เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
6 คนมีความผิดจะต่อรองอะไรได้ (2/2)
  • เกรเทลเม้มปากคิดวิตกดูท่าว่าผู้ชายคนนี้จะคุยด้วยยาก การเจรจาโหดหินกว่าตอนเธอไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทเสียอีก

    “ข้าไม่มีอะไรแลกแต่ข้าช่วยงานท่านได้ ปัด กวาด เช็ด ถูก ข้าทำได้หมด” 

    ท่าทางที่ดูตั้งใจนำเสนอสรรพคุณโอ้อวดของเด็กที่น่าจะอายุน้อยกว่าทำให้เขาอยากปั่นประสาทต่ออีกนิด

    “แต่ข้าก็มีแม่บ้านอยู่แล้ว เจ้าจะมาแย่งงานนางหรือ?” ท้ายรูปประโยคเขาจงใจส่งเสียงให้สูงขึ้น

    “ไม่ขอรับท่านไม่ต้องจ่ายค่าจ้างข้าก็ได้ขอแค่อาหารและที่นอน ข้ายินดีช่วยงานทุกอย่างที่ท่านสั่ง” 

    เธอไม่รู้จะหว่านล้อมอะไรเขาแล้วถึงแม้ว่าจะเพิ่งกินขนมปังแข็ง ๆ นั้นไป แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้หายหิวขนาดนั้นอย่างมากก็รองท้องเล็กน้อย ส่งผลให้การคิดวิเคราะห์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

    “หึ ก็ได้ถือสะว่าข้ามีน้ำใจก็แล้วกัน เห็นว่าเจ้าใจกล้าหน้าด้านขอร้องทั้งที่เพิ่งก่อเรื่องไป” 

    เกรเทลแทบจะร้องเฮ้ดีใจออกมาทันทีเมื่อเขารับข้อเสนอเธอ

    “เฮ้ยเฟียซ! เอ็งไปเอากุญแจมาไขกรงตรงนี้ทีแล้วก็อย่าลืมเอาลูกกุญแจข้อมือข้อเท้ามาด้วยนะ” 

    เขาหันไปตะโกนเรียกคนในปกครองเสียงดังจนคนทั่วบริเวณนั้นทำสีหน้าฉงนสงสัย ไม่นานชายที่ชื่อเฟียซก็เดินมาไขให้เธอ

    “อ่อ เผื่อเจ้ายังไม่รู้ว่านายเจ้าชื่อวอลล็อคจำใส่กะโหลกน้อย ๆ ไว้ด้วยนะ” 

    ไม่พูดเปล่าเขายังใช้สันข้อนิ้วชี้มาเคาะหัวเธอไปสองที

    “เฟียซเจ้าหางานให้ไอ้เด็กนี้ด้วยนะ…แล้วก็จับตาดูมันไว้อย่าให้คลาดสายตา” 

    ประโยคสุดท้ายเขากระซิบเสียงเบาไม่ให้เธอรู้

    “ได้ครับนาย” 

    ร่างสูงเดินจากไปทิ้งให้เธอยืนอยู่กับลูกน้องสนิท เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูแล้วคงอายุไม่ห่างจากเธอเท่าไร เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน มีรอยยิ้มที่อบอุ่น หางตามีไฝขี้แมลงวันเม็ดเล็ก ๆ ดูเป็นมิตรกว่าเจ้านายตั้งเยอะ

    “เจ้าชื่ออะไร?” 

    “เกรเทลขอรับ” เธอขานรับอย่างนอบน้อม

    “เฮ้ยไม่ต้องพูดดีขนาดนั้นข้าก็แค่ลูกน้อง ข้าชื่อเฟียซเป็นรองหัวหน้าที่นี่” 

    เด็กสาวพยักหน้ารู้สึกผ่อนคลายลงเธอพิจารณาชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเบื้องต้น อีกฝ่ายไม่ได้ถือตัวดูเขาจะชิว ๆ ไปเสียทุกอย่างยืนเท้าเอวกระดิกเท้าสบายใจ

    “ดูแล้วเจ้าก็น่าจะอายุน้อยกว่าข้า แต่ช่างเถอะเดินตามข้ามาจะพาไปที่พัก” 

    เกรเทลเดินตามเฟียซไปเงียบ ๆ ตลอดเส้นทางเธอก็ลอบสังเกตสภาพแวดล้อม ทุกอากัปกิริยาของเธออยู่ในสายตาของเขา

    แต่ก่อนที่เราจะเดินไปกันเขาขอแวะไปเอาข้าวของต่าง ๆ จากกระโจมเก็บของที่จะให้เจ้าเด็กใหม่คนนี้เสียก่อน เกรเทลเห็นว่ามันเป็นถุงผ้าดิบสีตุ่นขนาดไม่ใหญ่มากถูกแบกอยู่บนหลังเฟียซ

    มันเป็นลานกว้างที่มีการตั้งเป็นบ้านพักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ สไตล์เรียบง่าย บ้านทำจากไม้สนดูแข็งแรงทนทานต่อฟ้าฝน

    “ถึงแล้วเจ้าอาศัยอยู่หลังนี้แล้วกัน อยู่กับเจ้ารอล์ฟ” 

    “รอล์ฟ?” 

    ร่างเล็กขมวดคิ้วสงสัยขอเดาว่าคน ๆ นี้คงจะเป็นรูมเมตของเธอ

    “เพื่อนร่วมบ้านพักเจ้านั่นแหละตอนนี้มันน่าจะออกไปขนของให้นาย” 

    เธอพยักหน้าเข้าใจ

    “วันนี้เจ้ายังไม่ต้องทำงานพักกินข้าวอาบน้ำอาบท่าเสีย พรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานไม่ก็ไปถามงานจากไอ้รอล์ฟก็ได้” 

    พูดเสร็จเฟียซก็ยื่นถุงผ้าที่เอามาจากกระโจมให้เธอ ข้างในจะเป็นพวกเสื้อผ้าและของเครื่องใช้จำเป็นอย่างแปรงสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว แม้ว่าจะไม่ได้ใหม่เอี่ยมแต่ก็ดีกว่าใส่ชุดเก่าที่ไม่รู้ว่าสวมมานานแค่ไหน

    “แล้วก็เดี๋ยวสักประมาณ 5 โมงเย็นเจ้าก็เดินไปตามทางข้างหน้านะ มันจะมีโรงครัวอยู่สำหรับคนงานและอย่าไปช้าเชียวข้าวหมดไว” 

    “ขอบคุณท่านมาก” 

    เธอกล่าวขอบคุณในความใจดีของเขา

    ตั้งแต่ที่เห็นเจ้าเด็กคนนี้ชายหนุ่มก็รู้สึกเอ็นดูมันพอสมควรคงเป็นเพราะบุคลิกลักษณะคล้ายน้องสาวที่เสียไปเมื่อสามปีก่อนด้วยโรคหัวใจ

    แม้ว่ามันจะเป็นเด็กผู้ชายแต่ดูแล้วคงอายุไม่ห่างจากน้องสาวเท่าไรนัก ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่คงจะชอบท่าทางมันจนรบเร้าขอให้ทำความรู้จักเป็นแน่แท้

    “อืม ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นข้าไปทำงานก่อน” 

    เมื่อเขาเดินจากไปเธอก็หันหลังไปมองบ้านพักหลังใหม่ เป็นบ้านไม้มีหลังคา มีหน้าต่าง 4 บานซ้ายขวา ทางเดินขึ้นบ้านมีราวรั้วกันตกที่ทำจากไม้ไผ่

     

    …ดูดีกว่าที่คิด…

     

    ถ้าไม่บอกว่าเป็นบ้านพักคนงานเธอก็คิดว่าเป็นบ้านพักชาวบ้านทั่วไปคิดว่าจะต้องไปนอนพื้นดินรวม ๆ กันเสียอีก แบบนี้ก็ดีเธอจะได้ไม่ต้องไปเจอคนเยอะ ๆ เวลาพักผ่อนตอนกลางคืนดี

    เธอยังไม่อยากโดนจับได้ว่าเป็นผู้หญิงตอนนี้

    เกรเทลหอบเอาถุงผ้าที่ไม่หนักไม่เบาก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้านแล้วเดินไปเปิดประตู

    เมื่อเดินเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือบ้านค่อนข้างกว้าง มีเตียงสองหลังวางคนละฝั่ง ใกล้กันเป็นพวกตู้เล็ก ๆ ที่คาดว่าคงเอาไว้เก็บของใช้ส่วนตัวคนละใบวางอยู่ข้างหัวเตียงอีกทั้งยังมีตู้เสื้อผ้าคนละใบ

    เตียงฟากซ้ายถูกจับจองไปเรียบร้อยแล้วจึงเหลือฟากขวาที่ดูเป็นระเบียบไม่มีการร่องรอยถูกใช้งาน ซึ่งก็ดีที่ไม่ต้องมานอนติด ๆ กันให้อึดอัดใจอย่างน้อยก็มีพื้นที่ส่วนตัวของใครของมันบ้าง

    เจ้านายคนใหม่ของเธอคงจัดการระบบภายในเป็นอย่างดี บ้านพักที่นอนรวมกันแค่สองคนไม่แออัด ดูผ่อนคลายสบายใจ ถ้าไม่นับเรื่องค้าทาสเขาคงกลายเป็นเจ้านายที่มีความทันสมัยคนหนึ่งเลย

    เธอวางข้าวของลงบนเตียงแล้วเอนตัวลงนอนอย่างหมดแรงอยากลุกไปอาบน้ำแต่ไม่มีแรง

     

    …หิวข้าวจังแต่ยังไม่ถึงเวลา เฟียซบอกว่ามีโรงอาหารให้สินะ…

     

    ท้องยังส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ ขนมปังก้อนนั้นไม่พอยาไส้ไหนจะน้ำถ้วยเล็ก ๆ นั้นอีกแค่คิดก็รู้สึกแย่

    “เจ้าเป็นใคร?” 

    เกรเทลชะงักเพราะได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากหน้าประตูบ้านพักจึงชะโงกหน้าจากเตียงขึ้นมาดูเป็นชายร่างสมส่วนไม่ผอมแต่ก็ไม่อ้วน มีกระขึ้นเต็มใบหน้า

    กลัวเสียมารยาทเธอจึงรีบลุกขึ้นยืนเพื่อแนะนำตัวเองกับเขา ก่อนจะพูดก็กระแอมเสียงเล็กน้อยให้ทุ้มต่ำที่สุด

    “ข้าเกรเทลเป็นรูมเมตของเจ้าคือข้าเพิ่งมาใหม่ฝากตัวด้วยนะ” 

    “อ่อ เจ้าคือทาสที่คนอื่นเขาพูดนี่เอง” 

    ไม่คิดว่าข่าวมันจะไปเร็วขนาดนี้ก็อย่างว่าเธอเล่นกระชากโซ่เพื่อหนีออกไปแถมยังหน้าด้านของานจากเจ้านายที่นี่อีกไม่ถูกพูดถึงคงแปลกพิลึก

    “เออ…คงใช่ข้าเองแหละ” 

    เกรเทลเขินอายเล็กน้อยคาดว่าเธอจะกลายเป็นหัวข้อสนทนาหลังจากนี้แน่ ๆ สงสัยหลังจากนี้ต้องไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจเสียแล้วไม่งั้นแผนการหลบหนีคงพังอีกครั้งเธอยังไม่อยากลำบาก

    “ข้าชื่ออารอล์ฟหรือเรียกสั้น ๆ ว่ารอล์ฟก็ได้ข้าไม่ถือ” 

     

    ------

    กดหัวใจ ​❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แปลพลาด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    ตอนเขาให้งานหล่อนทีแรกทำไมหล่อนไม่รับไปล่ะสาว เป็นไงแกสภาพพพพ ดีแค่ไหนเขายังกล้ารับคนแบบแกเข้าทำงาน แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่สามารถล้มความตั้งใจในการหนีได้หรอกค่ะ5555

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in