เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อเรามีชีวิตกันและกันปะการัง
คลั่งจนเกือบบ้า
  • รักครั้งแรกและรักเก่าของฉันกลายเป็นสิ่งที่ปลดล๊อคตัวเองในบางอย่างและสร้างความทรมานทางจิตใจมานานนับปี หากนับเวลาที่พิมพ์ตอนนี้น่าจะ 7 ปีได้ ผองเพื่อนสมัยมัธยมคอยให้กำลังใจมาเสนอว่า "เมื่อแกเข้ามหาลัยก็คงมีเองแหละ / หาได้อยู่แล้ว"

    ไหนวะมึง 

    ซึ่งคน ๆ นั้นก็ไม่ได้ทำผิดครหาอะไร แค่รู้สึกเจ็บเพราะว่าฉันปากแข็งไม่พูดออกไป ยังคงสถานะเพื่อนไว้ตลอดมา

    ก็สมควรอยู่

    จนกระทั่งฉันรู้สึกบางอย่างกำลังผลิบานในหัวใจจากที่หวาดกลัวเรื่องความรักมานานในรอบ 21 ปีของชีวิต และมันก่อตัวขึ้นเร็วอย่างน่าประหลาด ประหลาดจนตกใจตัวเอง จนเป็นสาเหตุที่ต้องมานั่งพิมพ์ลงที่นี่

    ฉันกำลังจะคลั่งในความรัก

    คลั่งจนฉันอยากพรูความรู้สึกตั้งแต่แรกพบจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเราจะรู้จักกันผ่านโซเชียลออนไลน์ก็ตาม

    เอาล่ะ

    ฉันรู้จักเขาเพราะเป็นฝ่ายเข้าไปทำความรู้จักก่อน เขาเป็นนักวาด ฉันเป็นผู้เสพ ในช่วงแรกเราไม่ค่อยได้คุยกันมาเพราะไม่มีใครรู้จักใครเป็นการส่วนตัว งานคุณดีมากเลย ขอบคุณมากนะคะ หรือฉันก็เพียงแค่อะไรนิดๆหน่อย แชร์งาน จิปาถะ

    แล้ววันหนึ่งเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น ประมาณว่ามีประเด็นบางอย่างที่ทำให้เราเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย เริ่มสนทนากันยาวขึ้น ยาวขึ้น เขาเป็นคนตลก มีสีสัน มั่นใจในตัวเอง ฉันมองแบบนี้ผ่านตัวอักษรที่โต้ตอบกลับมา

    รู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาปีนึงที่รู้จักกันแล้ว แล้วสิ่งที่ฉันสังเกตจากเขาได้คือ ไม่ค่อยตอบ ไปจนถึงอาจจะไม่ได้เข้ามาบ่อย ๆ ซึ่งมีอยู่วันหนึ่งเขาไม่ได้ปรากฏให้เห็นหน้าทามไลน์ รวมถึงการตอบแชทในนั้น ทำให้ฉันรู้สึกกระวนกระวายอย่างถึงที่สุด

    เขาโกรธฉันรึไม่ เขาไม่ว่าง หรืออย่างไร

    ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งใจสั่น คอบดูอย่างตลอดว่าเขาจะเข้ามาเมื่อไหร่ ฉันอยู่ไม่สุขจนเครียดแบบบอกไม่ถูก ทักซ้ำจะเสียมารยาทหรือไม่ แล้วเมื่อถึงเวลาที่อารมณ์นั้นถึงขีดสุด

    เขาก็ทักกลับมา

    เหมือนน้ำสามารถดับไฟได้ในเสี้ยววินาที

    แต่เหตุการณ์นี้มันทำให้ฉันเรียนอยู่ได้อย่างหนึ่ง ถ้าเขาไม่ตอบก็ปล่อยเขา ไม่ว่าเขาจะไม่ว่างแค่ไหนก็ปล่อยเขา ถ้ามันจะมา เขาก็จะมาเอง และฉันแอบคิดว่าการกระทำที่ทักแชทซ้ำมันดูบุกรุกเกินไป ฉันควรจะเพลาตัวเองเสียบ้าง

    นับแต่วันนั้นฉันจึง "ไม่ค่อย" รู้สึกกระวนกระวายเวลาเขาตอบช้า จงคิดเสียว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะว่างตลอดเวลา ฉันควรทำใจกับมัน ทำใจกับตัวเอง

    แต่สิ่งที่ยังคงเดิมคือ ฉันรอคอยที่จะได้ตอบเขา ทุกวัน ตื่นเช้ามาฉันจะดูแจ้งเตือนของเขาเป็นสิ่งแรก ฉันจำได้ว่าเขาจะตอบเวลาประมาณไหนแม้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยตอบเช้ามาก ๆ จนรู้สึกแปลกใจ ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวจะต้องเกิดอะไรขึ้น

    ฉันชอบที่เขาเริ่มเล่าเรื่องส่วนตัว มันทำให้ตัวเองไม่ใช่คนไกล เชิงว่าทำให้เขาสบายใจที่จะกล้าพูดเรื่องส่วนตัวออกมา

    ฉันชอบที่เขาถามกลับว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทำอะไรอยู่ มันทำให้ฉันมองว่าเขาก็ใส่ใจไม่ใช่น้อย

    และฉันชอบที่เขายังคงตอบกลับฉันเสมอมา

    นับตั้งแต่นั้นฉันคิดว่าเขาเริ่มตอบเร็วขึ้นบ้าง ไม่ได้ทิ้งสองถึงสามวันค่อยตอบ เรียกว่าตอบทุกวันเลยก็ได้แม้ประประโยคละวัน คนทั่วไปคงมองว่าฉันฝืนไปทำไมในการกระทำที่ดูไม่มีความหวังแบบนี้ หากถามตัวฉันเอง ฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่ทำใจสิ่งที่อยากทำต่อไป

    บทความนี้ถูกเขียนไว้ช่วงต้นเดือนธันวาคม

    และกำลังจะเขียนต่อในปลายเดือนเมษายน เพื่อบอกว่าแม่งจบไม่สวย


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in