สำหรับสัปดาห์ที่ 9 ก็ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษจากสัปดาห์อื่น ๆ เท่าไหร่ แถมยังเปิดเรียนแค่ 3 วันจากนั้นก็หยุดยาว ๆ ไปอีก 4 วัน เราเลยขอข้ามไปเล่าเรื่องราวในสัปดาห์ที่ 10 สัปดาห์สุดท้ายของการฝึกงานของเราเลยดีกว่า
ในสัปดาห์ที่ 10 นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเราและเป็นสัปดาห์ที่เด็ก ๆ ชั้นอนุบาลจะต้องสอบครั้งแรกของเทอมแต่จะเรียกว่าสอบก็คงจะไม่ถูกสักเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นการประเมินพัฒนาการและดูว่าเด็ก ๆ สามารถแยกสี รูปร่าง ตัวเลข ตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษตามที่คุณครูถามได้หรือไม่ ซึ่งสำหรับ 1/4 แล้วก็มีบางคนที่สามารถตอบได้ตามที่คุณครูชี้ทั้งหมด แต่บางคนก็ยังไม่ยอมพูด ซึ่งเมื่อประเมินกันครบทุกคนแล้วก็จะต้องแจ้งผลให้ผู้ปกครองเพื่อที่จะหาแนวทางและวิธีที่จะกระตุ้นเด็กที่พัฒนาการยังด้อยกว่าวัยควบคู่กันไปทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
และเนื่องจากในสัปดาห์นี้ คุณครูประจำชั้นหลาย ๆ ห้องต้องสลับกันไปประเมินเด็ก ๆ ในแต่ละห้องแต่ละชั้น จึงทำให้เราที่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นผู้ประเมินต้องสลับไปเฝ้าและสอนเด็ก ๆ ชั้นอื่น ๆ แทนคุณครูหลาย ๆ ห้อง ซึ่งทำให้เราประหม่ามากเพราะปกติก็ไม่เคยได้สอนจริงจังขนาดนั้นแล้วก็ไม่ได้สอนทั้งห้อง เพียงแค่สอนเป็นกลุ่ม ๆ หรือเฝ้าเด็ก ๆ ให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในตอนที่ครูอรหรือครูจิ๊บไม่อยู่เท่านั้น แต่อันนี้เราต้องไปคนเดียว! กับเด็ก 20 คนและยังเป็นเด็ก ๆ ที่ไม่คุ้นเคยเลยด้วย ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็เถอะ แต่ก็ถือเป็นงานสุดหินในสัปดาห์สุดท้ายกันเลยทีเดียว แต่เมื่อคุณครูมอบหมายให้แล้วก็ต้องทำให้ได้!
ในช่วงเช้าของวันจันทร์และอังคารเราต้องไปเฝ้าห้องอนุบาล 3 เพราะครูอ้อต้องไปเป็นผู้ประเมินให้น้อง ๆ อนุบาล ครูอ้อก็ได้สั่งงานเด็ก ๆ เอาไว้แล้วและให้เราช่วยสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเด็ก ๆ มีคำถามหรือไม่เข้าใจตรงไหนและบอกอีกว่าเด็ก ๆ อนุบาล 3 สอนไม่ยากเพราะเริ่มโตแล้วและพูดรู้เรื่อง อาจจะมีบางคนที่พัฒนาการช้าบ้างต้องสอนย้ำ ๆ งานที่ครูอ้อฝากไว้ให้ก็เป็นเป็นฝึกหัดบวกเลขหลักเดียวง่าย ๆ ซึ่งเด็ก ๆ บางคนก็ทำได้เลยเพราะเด็ก ๆ บอกเราว่าครูอ้อสอนแล้ว แต่บางคนก็ยังไม่เข้าใจหลักการของบวกเลขเท่าไหร่เราจึงต้องค่อย ๆ สอนตั้งแต่ลองใช้นิ้วนับเพิ่มแทนการบวกไปจนถึงใช้ดินสอสีในการแสดงหลักการของการบวกให้ดู เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจมากขึ้น
ในสัปดาห์นี้นอกจากจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเราแล้วยังเป็นสัปดาห์ที่จะมีการนิเทศฝึกงานโดยครูกิ๊บอีกด้วย เรื่องตลกก่อนการนิเทศก็คือเราและครูอรพยายามเคลียร์งานและทำตัวให้ว่างเพื่อเตรียมพร้อมให้ครูกิ๊บสัมภาษณ์แต่พอครูกิ๊บเข้ามาเท่านั้นแหละ งานก็เข้าเลย (มีผู้ปกครองขอมารับน้องกลับบ้านตอนบ่ายโมงพอดี เราเลยต้องเขียนสมุดประจำวันให้น้องก่อน) แล้วตอนแรกเรากะว่าจะไปนั่งคุยกับครูกิ๊บข้างนอกเพราะในห้องค่อนข้างมืดและกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนกลางวันของเด็ก ๆ แต่ฝนดันตกลงมาแบบไม่บอกไม่กล่าว กลายเป็นว่าที่แพลนเอาไว้ก็เละไม่เป็นท่าเลยวันนั้น แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งครูอรและครูจิ๊บก็ชมเราว่าเราใจเย็นกับเด็ก ๆ และมีความอดทนมากเพราะเด็ก ๆ ซนกันมาก ถ้าไม่รักเด็กจริง ๆ คงไม่ไหวแล้ว (ซึ่งความจริงแล้วเราก็แอบกำหมัดไว้ในใจเหมือนกันแหละแต่ก็ต้องใจเย็นเข้าไว้และไม่ใช้อารมณ์กับเด็ก ๆ เพราะถ้าเราทำแบบนั้นมันคงเป็นความทรงจำที่ไม่ดีของเด็ก ๆ ไปจนถึงเขาโตเลยก็ได้)
ในวันสุดท้ายของเราครูอร ครูไก่ ทีชเช่อก็ให้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเราบอกว่าจะได้คิดถึงเด็ก ๆ ทีชเช่อก็ congratulations เราล่วงหน้าเลยขอให้ธีสิสของเราออกมาดีและสู้ ๆ กับการเรียนปี 4 คุณครูหลาย ๆ คนก็มาอวยพรให้เราโชคดี ไว้มีโอกาสก็กลับมาหาเด็ก ๆ ได้เสมอ
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณคุณครูที่คอยสอนคอยแนะนำว่าเราต้องพูดคุยกับเด็กอย่างไร ขอบคุณที่ทำให้เราได้ลองทำอะไรที่เราก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเราจะได้ทำ ขอบคุณเด็ก ๆ ทุกคน ขอบคุณโรงเรียนศุภลักษณ์ ขอบคุณตัวเองที่ลดกำแพงในใจและเลือกมาฝึกงานที่นี่ หลังจากวันนี้จะไม่ต้องตื่นเช้ามาทำงานและรอส่งเด็ก ๆ ทุกคนกลับบ้านเหมือนทุกวันแล้ว คงคิดถึงเด็ก ๆ และข้าวกลางวันของครูอรกับทีชเช่อมาก ๆ เลย หวังว่าเด็ก ๆ จะดื้อและซนกับคุณครูน้อยลงนะ เป็นเด็กดีและใช้ชีวิตวัยเด็กให้สนุกสุด ๆ ไปเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in