ลองหาดู55555555555

6. แก้วน้ำไลท์เซเบอร์ที่เมเจอร์พารากอน หมดแร้ว....

7. ไปดูเถอะ อวย! ไปหาเรื่องย่อดูก่อนก็ได้

: ขอจบบทความนี้เพียงเท่านี้ค่ะ~

: YES GOOD NO BAD, แม่บ้านบนเกาะวิหารเจได