เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ลอง — CHALLENGE (ฺBL)paparkro9er
D) พกพา


  • บรรยากาศในรถกระบะกลับมาอึมครึมและเงียบสงบอีกครั้งเมื่อพวกเขาจำต้องไปเยือนบ้านพักครูร้างหลังนั้นอีก ทั้ง ๆ ที่เป็นตอนกลางวันแต่บรรยากาศระหว่างทางกลับดูเงียบเหงา ตอนมาเมื่อคืนวันศุกร์พวกเขาไม่ทันไม่สังเกต แต่คราวนี้พวกเขาถึงได้มองเห็นเต็ม ๆ ว่าทางไปบ้านพักครูร้างหลังนั้นเต็มไปด้วยป่าและทุ่งนา


    ไอ้เป๋าเคยเล่าให้ฟังว่าบ้านพักครูดังกล่าวเป็นของโรงเรียนที่ถูกปิดตัวลงเมื่อเกือบสิบปีก่อนเพราะพิษเศรษฐกิจ มันเป็นแค่บ้านพักครูว่างเปล่าที่ถูกปล่อยทิ้งไว้กับตึกเรียนเก่า ๆ ของโรงเรียนแห่งนั้น เจ้าของที่ดินบริจาคให้กับโรงเรียนไปแล้วจึงไม่คิดจะเอาคืน ทางโรงเรียนก็จัดการกับค่าใช้จ่ายไม่ไหวจึงปล่อยทิ้งร้างไปทั้งอย่างนั้น


    เพราะมันถูกปล่อยให้ทิ้งร้างจึงกลายเป็นแหล่งซ่องสุมหรือที่พักพิงชั่วคราวของกลุ่มคนหลากหลายประเภท ไอ้เป๋าว่ามีตั้งแต่คนจรจัด สุนัขไร้เจ้าของ เด็กติดยา รวมไปถึงกลายเป็นสถานที่ที่ถูกเล่าแต่งเติมให้กลายเป็นบ้าน เป็นโรงเรียนผีสิงจนทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นหลายต่อหลายรุ่นเข้ามาลองของกันเสียอย่างนั้น


    และไม่รู้มาอย่างไรเป็นอย่างไรหลายเสียงจึงออกมายืนยันว่าที่นั่นมีจริง ๆ ไม่ใช่ตัวโรงเรียนแต่เป็นที่บ้านพักครูหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างสระน้ำ พยัคฆ์นึกไม่ออกว่าบ้านพักครูหลังนั้นใช่หลังที่อยู่ข้างสระน้ำหรือเปล่า เพราะคืนนั้นเขายืนอยู่แค่บริเวณหน้าบ้าน ไม่ได้ไปเดินสำรวจที่ไหนอีก


    "Home sweet home" ไอ้เจเอ่ยขึ้นหลังมันดับรถ เบื้องหน้าของพวกเขายังเป็นบ้านไม้สองชั้นทรุดโทรมหลังเดียวกับในความทรงจำ ทว่าชัดเจนมากขึ้นเมื่ออยู่ในแสงสว่าง


    "รีบทำรีบกลับเถอะว่ะ" ไอ้เป๋าพูดขึ้น น้ำเสียงมันสั่น ๆ แตกต่างจากตอนอยู่ในวัดอย่างเห็นได้ชัด


    พวกเขาพากันเปิดประตูรถแล้วเกาะกลุ่มกันไปยังบริเวณหน้าบ้านที่พอมองดี ๆ ถึงได้เห็นว่าบานประตูได้หายไปแล้ว ไม่รู้ว่าโดนถอดไปขายหรือแค่ผุพังตามกาลเวลา กลุ่มเพื่อนของเขาขยับตัวชิดกันมากขึ้น เด็กหนุ่มเพ่งมองไปในตัวบ้าน นอกจากความทรุดโทรมของบ้านไม้ ข้าวของระเกะระกะและเศษใบไม้ เขาก็ไม่เห็นอะไรอีก


    เขาหันไปมองเพื่อนเมื่อไอ้ซันขยับตัวเข้ามาชิดมากขึ้น เขาจึงเอ่ยถาม "มึงรู้สึกแปลก ๆ เหรอ"


    ดวงตาของมันเงยสบกับเขาและพยักหน้าขึ้นลง มันมีท่าทางเหมือนเดิม ไม่ได้นิ่งเงียบหรือกลัวอะไรจนต้องบีบต้นแขนเขาแน่นเหมือนคืนวันนั้น อาจเพราะมันชินกับการรู้สึกแปลก ๆ แล้วจึงไม่ได้แสดงออกอะไรมากนัก ถึงอย่างนั้นภาษากายของมันก็บ่งบอกได้ชัดเจนอยู่ดีว่ามันเองก็กังวลไม่น้อยไปกว่าใคร


    "เธอมาแล้วว่ะ" ไอ้ซันบอก สายตามันจ้องไปที่ประตูบ้านว่างเปล่าเหมือนกับเขา ไอ้ชาได้ยินจึงสะกิดไอ้เป๋าให้มันเตรียมขอขมาแล้วจุดธูปเสีย


    ไอ้เป๋าตัวสั่นแต่มือมันก็ควานหยิบก้านธูปจากในกระเป๋าเป้แล้วส่งให้พวกเขาทุกคนแล้วไอ้เจรับหน้าที่เป็นคนจุดไฟจากไฟแช็กอีกต่อ ใบหน้ามันก็ซีดเผือดพอ ๆ กันกับเพื่อนคนอื่น ๆ


    "กูเห็นแล้ว"


    "เออ"


    "อืม"


    สามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน เจ้าของเสียงล้วนเป็นไอ้เป๋า ไอ้เจและไอ้ชา พวกเขาทั้งห้าต่างพากันจ้องมองไปที่กรอบประตูบ้านพักครู ไฟเผาไหม้ก้านธูปไปได้ระยะหนึ่งแล้วแต่พวกเขาก็ยังยืนนิ่งเกาะกลุ่มกันอยู่อย่างนั้น อาจเพราะเจอประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีจากที่นี่ ไอ้เป๋าที่ควรจะพูดมากถึงได้บื้อใบ้ไม่ได้เริ่มเอ่ยกล่าวขอขมาสักที


    เด็กหนุ่มทนดูไม่ได้ถึงได้พนมมือพร้อมกับธูปแล้วกล่าว "พวกผมมาขอขมาดวงวิญญาณ ณ สถานที่แห่งนี้ที่ได้เข้ามาบุกรุก ล่วงเกินจนทำให้คุณโกรธเคือง ไม่สบายใจ พวกผมไม่ได้มีเจตนามุ่งร้าย ขอให้คุณอโหสิกรรมและรับการขอขมาในครั้งนี้ด้วย"


    พยัคฆ์กล่าวจนจบก็สะกิดเพื่อนให้มันแสดงหลักฐานอันเป็นสิ่งที่ทำให้ผีสาวตนนั้นโกรธเคือง ไอ้เป๋าลุกลี้ลุกลนควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป้จนมันทำของที่อยู่ในนั้นหล่นตุ้บออกมา พวกเขาเห็นพระพุทธรูปองค์เล็กนอนคว่ำอยู่บนพื้นหญ้า ไอ้เป๋าจึงรีบคว้าพระมาเก็บแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา


    เด็กหนุ่มพลันเกิดคำถามในใจว่ามันถึงขั้นพกพระพุทธรูปมาจากบ้านเลยเหรอ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนคนอื่นที่กุมสร้อยพระกันเป็นแถบ เขากระพริบตาปริบ ๆ เพราะเป็นอันเข้าใจได้ว่าทำไมเพื่อน ๆ ถึงได้พกพาอะไรต่าง ๆ มากัน หลวงอาสมรไม่มา อย่างน้อยมีสร้อยพระก็ยังดีอะไรอย่างนั้นสินะ


    "ผมอยากให้คุณดูนี่นะครับ นี่เป็นแกลอรี่ในโทรศัพท์ผม... ผมไม่ได้บันทึกวิดีโอของคุณไปเลยจริง ๆ โปรดยกโทษให้ผมด้วย" ไอ้เป๋าพูดเสียงดังในที่สุด มันถึงขั้นสาวเท้าไปใกล้ขอบประตูนำหน้าเพื่อนอยู่หลายก้าว


    "เชี่ยเอ๊ย" ไอ้เจสบถ เขาไม่รู้ว่าพวกมันเห็นอะไรและไม่รู้ด้วยว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย ตอนนี้ไอ้เป๋าทำท่าเหมือนกลั้นหายใจขณะยื่นหน้าจอโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเขตตัวบ้าน


    พวกเขาจึงเกาะกลุ่มเดินตามไอ้เป๋าจนขนาบข้างกับมัน เขาไม่เคยคิดว่ามิตรภาพของพวกเขาจะยิ่งใหญ่อะไร พอมาเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล้วพวกเขาก็ยังเคียงข้างกัน อยู่ด้วยกัน มันทำให้เขารู้สึกซึ้งใจอยู่ไม่น้อย


    "พวกผมจะไม่มารบกวนคุณอีก ขอโทษจริง ๆ ครับ" ไอ้ซันเอ่ยขึ้นหลังไอ้เป๋าเงียบไปพักใหญ่ มันจ้องไปยังมุมหนึ่งของกรอบประตูเหมือนกำลังสบตาใคร


    "ขอโทษครับ!" พวกเขาประสานเสียงกันก่อนไอ้ซันจะก้มตัวลงปักธูปลงกับพื้นดิน คนที่เหลือจึงทำตามกัน มันหันหน้ามายิ้มตาหยีให้พวกเขา ท่าทางดูสบายใจกว่าตอนมาถึง


    "พวกมึงได้ยินที่เธอพูดไหม" ไอ้ซันถามหลังจากพวกเขาพากันขึ้นมานั่งบนรถแล้ว ไอ้เป๋า ไอ้เจ ไอ้ชาส่ายหน้า ทุกสายตาจึงมาหยุดลงที่เขา


    "แล้วมึงล่ะ" ไอ้เป๋าถามขึ้น สีหน้ามันก็ดูดีขึ้นกว่าทีแรกมากเหมือนกัน


    เด็กหนุ่มมองสบตาเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยความสัตย์จริง "กูไม่เห็น แล้วก็ไม่เคยได้ยินอะไรเลยด้วย"


    ทั้งสี่จ้องมองเขาตาโต ก่อนหนึ่งในนั้นจะเอ่ยถามขึ้นมา "นี่แปลว่ามึงไม่รู้สึกถึงเธอเลยเหรอวะ ตั้งแต่แรกเลยอะนะ"


    และเขาก็ตอบรับด้วยการพยักหน้าไปหนึ่งที


    "โอ๊ย ไอ้เชี่ยยัก นี่มึงพกอะไรมาวะ ดวงดีฉิบหาย"


    เขามองหน้าเพื่อนพลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงพาซื่อ "กระเป๋าเงินกับโทรศัพท์มือถือ"


    TBC.



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
sxcxc (@mxcdrop)
พยัคฆ์นี่ครตโครตเหมือนคนใกล้ต้วเลย
thisdayisfriday (@thisdayisfriday)
พยัคฆ์ นายโคตรแน่ 5555555 อ่านแล้วหลอนตาม