พอเริ่มทำงานแล้ว
เรารู้เลยว่าชีวิตคนกรุงเป็นเช่นนี้หนอ
เราตั้งปลุกเวลาตี 5 นิดๆ..ที่มือถือ
พอถึงเวลา เราสะดุ้งตื่น
กับเสียงน่ารัก ..Have a nice day !!
แต่เป็นเสียงที่เราไม่อยากได้ยินเลย ?
เราเอื้อมมือไปกดมือถือ..
ขอนอนต่ออีกสัก 2-3 นาที นะ
แล้วเราค่อยๆยอมลุกขึ้นมาแต่งตัว
เราใช้เวลาราวเกือบชั่วโมง
ก็พร้อมเดินทางออกจากบ้าน
ออฟฟิศเราอยู่กลางใจเมือง
เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
และเดินเท้าต่อ ..กล้ามขาแข็งแรงมาก
ทั้งหมดใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่ง
เมื่อถึงออฟฟิศ..
เราเป็นคนแรกๆที่ถึง
ป้าแม่บ้านทำความสะอาด
ก็มาทักทาย..หนูมาเช้าจัง
และใครๆก็รู้กันว่า..บ้านอยู่ไกล
เพื่อนๆที่บ้านอยู่ใจกลางเมือง
ก็จะมาช่วง 8.30 น. - 9.00 น. กัน
มันช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ??
ข้อดีของการมาเช้า
เราก็เลยมีเวลาหาขนมอร่อยๆทาน
อ่านทบทวนตำราที่พี่ๆเค้าแนะนำมา
ถือคติเสียว่า..
เวลาก็เดินหน้าไปเรื่อยๆ
ดวงอาทิตย์ยังขึ้นทุกเช้า
ไม่มีวันไหนที่ขี้เกียจขึ้นมาฉายแสง
ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไป
สร้างโอกาสใหม่ๆ ในทุกๆวัน
ดั่งคำที่ว่า
"นกที่ตื่นเช้า ย่อมจับหนอนได้ก่อนใคร"
.
.
แล้วเราก็เรียนรู้ตามโปรแกรมต่างๆ
การทำงานร่วมกับเพื่อนๆ
ชีวิตสนุกสนาน ท้าทายดี
ช่วงอาหารกลางวัน เราก็ตระเวน
หาร้านอาหารอร่อยๆ หมุนเวียนเปลี่ยนไป
พอช่วงเย็นก็ต่างแยกย้ายกลับรัง
กลับถึงบ้านก็ประมาณทุ่มเศษ
โห เราอยู่นอกบ้าน 13 ชั่วโมงเลย
อีกหน่อย..งานจริง งานหนัก
คงกลับถึงบ้าน 3-4 ทุ่มกันทีเดียว
.
.
ชีวิตนี้เพิ่งเริ่มต้น..
หนุ่มสาวพลังเยอะ..อย่ายอมแพ้
เรามีพลัง..คนรุ่นใหม่นี่นา
เราจะมุ่งมั่น ก้าวไกล ไปให้ถึง
สิ่งทึ่เรามุ่งหวัง และฝันไว้
อึ้บ..หายใจเข้า-ออก ลึกๆ ช้าๆ
ให้ออกซิเจนเข้าสู่ปอดเต็มทึ่
สร้างพลังให้ร่างกายเต็มที่
สร้างพลังใจให้มุ่งมั่น ไม่หวั่นไหว
เราจะเพียร หมั่นฝึกฝน และอดทน
ใช้ความรู้ที่ครูบาอาจารย์ท่านเพียรสอนมา
อีกความรู้จากเจ้าสำนัก อีกหลากหลาย
ประยุกต์ทุกสรรพความรู้กับการงาน
มีมนุษยสัมพันธ์ ทำงานร่วมกันเป็นทีม
หากผิดเป็นครู แก้ไขเป็นบทเรียน
สร้างเสริมประสบการณ์ ให้มีความชำนาญ
ก้าวหน้าสู่เป้าหมายไปด้วยกัน
?????
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in