ทุกๆวันของอิฉัน อิฉันจะเดินออกกำลังกายจากบ้านซึ่งตรงข้ามกับหน้าบิ๊กซี ไปถึง ย่านร้านเหล้าซึ่งเป็นทางผ่านไปราชภัฏศรีสะเกษ หากรวมระยะทางแล้วคงจะไม่เกิน 15 กิโลเมตร
เอาละ นี่คือแผนที่ๆอิฉันต้องเดินผ่านทุกวันและวกกลับมา ทุกเวลา17.00 -19.00 น.
บ้านอิฉันหน้าบิ๊กซี > สะพานขาว> ศาลากลาง > ไปรษณีย์ไทย > สถานีตำรวจ > ร้านชาบูหน้าหมี ตีหม้อ > ร้านเหล้าสถานีบันเทิง > ราชภัฏศรีเกด
ทุกๆที่ ที่อิฉันเดินผ่านมักเจอด่านอันสุดเป็นอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นควันหมูปิ้งที่แสบตา กลิ่นปลาร้าอันเย้ายวนชวนน้ำลายสอจากร้านส้มตำข้างทาง และสายตาของชาวศรีสะเกษที่เห็นอิฉันมาเดินระยะไกลแบบนี้
ต่างจับจ้องและซุบซิบในเชิงประมาณว่า "วร๊ายย อินี่ช่างกล้า ในยุคโควิดแบบนี้ หล่อนยังจะกรีดกรายไปทั่วอีกหรอ" แม่ค้าขาย Street food แถวนั้นก็ถามว่า "หนูๆ จะเดินไปไหน มันค่ำแล้วนะ บ้านอยู่ไหน มีรถกลับไหม"
อิฉันสัมผัสได้ว่า 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมาอิฉันมักจะได้รับ Feedback จากชาวศรีเกดในเรื่องของน้ำใจ ที่ขออาสาไปส่งอิฉัน เพราะที่นี่ไม่มีใครเดินเท้าระยะไกลแบบนี้ อารมณ์ประมาณว่าเหมือน คนไทยเห็นฝรั่งเดินเท้าแล้วประหลาดตา
ไม่ว่าใครจะมองอิฉันเป็นตัวประหลาดที่ชอบแต่งตัวยั่วผู้ มาเดินค่ำๆมืดๆแบบนี้ทุกวัน ป้าเกศร้านเสริมสวยก็เคยเตือนอิฉันว่า ให้ระวังตัวดีๆ รีบกลับบ้านเร็วๆหน่อย อย่าให้มันค่ำเกิน อิฉันมักจะได้ยินจากแม่ค้าแม่ขายแถวนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันจนชินหู
แต่ก็ช่างเถอะ Show Must Go On ตอนที่อยู่ม.อุบลอิฉันยังเดินป่ากลับค่ำมืดได้เลย ที่นี่มีแต่ย่านชุมชนจะเป็นไรไป
เดินมาเรื่อยๆจนถึงร้านเหล้าสถานีบันเทิง อิฉันจ้องมองยอดตึกอาคารเรียนของราชภัฏศรีเกดที่โผล่ออกมาจากยอดต้นไม้ เป็นภาพวิวระยะไกลที่อิฉันเองก็ใจป๊อดเหลือเกิน ที่จะเดินไปถึงขนาดนั้น
เพราะเดินแค่นี้ก็ปวดขาเต็มทนละ แต่ไหนๆวันนี้ Costume มาเต็มเอย Sport Bra เอย ก็ต้องทะลายขีดจำกัดของตัวเองหน่อย ดูซิว่าหล่อนจะทำให้สังขารของอิฉันยวบยาบมากแค่ไหน ไป! Go Go!
เดินหน้าไปเรื่อยๆยิ่งเห็นยอดตึกราชภัฏใกล้มากขึ้น แต่ตัวอิฉันโคตรไกลจากราชภัฏชิบหาย เดินไปแต่หอบไป ปลอบตัวเองไปว่า "Walking wasn't made anyone die"
ยิ่งเดินออกห่างย่านร้านเหล้ายิ่งไกลผู้คนมากขึ้น ฟ้าก็เริ่มสลัวขึ้นมาทุกที และแล้วในที่สุด ก็ถึงแค่ข้างกำแพงราชภัฏ โอ้ย...อิดอก ไม่ไหวแล้วซิส
หน่องสาวอยากหลบบ้าน ขาหร่อยแล่วหลาว กูเดินมาทำพรือ? ระหว่างทางที่เดินไปตามยาวกำแพงราชภัฏก็เดินผ่านรถเก๋งสีขาว eco car คันนึงจอด Start เครื่องอยู่ อิฉันแอบเหล่ตามองผ่านกระจก เห็นชะนี 2 อัตรากำลังไถมือถือเล่นอยู่
อิฉันเข้าใจว่าพวกเขาคงหลงทางเป็นแน่ เขี่ยหา Google Maps ละมั้ง จึงเดินผ่านไปได้แค่ 4 ก้าว
"ปื๊ด!!" เสียงแตรลั่นเรียกอิฉันให้หันควัก
พวกเขาต้องขอถามทางอิฉันเป็นแน่ พี่ทอมกดกระจกเลื่อนลงและนั่งฝั่งพวงมาลัยคนขับ
"น้องๆจะไปไหน ให้ไปส่งไหม?" เสียงบอยเชียวนะหล่อน
"อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ หนูแค่เดินออกกำลังกายค่ะ จะไปถึงหน้าราชภัฏก็พอ เดี๋ยววกกลับแล้วค่ะ" อิฉันใน Version เสียง 8 พร้อมยิ้มร่าอย่างเป็นมิตร
"ทำไมน้องน่ารักจัง เป็น Net Idol หรอ"สาวผมยาววัยกลางคน เสื้อชมพูที่นั่งเบาะข้างๆ ทักทายด้วยใบหน้าตื่นเต้น
วร๊ายย คุณพี่ก็...แม่ให้มาเยอะอ่ะค่ะ กรายนิ้วทั้งห้าพัดหน้าเบาๆ หรือว่า วันนี้ Costume ใน Theme Sexy & Strong มันปังเบอร์นั้นเชียว คิดดีใจในหัวแล้วตอบไปว่า "เปล่าๆค่ะ หนูเป็นคนธรรมดานี่แหละ"
ปฏิเสธอย่างถ่อมตน (แหมอิเดาะ จริตปลอมมาก)
"โอ๊ะ พี่ว่าน้องน่ารักมาก เห็นเดินมาแต่ไกลเลย" แหนะ ฉีดยากูอีกละ
"เออ มันมืดแล้วนะ ทางมันเปลี่ยวด้วยน้อง ที่พูดเนี้ยเป็นห่วงนะน้อง อย่ามาเดินแถวนี้ เปลี่ยนเส้นทางนะ พี่เป็นห่วง" พี่ทอมเสียงแมนกว่าเดิม
"ค่ะๆขอบคุณค่ะ" พนมมือไหว้รับขอบคุณดั่งกุลสตรีไทย และบิดตูดเดินต่อ ด้วยEnergy ที่เหลืออยู่ 25%
พอขากลับยังเห็นเก๋งสีขาวจอดอยู่ที่เดิม
พร้อมเปิดกระจกตะโกนออกเสียงแมนว่า "น้อง! พี่ไปส่ง น้องเดินเถอะ เดี๋ยวพี่ขับรถตาม"
พี่(เสื้อ)ชมพูหัวเราะลั่น
เอ๋าๆ อยากส่งก็ไปอ่ะ อิฉันเดินสลับวิ่งพร้อม Outter สุด Strong แต่ Inner คือกลัวเหงื่อซกรักแร้ ไม่รู้ว่าเขาจะแกงเราไหม เป็นพลเมืองดีจริงหรือเปล่า เสียงอือออออ ของเครื่องยนต์ไล่กวดตามหลังไม่ห่าง
พร้อมไฟหน้าสีเหลืองนีออนที่สาดส่องกระทบตัวอิฉันจนเห็นเงาตัวเองเป็นรูปเป็นร่างตลอดเว
พอมาถึงหน้าร้านชาบูหน้าหมี ตีหม้อค่อยยังชั่วเพราะมีคนเต็มร้าน ถ้าเกิดการแกงอิฉันขึ้นจะได้มีคนช่วยทัน สักพักพี่ทอมเหยียบคันเร่งมาเทียบท่าอิฉัน
พร้อมเปิดกระจกแล้วพูดว่า "พี่ส่งแค่นี้ กลับดีๆล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเอาเค้กมาให้กิน"
"ใช่ๆ พี่เขาเปิดร้านขายเค้ก ส่วนพี่อ่ะตกงาน เลยได้มาอยู่กับพี่สาว(ชี้นิ้วไปพี่ทอม) น้องกลับดีนะๆพี่ตุ่นเขาเป็นห่วง" พี่ชมพูเสริม
"น้องชื่อไร พี่ขอไลน์หน่อย" พลางยืนมือถือให้ อิฉัน Search ID ตัวเองหาไม่เจอ จึงให้เบอร์ไป อย่างน้อยอิฉันก็ Block ได้ละกัน หากพี่ๆเขาไม่หวังดี
"หนูชื่อฝ้ายค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"บ้านอยู่ไหนละ" เสียงแมนอีกล้าว
"อยู่หน้าบิ๊กซีค่ะ"
"โห!น้องโคตรไกลอ่ะเดินมาได้ไง"
"หนูเดินแบบนี้ทุกวันค่ะ ชินแล้ว"
"อยู่ปีไหน เรียนราชภัฏหรอ" พี่ทอมแกซักเป็นตำรวจเชียว
"อยู่ปี1 จะขึ้นปี2 ม.อุบลค่ะ เรียนศิลป์ศาสค่ะ"
"โอ๊ะ เท่าน้องพี่เลยนะ น้องสาวพี่อีกคนก็เรียนอยู่นั่นเหมือนกัน มันเรียนนิติ ยังไงก็กลับดีๆนะพี่เป็นห่วง"
"ค่ะๆ ขอบคุณนะคะ" ครานี้ก้มคงบังวะเป็นสาวญี่ปุ่นเลย เพราะอิฉันก็โล่งใจไปเปราะนึง เขาคงหวังดีจริงๆ
ในที่สุด 20.00 น. เพิ่งถึงบ้านมีสายแปลกโทรเข้ามา
"ฮัลโหล" เสียง 1 ของอิฉันกลับมาทันควัน
"เอ้อ น้องฝ้ายนี่พี่ตุ่นนะ ถึงบ้านแล้วหรอ?"
"ถึงเมื่อกี้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"เอ้อๆ พี่เป็นห่วงเรานะ ยังไงก็อย่าแถวนั้นอีกละ มันมีคนฆ่ากันตาย น้องรู้ข่าวไหมเนี้ย?"
"เอ้ย จริงหรอคะ งั้นหนูจะไม่เดินไปที่นั่นอีกแล้ว"
"ดีๆน้องไปเดินเกาะกลางน้ำก็ได้มันกว้างอยู่"
"อ๋อ มันปิดเพราะ โควิดน่ะค่ะเลยไม่ได้ไป"
"เออๆ ปลอดภัยแล้วก็ดี เก่งนะเราน่ะเดินซะขนาดนั้น ยังไงก็...มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดนะ พี่พร้อมช่วยเหลือ"
"ค่าา...ขอบคุณค่ะ"
เห้อ ...พี่ตุ่น &พี่ชมพู นางน่ารักจริงๆ เห็นเราแค่แวบเดียวจู่ๆก็รับบท bodyguard จำเป็นให้เราซะงั้น อิฉันโชคดีที่เจอพลเมืองดีแบบพวกเขา THANK YOU GOD...
(เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 9 พ.ค. 2563)
(*แก้ชื่อร้านแพนด้า ตีหม้อ เป็น "หน้าหมี ตีหม้อ" อิฉันจำผิด อยากเอาหม้อตีหน้าหมีๆของตัวเองจริงๆ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in