ถ้ารู้ว่าไม่สามารถเขียนมันอาทิตย์ต่ออาทิตย์ได้ก็ไม่ควรสัญญามะ นังเอ๋อ
เวลามีความคิดที่จะเริ่มก็จะรู้สึกว่า แป๊บนึงละกัน พรุ่งนี้ละกัน ผลคือถัดๆๆๆ ไปเรื่อย
Edit : 24 Sep 2020
ใช่ค่ะ ฉันลืมไปว่าตัวเองมีบล๊อกที่คอยอัพเดทชีวิตจิปาถะไร้สาระ เพียงรู้สึกว่าความเครียดมันอัดอั้นมานานนับหลายวันเลยอยากหาที่ระบายแบบจัดหนักพร้อมทั้งสรุปความบรรลัยของชีวิตนักรบทีสิส
ฉันเริ่มสัมผัสถึงความชิบหายของชีวิตหลังจากผ่านการนำเสนอจุลนิพนธ์ครั้งที่ 0 และการฝึกงานที่ยังไม่จบตามวันที่กำหนด รู้สึกแย่มาก หากย้อนเวลาไปได้ ตอนกรอกเอกสารฝึกงานที่ทางมหาลัยไม่ได้กำหนดวันสิ้นสุดฝึกงานก็คงจะกำหนดวันฝึกงานให้เหลือแค่ 2 เดือนหรือ 2 เดือนครึ่ง มันแต่คิดว่าต้องครบจำนวนชั่วโมงที่กำหนด พอมาฝึกจริงมันกลับกินจำนวนชั่วโมงไปมากโข หากนับจำนวนชั่วโมงที่เข้าออฟฟิศจริง ๆ ป่านนี้อีก 2-3 อาทิตย์ก็หมดแล้ว
เธอมันโง่
มันแย่ตรงไหนงั้นหรือ
ตรงที่ฉันต้องฝึกงานและทำจุลไปด้วย
แม่งเอ้ยอยากปาดคอตัวเองโคตร
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าของการเป็นคนขี้กลัวและสังคมอักเสบคือการต้องคุยกับที่ปรึษาทุกอาทิตย์ภายใต้งานของที่ฝึกงานที่ยังต้องทำ เหมือนว่าต้องทำงานสองเท่า ก่อนหน้านั้นฉันบอกเขาไปว่าตัวเองอาจไม่ได้ว่างทุกอาทิตย์ ดังนั้นโปรดทำใจ
แต่ตอนนี้ใจสั่นไปหมดเรยแม่ย นุกัว แง้
ฉันพยายามเจียดเวลามาเพื่อทำเอกสารและงานที่ได้รับมอบหมายไปพร้อม ๆ กัน อีกครั้งระหว่างเรียนออนไลน์กลับมีการพูดถึงงานจุลของฉัน มันทำให้ฉันเครียด กังวลเป็นทวีคูณ กลัวจะทำไม่ได้ กลัวว่ามันจะออกมาไม่สวย เลยแอบคิดแผนสองเอาไว้เผื่อทุกอย่างมันล้มเหลว แต่ถึงอย่างไรฉันก็กลับมาคิดอีกครั้งว่าการที่ฉันคิดแผนสองสำรองไว้ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำแผนหนึ่งมันถือว่าเป็นคนหนีปัญหารึเปล่านะ
ไม่ ฉันทำไม่ได้แน่ ฉันอยากเปลี่ยน ฉันอยากคิดสำรองไว้ก่อน แต่เมื่อถึงวันนำเสนออีกครั้งฉันจะไม่ทำงานนั้นและพูดแผนสองขึ้นแทน
เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุไม่พอ แถมขี้กลัวอีกต่างหาก ว่ามั้ย
ฉันพูดให้กรรมการฟังว่า กลัวทำไม่ได้ กังวล เขาเลยสั่งให้ฉันไปลองทำมาให้เขาดูแล้วมาตัดสินกัน
เอาเถอะ ลองไปทำมา ถ้ามันไม่เวิร์ค ณ ตอนนั้นก็ค่อยบอกแผนสองเขาละกัน
แต่ก็ยังกลัวอยู่ดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in