เวลา 6.00น. ณ บ้านจ่าโบ่ หมอกลงหนามาก เรียกได้ว่าขาวไปทั้งถนนเลยทีเดียว

ภารกิจของวันนี้คือการพาตัวเองขึ้นไปแตะหมอกที่ด้านบนของ “ภูผาหมอก”

ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของบ้านจ่าโบ่แห่งนี้ ระยะทางจากบ้านจ่าโบ่ถึงภูผาหมอก

ใช้เวลาแค่ 10 นาที สามารถเดินไปได้ แต่ไกด์ของเราได้เตรียมรถเครื่อง (มอเตอร์ไซค์) เอาไว้ให้เราแล้ว

ลุยเลยละกัน !!

“ โอ้ยยย! ช้าลงหน่อยเพื่อน กูหนาวววว ”

“ หมอบต่ำไว้มึง อย่าให้เสียชื่อคนกรุงเทพ ”

สิ่งที่อยากแนะนำก่อนจะขึ้นภูผาหมอก (ภายหลังจากที่ได้บทเรียนมา) ก็คือ

-คนที่ไม่เคยขึ้น แนะนำให้ติดต่อไกด์ของพื้นที่ โดยจะเสียค่าไกด์คนละ 150 บาทครับเพราะ

แค่ทางเข้าก็อะเมซิ่งแล้ว มันคือโพรงหญ้าธรรมดาๆ ถ้าไม่มีรถจอดอยู่คงจะงมโข่งกันถึงเที่ยงอะ

-เส้นทางที่เราใช้ในการขึ้นภูผาหมอกจะเป็นเส้นทางธรรมชาติตลอดทาง 

และจะต้องปีนขึ้น-ลง บิดซ้าย-ตะแคงขวา ลื่นหนึ่งครั้งไม่ใช่แค่ถลอกแน่นอน

ดังนั้นควรจะหารองเท้าที่ปลอดภัยใส่ขึ้นไป เลี่ยงรองเท้าแตะได้จะดีมากครับ

-พกสัมภาระไปให้น้อยที่สุด เพราะเส้นทางค่อนข้างแคบ และหินตามเส้นทางค่อนก็แหลมเหลือเกิน

การแบกนู่นนี่นั่นไปด้วย อาจจะลงเอยด้วยการเกิดความเสียหาย อย่างเช่นเพื่อนของเราที่

เสียโทรศัพท์ไประหว่างทางลง

ประมาณ 20นาที จากจุดเริ่มต้น และแล้วเรามก็มาถึงจุดสุดยอด ของภูผาหมอก

“ โอ้ โหวววววว!! ”

“ ไหนๆ ด้านบนเห็นอะไรบ้างวะแมน? ”

“ ขาวววจั๊วะ! ”

“ รอแปป อยาก... ”

“ เอิ่มม...อยากโดดลงไปจัง “

เอาเป็นว่าด้านบนของวันนี้ ขาวจริงๆครับ ถึงจะอย่างนั้น 

เราก็ยังคิดว่าในไม่ช้าเมฆหมอกจะจางไป

...ครึ่ง ชม. ผ่านไป ความหวังยังไม่หายไปไหน “อีกนิดนึงละกัน”

..............ตอนนี้ผ่านไป 50 นาที ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ 

“ ป่ะ! มึงกู ลงไปกินเตี๋ยวกัน ”

หลังจากนั้นพวกเราก็ลงมาด้วยความเสียดาย และความเสียหายที่ได้บอกไว้ตอนต้น 

แต่ไม่เป็นไร ทริปนี้ยังอีกยาวไกล 

เราเลือกจุดนัดพบกับคู่ของเป๊ป ไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา ที่เป็นร้านอันเลื่องชื่อของที่นี่

ต้องแวะเวียนกันเข้าไปทุกคน

“ อ๋อ! อร่อยขนาดนั้นเลยหรอวะ ? ”

“ ป่าว มันไม่มีตัวเลือกอื่น ”

หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จ 

เราจะออกเดินทางกันต่อ ซึ่งจุดหมายถัดไปของพวกเราคิดว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว

แต่ถ้าไม่ไปด้วยกันก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นยังไง

หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จ 

เราจะออกเดินทางกันต่อ ซึ่งจุดหมายถัดไปของพวกเราคิดว่าหลายๆคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว

แต่ถ้าไม่ไปด้วยกันก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นยังไง

เพราะฉะนั้น ติดตามได้ในตอนต่อไป ของพวกเรา 

มึงกูไปเที่ยวกัน

แล้วเจอกัน