เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Miracle of the Skysapphyre
สีฟ้า สีแดง สีดำ
  • - สีฟ้า สีแดง สีดำ -

     

    ฉันยืนอยู่บนดาดฟ้า เท้าแขนบนเหล็กกันคนตกลงไป ทอดสายตามองท้องฟ้าสีครามที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

    พรุ่งนี้มีเรียนเช้านี่ วันนี้กลับไปต้องรีบเคลียร์งานแล้วก็รีบนอน มีงานต้องส่งหรือเปล่า ไม่มี แล้วต้องอ่านอะไรมาก่อนเรียนด้วยมั้ยนะ

    ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองท้องฟ้าอีกครั้ง นกบินผ่านไปสองสามตัว คงกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านของพวกมันล่ะนะ

    "อยากปิดเทอมแล้ว…"

    ว่าพลางหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเช็กข้อความ พอเห็นว่าไม่ได้มีใครส่งอะไรมาตามปกติเลยสลับไปแอปกล้องถ่ายรูปเพื่อจับภาพท้องฟ้าที่ถูกย้อมเป็นสีแดงไว้

    แล้วก็เอาไปลงสตอรี่สักหน่อยดีกว่า

    ฉันเข้าอินสตาแกรมแล้วเปลี่ยนแอคเคานท์เป็นแอคหลักที่มีเพื่อน ๆ ฟอล ปัดซ้ายแล้วเลือกรูปที่ถ่ายล่าสุด ก่อนจะกดเผยแพร่แล้วผละจากหน้าจอมองท้องฟ้าอีกครั้ง

    รีบกลับบ้านดีกว่า…

    ก่อนจะได้ทันทำอะไร ฉันเห็นแจ้งเตือนว่ามีคนรีพลายสตอรี่ที่เพิ่งจะลงไปได้ไม่ถึงนาทีดี ชื่อผู้ใช้ทำให้ใจฉันเต้นแรง

    'ยังอยู่ที่มหาลัยเหรอ' ทางนั้นว่ามาแบบนั้น

    'ใช่ อยู่บนดาดฟ้าตึกคณะเราอะ' ฉันพิมพ์ตอบกลับไป

    'เราก็ยังไม่กลับ'

    จากนั้นทางนั้นก็เหมือนจะพิมพ์ ๆ ลบ ๆ ข้อความอยู่ ฉันเลยยังไม่ได้พิมพ์อะไรตอบไป

    'เดี๋ยวเราขึ้นไปหาดีกว่า'

    ขึ้นมาหา? บนนี้เหรอ? สองคน ใจฉันมันยิ่งเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าร้อนผ่าว แก้มแดงไม่รู้เพราะอาทิตย์ตกหรือเป็นเพราะฝั่งนั้นกันแน่

    ยังไงก็พิมพ์อะไรตอบไปสักหน่อยก่อนเถอะ

    คิดพลางรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมา แล้วพิมพ์ตอบไปสั้น ๆ

    'จะรอนะ'

     

    ไม่นานประตูดาดฟ้าก็เปิดออก ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปมอง

    ร่างเล็กของเพื่อนสนิทที่ปรากฏอยู่หลังประตูเหล็กหอบหายใจเบา ๆ เพราะการจะขึ้นมาดาดฟ้าต้องขึ้นลิฟต์แล้วเดินขึ้นบันไดมาอีก 4 ชั้น

    ฝั่งนั้นเดินตรงมาหาฉัน มายืนเท้าแขนมองดูท้องฟ้าที่ถูกย้อมเป็นสีส้มแดงข้าง ๆ

    "ยังไม่กลับบ้านเหรอ" ฉันถาม

    "จริง ๆ ก็กำลังจะกลับแล้วล่ะ แต่เห็นสตอรี่ก่อน เลยคิดว่าขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า"

    "ก็ไม่ได้เหงาขนาดนั้นสักหน่อยนะ"

    "แต่ก็คิดว่ามองพระอาทิตย์ตกจากดาดฟ้าตึกเรียนคงจะสวยมากนี่นา ขนาดเธอยังขึ้นมาทุกวัน"

    เพื่อนสนิทฉันตอบโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้า สายตาอ่อนโยนทอดมองผ่านตึกรามบ้านช่องต่าง ๆ จนไปสุดเส้นขอบฟ้า ใบหน้าที่สวมแมสก์ทับอาบแสงอาทิตย์

    "อืม ก็จริง"

    ความจริงจิตใจฉันแทบไม่ได้จดจ่ออยู่กับทิวทัศน์ของเมืองยามสนธยาตรงหน้าที่อีกฝ่ายพูดถึงเลยแม้แต่น้อย เพราะมีสิ่งสวยงามจนทิวทัศน์ใด ๆ เปรียบไม่ได้อยู่ข้าง ๆ ฉันแล้ว

    สายตาอ่อนหวานคู่นั้นกำลังจ้องมองไปยังอะไร

    เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ

    คงจะไม่ได้คิดเหมือนฉันใช่มั้ย

    ไม่หรอก ไม่มีวัน

    มือน้อย ๆ ที่เกาะราวกั้น อยากจะใช้มือของฉันไปกุมมันไว้

    ไหล่น้อย ๆ ที่อยู่ข้างๆ อยากจะซบหัวของฉันลงไป

    แสงสีส้มแดงจากตะวันที่กำลังตกดินอาบไปทั่วทั้งเมือง ถ้านี่เป็นซีรี่ส์โรแมนติก ฉันก็คงจะสมหวังใช่มั้ย…

     

    "มีอะไรรึเปล่า"

    อีกฝ่ายถาม ฉันคงจะจ้องมากไปสินะ

    "เปล่าหรอก…ไม่มีอะไร" แน่นอนว่าฉันปฏิเสธ

    อีกฝ่ายมองหน้าฉันเหมือนไม่เชื่อ ดวงตาคู่นั้นจ้องเข้ามายังนัยน์ตาของฉัน

    แบบนี้ใครจะไปทนไหวกันล่ะ

    "งั้นกลับบ้านกันมั้ย หกโมงกว่าแล้ว" อีกฝ่ายพูดต่อ

    "กลับไปก่อนเถอะ นี่คงอยู่ต่ออีกสักสิบห้านาที" ฉันตอบ สีฟ้าซึ่งบ่งบอกถึงกลางวันหมดไป เป็นท้องฟ้าสีแดงที่ค่อย ๆ จะกลายเป็นสีดำของยามวิกาลแทน

    "งั้นก็เจอกันพรุ่งนี้นะ กลับบ้านดี ๆ ล่ะ"

    "อืม กลับบ้านดี ๆนะ"

    ฉันยืนโบกมือส่งร่างเล็กจนประตูดาดฟ้าปิดลง แล้วหันกลับไปมองทิวทัศน์ของเมืองที่กำลังจะเข้าสู่ราตรี ปล่อยให้ความคิดหลั่งไหลออกไป

    ฉันตกหลุมรักเพื่อนสนิทของตัวเอง

    ฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่มีทางลงเอยกันแบบคู่รักได้ ฉันก็ว่างั้นแหละ

     

    ฉันยืนอยู่บนดาดฟ้า เท้าแขนบนเหล็กกันคนตกลงไป ทอดสายตามองท้องฟ้าสีแดงที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำ



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in