เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ยุทธภพกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เล่ม 1-2 (จบ)
  • ยุทธภพกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้
    ผู้เขียน : อวี่เชี่ยวหลานชาน
    ผู้แปล : อู่ตงลู่
    Muzes Books
    2 เล่มจบ


              จดๆ จ้องๆ อยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็ได้ฤกษ์อ่านสักที

              ความจริงเราตามตั้งแต่ช่วงที่สำนักพิมพ์ลงทดลองอ่านแล้วค่ะ แต่ว่าเพิ่งได้มาอ่านเล่มเต็มก็ช่วงนี้แหละ ยุทธภพกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ คนแต่งเดียวกับเรื่อง เล่ห์กลจักรพรรดิ และเรื่องนี้มีด้วยกันทั้งหมด 2 เล่มจบ แต่หนามาก หนาแบบถือหนังสือแล้วปวดข้อมือ 5555 แต่หยวนให้เพราะปกสวย โดยเฉพาะเล่มแรก

              ยุทธภพกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เป็นเรื่องราวของ จู้เยี่ยนอิ่น คุณชายรองสกุลจู้แห่งเจียงหนาน เกิดในสกุลบัณฑิตผู้ร่ำรวยแต่เจ้าตัวกลับชื่นชอบเรื่องราวในยุทธภพมากแทบคลั่ง วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุทำให้ความจำเสื่อมไปช่วงหนึ่ง ตอนที่ฟื้นขึ้นมาดันเข้าใจไปว่าตัวเองเป็นจอมยุทธ์ผู้แสนโชคร้ายที่สูญเสียวรยุทธ์ไปอีก

              สกุลจู้ยกมือกุมหัวแล้ว หมอที่ไหนก็ไม่สามารถรักษาได้ คิดไปคิดมาจึงตัดสินใจส่งตัวคุณชายรองจู้ไปรักษาตัวกับหมอเทวดาแห่งยุทธภพ เจียงเซิ่งหลิน ประจวบเหมาะกับตอนนั้นเจียงเซิ่งหลินกำลังรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรังให้กับ ลี่สุย ประมุขวังว่านเริ่นที่แม้จะไม่ใช่ประมุขมารแต่ก็เป็นยิ่งกว่าประมุขมารคนนั้นอยู่

              ที่บอกว่าไม่ใช่ประมุขมารแต่เป็นยิ่งกว่าประมุขมารนั่นเพราะลี่สุยสีหน้าเย็นชาโหดเหี้ยม หนึ่งดาบพิฆาตสิบหัว กระทั่งประมุขยุทธ์ตัวจริงยังไม่ค่อยอยากจะหือจะอือกับเขา พูดง่ายๆ คือลี่สุยเก่งมาก เก่งโคตร เก่งที่สุดในยุทธภพ เป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าที่แท้จริง

              และเพราะตอนนั้นนิยายมารอุบัติขึ้นที่นครเสวี่ยเฉิงทางตงเป่ย เหล่าผู้กล้าฝ่ายธรรมะเลยรวมตัวกันมุ่งหน้าไปปราบมารธำรงความสงบสุข หมอเทวดาเจียงไม่สามารถทิ้งการรักษาลี่สุยไปกลางคันได้ แต่จะไม่รักษาให้คุณชายรองจู้ก็ยังไงอยู่ สุดท้ายเลยออกความเห็น ไม่สู้คุณชายรองจู้ก็ตามขบวนผู้กล้าฝ่ายธรรมะไปด้วยกันเถอะ!

              คุณชายรองจู้ชื่นชอบเรื่องราวในยุทธภพอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องไป แต่เป็นถึงคหบดีแห่งเจียงนานทั้งทีจะไม่โอ่อ่าได้ยังไง ดังนั้นขบวนของจู้เยี่ยนอิ่นจึงใหญ่โตอลังการ ทุกอย่างครบครันสง่างาม ร่ำรวยเสียจนคนต้องยกมือบดบังแสงแห่งเศรษฐีไม่ให้แยงตามากเกินไป

              แน่นอนว่าคุณชายรองจู้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยุทธภพสักนิด เขาวาดภาพยุทธพตามที่เคยอ่านมาในนิยายยุทธจักร พอมาเจอของจริงเลยเกิดอาการเข่าอ่อน ยิ่งไปเห็นประมุขลี่ผู้ซึ่งสามารถสังหารสิบคนในกระบี่เดียว เลือดสาดกระจายในยามค่ำคืนกับตา จู้เยี่ยนอิ่นถึงกับไข้ขึ้น ได้ยินชื่อลี่สุยเป็นต้องสลบ ได้เห็นหน้าลี่สุยเป็นต้องอาเจียน แต่ก็ยังต้องเดินทางไปกับคนผู้นี้ หมอเทวดาเจียงก็หนักใจ ต้องรักษาคนบาดเจ็บเรื้อรังกับคนที่ป่วยทางสมองไปพร้อมกันแต่ทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้แบบนี้มันชวนให้ปวดหัว สุดท้ายก็ให้ประมุขลี่พยายามเอาใจคุณชายรองจู้หน่อย สกุลจู้อุตส่าห์เอาของดียาดีมาให้ท่านกินท่านก็ตอบแทนเขากลับไปหน่อยเถอะ จะเล่าเรื่องตลกหรือแสดงวรยุทธอะไรก็ทำไป

              แรกๆ ประมุขลี่ทำแบบจำใจ ไปๆ มาๆ ดันกลายเป็นการเสพติด ชื่นชอบการบีบขยำใบหน้าของคุณชายรองสกุลจู้เป็นอย่างยิ่ง ไปๆ มาๆ ก็สนิทสนมกัน ขี่ม้าตัวเดียวกัน กินบะหมี่ด้วยกัน จนเหล่าผู้กล้าในขบวนประหลาดใจ คิดว่าคุณชายรองสกุลจู้ช่างสุดยอด สามารถสนิทสนมกับประมุขลี่ที่ใครเห็นเป็นต้องผวาผู้นั้นได้ด้วย

              นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายขายขำที่พอเอาเข้าจริงเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรเลย ไทม์ไลน์หลักๆ คือการเดินทางไปปราบนิกายมาร ระหว่างทางก็มีอีเว้นท์เล็กๆ น้อยๆ ประปราย จนช่วงท้ายเรื่องถึงจะได้ปราบมารกันจริงจัง ซึ่งช่วงเล่มสองมันก็จะเริ่มมีซีนหนอนบ่อนไส้หรือการเฉลยปมบางอย่างออกมาบ้าง แต่เพราะตัวนิยายมันตลกมากมันเลยไม่ได้มีอะไรเครียด

              ถึงจะพูดว่าเป็นเรื่องราวในยุทธภพ แต่ไม่ใช่คอยุทธภพอ่ะ คือการต่อสู้ไม่ได้จริงจังอะไร พระเอกเทพแบบเทพมาก สู้ๆ กันแวบๆ ก็ชนะแล้ว ตัวละครฝั่งตัวร้ายที่เข้ามามีซีนแวบๆ ก็ถูกจัดการแบบได้ง่ายดายมากๆ แต่ก็นั่นแหละ นิยายมันเป็นธีมยุทธภพแต่มันเป็นนิยายตลกโปกฮา เน้นสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสายตาคุณชายชุดขาวฟูฟ่องเหมือนกระโจมหิมะอย่างจู้เยี่ยนอิ่นมากกว่า

              ตัวนิยายมันตลกแบบไม่ต้องพยายาม คือเราเป็นคนไม่ชอบอ่านนิยายขายขำเท่าไหร่ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นคนเส้นลึกกว่าปกติอยู่บ้าง เวลาอ่านนิยายแนวขบขันมันเลยจะมีเซ้นส์ได้ว่าหลายๆ อย่างพยายามตลก แต่เรื่องนี้คือไม่พยายามเลย ตลกในตัวมันเอง มีหลายซีนมากที่เราขำพรืดทั้งๆ ที่มันก็แค่บทบรรยายธรรมดาๆ แต่การใช้ภาษาใช้สำนวนมันตลกแบบหน้าตายจริงๆ

              ตัวละครอย่างจู้เยี่ยนอิ่นก็น่ารักมากกก คือด้วยความเป็นคุณชายตระกูลบัณฑิตผู้ร่ำรวยไม่เคยได้เห็นโลกกว้างก็อาศัยตัดสินการกระทำหลายๆ อย่างของคนในยุทธภพตามนิยายที่ตัวเองอ่านมาเอา แล้วชอบแต่งตัวด้วยชุดขาวฟูฟ่องเลยจะมีฉากบรรยายว่าจู้เยี่ยนอิ่นเป็นกระโจมหิมะบ้างอะไรบ้าง คือมันนุ้บนิ้บหัวใจมาก 5555

              แรกๆ ยังสงสัยว่าพระนายมันจะรักกันได้ยังไงวะเพราะอีกฝ่ายเห็นหน้าก็อาเจียนบ้างสลบบ้าง แต่ลี่สุยก็พยายามเข้าหาน้องแล้วน้องก็โอเคกับการอยู่กับลี่สุยมากขึ้น จากนั้นความสัมพันธ์มันเลยเดินหน้าไปได้ ซึ่งเอาเข้าจริงระหว่างพวกเขาไม่ได้พูดคำรักต่อกันเลย แต่ว่าทั้งสองคนใจตรงกันพอดีแบบว่ามีเซ้นส์ พอเจ้าหยอดมาข้าก็เลยไหลตามไป รู้กันในใจว่าเราต่างก็เป็นคนรักของกันและกันแค่นั้นเอง

              และด้วยความที่มันเป็นนิยายขายขำมันเลยไม่ได้มีซีนเครียดอะไรมาก (ส่วนตัวรู้สึกว่าซีนเครียดหนึ่งเดียวคือเรื่องของ เยวียนเหย่เยวี่ย ของพรรคมารกับน้องชายของเจ้าตัว) ตอนที่จู้เยี่ยนอิ่นพาลี่สุยไปเจอครอบครัวก็ตลกดีเพราะทุกคนก็ยอมรับกันได้อย่างรวดเร็ว

              มีการใช้ภาษาใช้ถ้อยคำหลายๆ อย่างที่เราชอบในเรื่องนี้นะ อย่างที่บอกไปว่าตลกแบบไม่พยายาม ตลกในตัวเอง คิดว่าถ้าใครอ่านก็ต้องชอบค่ะ ถ้าให้เปรียบเทียบกับเล่ห์กลจักรพรรดิเราก็คงเปรียบเทียบไม่ได้เพราะเราไม่ได้อ่านเรื่องหลัง เราเคยลองอ่านครั้งหนึ่งแต่อ่านไม่รอด รู้สึกว่าเล่ห์กลจักรพรรดิเป็นนิยายที่ช่วงแรกจะอ่านลำบากสักหน่อย แต่ถ้าใครผ่านไปได้ก็คงจะไหลลื่น แต่เราผ่านไม่ได้ เพราะมันต้องย่อยข้อมูลเยอะและบางอย่างมันดู out of the blue ไปหน่อย เราเลยหยุดอ่านไป (คิดว่าหากมีเวลาอาจลองหยิบมาอ่านอีกหนค่ะ เพราะกับพันสารทก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เป็นนิยายที่ช่วงแรกจะอ่านลำบาก แต่ถ้าผ่านได้ก็จะไปได้เรื่อยๆ เราอ่านพันสารทช่วงแรกก็ไม่รอด รอเวลาผ่านไปหยิบมาอ่านอีกครั้งก็ลื่นเลยนะ แปลกดีเหมือนกัน)

              แต่ว่ากับเรื่องนี้ไหลลื่นและสนุกสนานมาก ชอบความอินโนเซ้นต์ของน้องจู้และความมั่งคั่งเกินเบอร์ของสกุลจู้จริงๆ นั่งคิดแล้วก็อมยิ้มตาม

    contact me
    twitter : @malavitabb


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in