เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ภาพวาดโครงกระดูก เล่ม 1
  • ภาพวาดโครงกระดูก เล่ม 1
    ผู้เขียน : ซีจื่อซวี่
    ผู้แปล : qMondae
    EverY
    4 เล่มจบ

    *รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*

              กรี๊ดมากกก ต้องบอกก่อนนะว่าก่อนหน้านี้เราตามผลงานของคุณ ซีจื่อซวี่ อยู่ค่ะ นั่นก็คือเรื่อง My Five Elements are Short of You ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกที่ทำให้เรารู้จักคุณเค้า และมันถูกสเป็คเรามาก แบบใช่เลย เหมือนเจอรักแรกพบ

              พอรู้ว่า EverY กำลังจะออกผลงานของคุณซีจื่อซวี่บ้างแล้วก็เป็นแนวหลอนๆ เหมือนกันก็คือตั้งตารอเลย แบบไม่ต้องอ่านตัวอย่างก็ได้เพราะซื้อแน่ 5555

              สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นแนวสยองขวัญ+คอเมดี้ ในเล่มแรกส่วนตัวยังไม่นับว่ามีฉากโรแมนซ์นะ เป็นช่วงเพาะปลูกความสัมพันธ์แบบนี้ดีกว่า

              เรื่องราวพูดถึง หลินปั้นซย่า ที่ย้ายเข้ามาอยู่ห้อง 1303 ย่านแหล่งที่อยู่อาศัยราคาถูกแต่บรรยากาศกลับไม่เป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตเท่าไหร่เพราะดูๆ ไปเหมือนมันไม่มีคนเช่าเลย เขาเข้ามาอยู่พร้อมเพื่อนที่คบกันมานานอย่าง จี้เล่อสุ่ย

              ย้ายเข้ามาไม่ทันไร จี้เล่อสุ่ยก็ได้เจอกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติมากมาย พูดง่ายๆ ว่าตัวเองเหมือนกำลังถูกผีหลอกนั่นแหละ จะย้ายออกไปก็ย้ายไม่ได้ โดนหลอกจนแทบบ้า ตรงข้ามกับหลินปั้นซย่าที่ไม่ได้เจอเรื่องราวแปลกประหลาดอะไรเลย

              แต่เขาได้พบกับเพื่อนข้างห้อง ซ่งชิงหลัว ชายหนุ่มท่าทางประหลาดที่ในห้องเต็มไปด้วยหีบเล็กใหญ่มากมาย ไหนจะหลังจากนั้นที่หลินปั้นซย่าเริ่มได้สัมผัสกับเหตุการณ์แปลกๆ ทั้งหลาย ก่อนจะค้นพบว่าสถานที่ที่เขาอยู่อาศัยนั้นไม่ใช่ที่อยู่อาศัยของคนทั่วไป แต่เป็นเหมือนสุสานสำหรับเก็บโถอัฐิต่างหาก

              ส่วนตัวเราว่าอ่านช่วงสองสามบทแรกค่อนข้างน่ากลัว ตอนแรกใจคิดไปเลยว่าอาจจะมาเน้นความสยองอย่างเดียวหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เลย มันแอบขายขำตรงตัวหลินปั้นซย่านี่แหละ

              หลินปั้นซย่าเป็นพวกมนุษย์ความรู้สึกช้า โดนหลอกก็ไม่รู้ตัว เจอผีเกาะอยู่บนฝ้าก็ไปหาไม้สอยผ้ามาสอย กว่าจะรู้สึกกลัวก็เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้ว เป็นผีมาหลอกคงจะเสียผีเพราะรู้สึกทดท้อใจอยู่บ้างแหละ

              แถมหลินปั้นซย่ายังทำงานเกี่ยวกับพวกกู้ศพจากอุบัติเหตุต่างๆ พวกศพเละๆ เพราะถูกรถไฟทับอะไรทำนองนั้น แล้วเพราะความรู้สึกช้าก็เลยทำงานนี้มาได้นานสองสามปีแล้ว ดูๆ ไปเหมือนคนไม่กลัวอะไร สิ่งเดียวที่หลินปั้นซย่ากลัวคือ...ความจน (ไอดอลว่ะ)

              ส่วนซ่งชิงหลัวเพื่อนข้างห้องที่ไม่นานก็ย้ายมาเป็นเพื่อนร่วมห้องก็ดูมีฟามลับเพราะมีหีบแปลกๆ เต็มห้องแถมยังจัดการเรื่องเหนือธรรมชาติได้ด้วย ซึ่งต่อมาเราจะได้รู้กันว่าเขาทำงานให้องค์กรอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ เรื่ององค์กรนี้เรายังไม่เข้าใจที่มาที่ไปของมันเท่าไหร่เพราะในเล่มแรกยังไม่มีอธิบายอย่างชัดแจ้ง แต่จากที่อ่านดีเทลรวมๆ เอาในเล่มคือมันมีความเป็นวิทยาศาสตร์มาก ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์มาตั้งสมมติฐานและทำการทดลองกับเรื่องเหนือธรรมชาติทั้งหลาย ซึ่งซ่งชิงหลัวเหมือนจะเป็นคนดังในองค์กรด้วย

              เล่มแรกนั้นหลังจากที่ซ่งชิงหลัวยื่นมือเข้าช่วยจี้เล่อสุ่ยผู้ถูกผีหลอกจนแทบอยู่ไม่ได้ เปลี่ยนห้องกันให้จี้เล่อสุ่ยไปอยู่ห้องเขาแล้วเขามาอยู่ห้องเดียวกับหลินปั้นซย่าแทน จากนั้นก็มีเคสเกี่ยวกับที่ทำงานของหลินปั้นซย่า ต่อมาถึงช่วงลาพักร้อนของหลินปั้นซย่า ซ่งชิงหลัวกำลังอยากได้คู่หูในการทำงานพอดีเลยชวนเขาไปหาเงิน เพราะงานที่ซ่งชิงหลัวทำนี่ถึงจะอันตรายไปหน่อยแต่ได้เงินดี สวัสดิการก็เยี่ยม หลินปั้นซย่าผู้กลัวจนมากกว่ากลัวตายก็เลยผงกหัวไปกับซ่งชิงหลัว ใช้เวลาช่วงลาพักร้อนไปที่หมู่บ้านหลังเขา ที่ซึ่งในหมู่บ้านนั้นเกิดเหตุคนตายประหลาดหลายสิบคนติดต่อกัน และคนในองค์กรที่เข้าไปก่อนหน้านี้ก็ไม่รอดเหมือนกัน

              หลังปิดเคสไปได้ช่วงท้ายเล่มทั้งสองคนเดินทางไปยังประเทศรัสเซีย เพราะมีเคสด่วนสุดอันตรายเข้ามา และจบเล่มไปได้อย่างน่าติดตาม หวังว่าเล่มสองจะมาเร็วๆ

              ถามว่ามันน่ากลัวมั้ยก็แอบน่ากลัว ในแง่การบรรยายเราจะรู้สึกว่ามันก็คือผีเว้ย แต่ในมุมมองของคนในองค์กรอย่างซ่งชิงหลัวก็คือมองเป็นวิทยาศาสตร์หน่อยๆ อย่างการเป็นพลังงานชนิดหนึ่งที่มีกลไกการทำงานของตัวเองอยู่อะไรทำนองนี้ แต่ในแง่ผู้อ่านก็คือแอบสยอง มันมีความ gross ความบรรยากาศอึมครึมแฝงอยู่ตลอดเล่ม อย่างเคสที่ไปหมู่บ้านหลังเขาแบ็คกราวนด์คือฝนที่ตกลงมาทั้งวันทั้งคืน ส่วนรัสเซียก็เป็นเหมือนมิติทิ้งร้างที่คนในหมู่บ้านหายไปหมด อ่านแล้วมีเสียวสันหลังนิดๆ

              แต่มันก็มีความขำปนอยู่ตรงตัวหลินปั้นซย่าเพราะเอ็นดูมากน้องเป็นพวกความรู้สึกช้าแล้วแอบมึนๆ หน่อยๆ ส่วนซ่งชิงหลัวเป็นพวกเงียบๆ ไม่ค่อยพูด คนอื่นจะเกรงใจเขามาก แต่เวลาเขาอยู่กับหลินปั้นซย่าบรรยากาศจะต่างออกไป แบบแชร์โค้กขวดเดียวกัน นอนด้วยกัน ซื้อไส้กรอกย่างให้กิน อะไรทำนองนี้

              อย่างที่บอกไปว่าเรื่องโรแมนซ์ยังไม่มีแต่ความสัมพันธ์ทั้งสองคนดีมาก แบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยเรียนรู้กันแบบนี้ดีกว่า แต่เค้าสองคนก็ห่วงกันนะ เล่มหน้าในแง่ความสัมพันธ์น่าจะคืบหน้ามากกว่านี้ ถ้าชอบ My Five Elements are Short of You ก็อยากให้ลองอ่านภาพวาดโครงกระดูกค่ะ เพราะมันเป็นเคสๆ ไปแต่เนื้อหามันเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ติดขัด หรือใครชอบภาพวาดโครงกระดูกก็แนะนำว่าต้องอ่าน My Five Elements are Short of You เลยแหละ เพราะสนุกม๊ากกกก

              ที่สำคัญปกสวยทั้งสองเรื่องเลย My Five Elements are Short of You เป็นปกภาพคนสีสันสดใสไม่เหมือนเนื้อใน 5555 ส่วนภาพวาดโครงกระดูกคือสวยตะลึง ชอบม๊ากๆๆๆ เราไม่ได้ไปซื้อในงาน Y Book fair อดได้โปสเตอร์กับพัดรูปปกเลย ㅠㅠ

              เราติดนิดหน่อยคือภาพวาดโครงกระดูกเอาช่วงพวกโรงละครโรงเล็กไปรวมกันด้านหลังหมดเลย อย่างมายไฟว์คือเอาไว้ต่อท้ายในแต่ละบท เพราะทุกบทก็จะมีช่วงนี้แทรกไง แต่อันนี้เอาไปรวมไว้ท้ายเล่มแล้วเขียนว่ามาจากบทไหนๆ คือมาอ่านทีหลังแบบนี้มันไม่ได้อารมณ์แล้วอ่ะเพราะแต่ละตอนย่อยเล็กๆ ตรงนี้มันจะรีเลทกับแต่ละบทไง เลยแอบเซ็งตรงนี้ติดหน่อย

              ยังไงเป็นอีกเรื่องที่อยากให้ลองกัน ใครชอบแนวสยองขวัญหน่อยๆ มีมุมตลกแทรกตลอดเรื่องน่าจะชอบค่ะ


    contact me
    twitter : @malavitabb



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in