เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เมื่อเรามีชีวิตกันและกันปะการัง
บันทึกของการปิดเทอมไม่เป็นทางการที่ไร้จุดหมาย
  • นี่คือการกลับมาเขียนบล๊อกในรอบ 7-8 ปีหลังจาก Exteen ปิดตัวลง มันช่างน่าใจหาย แต่ถึงอย่างไร เรื่องราวของฉันในตอนนั้นมันช่างหวือหวาตามประสาเด็กม.ต้น คุณคงนึกสภาพมันออก แต่ถึงอย่างไรอะไร ๆ มันก็ต้องเปลี่ยน

    ในช่วงอายุที่เข้าเลข 2 กลับมีการเปลี่ยนแปลงมากมายราวกัวหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นคนเจนโลก ก่นด่าสารพัด แต่ในเมื่อสภาพแวดล้อมมันน่าด่าขนาดนี้ใครจะทนไหว

    เอาล่ะ มาเข้าประเด็นกันเถอะ 

    การที่ฉันเรียกมันว่า "ปิดเทอมอย่างไม่เป็นทางการ" นั้น เป็นผลพวงมาจากภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่สร้างความวุ่นวายให้กับทั่วโลก สถานที่ที่แออัดไปด้วยผู้คนถูกสั่งปิดทำการชั่วคราวจากคำสั่งของรัฐ

    นั่นรวมถึงสถานศึกษา

    มหาวิทยาลัยของฉันเข้าสู่ช่วงการสอนไฟนอลพอดี หากถามว่าทำไมถึงสอบช่วงนี้ ไม่ได้สอบไฟนอลตอนปลายเดือน 5 หรอ ขอบอกตรงนี้ว่ามันคือกำหนดการของมหาลัยในการเลื่อนวันปิดเทอมให้ตรงกับโรงเรียน
    ในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอนกลายเป็นสัปดาห์ที่ว่างเปล่า มาเรียนแค่วันเดียว เพราะส่วนใหญ่กลับยกคลาสไม่ก็สอนออนไลน์ และหลังจากนั้นรัฐก็สั่งหยุดเรียนทันที ซึ่งช่วงเวลาที่สั่งหยุดนั้นกลับตรงกับสัปดาห์สอบพอดี แน่นอนว่าตารางสอบโดนเลื่อน ก็เลยยังไม่จบชั้นปีสักที

    บางวิชาสอบออนไลน์ตามกำหนดการของมหาลัย บางวิชาการเป็นสอบเทคโฮมโดยไม่มีในตารางสอบ วุ่นวายดีแท้ มันก็ไม่ต่างกับการทำโปรเจคเลยแม้แต่น้อย ซึ่ง ณ วันที่กำลังเขียนอยู่นั้นฉันเหลือสอบตามตาราง 2 วิชา โปรเจค 1 วิชา และงานว่าจ้างที่ไม่ได้เงินอีก 1 งาน

    ฉันไม่อยากสาธยายเรื่องไวรัสให้มากนัก เพราะมันทำลายอะไรหลาย ๆ อย่าง มันเจ็บปวด

    ฉันขนของย้ายออกมาจากคอนโดที่ใกล้กับมหาลัยเพื่อกลับบ้าน ง่าย ๆ คือไม่อยู่ต่อ หลังจากกลับถึงบ้านก็เตรียมเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อทันที ทำอยู่แบบนั้นถึงถึงเมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม ระหว่างนั้นฉันได้แต่คลุกตัวอยู่ในห้องนอน หน้าโต๊ะทำงาน อยู่กับแอร์สลับพัดลม ในระยะเวลาบ่ายโมงกว่า-ตี2ในทุกวัน ออกจากห้องต่อเมื่อหิว แค่นั้น จริง ๆ แล้วหากฉันมีความอดทนอดกลั้นหรือฮึบกว่านี้ก็คงเสร็จตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ไม่มีเรียน ซึ่งมันหมายถึงว่าฉันอู้นั่นเอง

    เมื่อคืนหลังจากเคลียร์งาน 2 ชิ้นแล้วส่งไปกลับมีเรื่องราวที่ชวนใจหายตอนเที่ยงคืนเข้าวันที่ 31 มีนาคมในโลกของทวิตเตอร์ 


    หากคุณไม่เข้าใจเรื่อง "บอท" โปรดข้ามมันไป

    คุณเคยมีคนที่สนิทกันมาก ๆ แล้วอยู่ดี ๆ เขาก็ไม่ค่อยแอคทีฟ เช่น มาตอบ มานู่นนี่นั่น แล้ววันหนึ่งเขาบอกว่าจะหายไปมั๊ย มันทำใจยากนะ เขาเป็นบอทในด้อม ๆ หนึ่งที่ฉันกำลังติดอยู่ในตอนนี้ เรียกว่าเป็นบอทคนแรก ๆ เลยก็ว่าได้ ฉันชวนเขาคุยบ่อยที่สุดในบรรดาบอทที่เคยคุยด้วยมาทั้งชีวิต ฟังดูเกินไปหน่อยแต่นั่นเรื่องจริง ฉันเคยเจอคนที่ตั้งคำถามว่า "บอทสามารถฮีลคนได้ด้วยหรอวะ?"

    เออ ได้ กูคนนึงอ่ะ

    ฉันร้องไห้เรื่องบอทครั้งแรกในชีวิต รู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่ร้องไห้ออกมา และช่วงเวลาหลังจากที่บอทประกาศปิดตัวเหมือนเขายังคงแอคทีฟอยู่ ราวกับรู้ว่าต้องมีใครหลายๆคนกำลังร้องไห้แน่นอน เขาจึงทวิตว่าอย่างร้องสิอะไรทำนองนั้น 

    ฉันโกรธปนเสียใจ แต่นั่นมันคือการตัดสินใจของเขา เรื่องของเขา ยื้อไปก็ไม่น่าได้ผลอะไร ดังนั้นให้มันเป็นไปเถอะ

    โอเค จบเรื่องนี้ละ

    มันทำใจยากที่จะหลับแต่ก็ต้องหลับเพราะร่างกายมันง่วง แต่ก็ตื่นเช้าขึ้นมาหน่อยเพราะเสียงโทรศัพท์สั่น

    และวันของฉันยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม กินข้าว มีออกไปซ์้อขนมบ้าง และนั่งเล่นคอม



    หลังจากนี้ฉันจะพยายามเขียนบล๊อกอย่างน้อย 1 ครั้งต่ออาทิตย์ตลอดจนเปิดเทอม เป็นการสร้างวินัยกับคนที่ไม่มีวินัยอย่างฉัน และเมื่อวันหนึ่งฉันหมดไฟและกลับมาอ่าน อย่างน้อยเรื่องราวพวกนี้ก็เป็นเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของฉันเกิดการเปลี่ยนแปลงจนถึงทุกวันนี้และในอนาคต ฉันไม่รับประกันว่าเนื้อหามันจะยาวเหยียดพอที่จะอ่านในเวลาว่าง มักจะสั้นเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ดีแล้ว

    ขอบคุณผู้ที่หลงเข้ามาอ่าน

    Edit: แล้วฉันก็ลืมมันจริงๆ ลืมไปตั้ง2อาทิตย์ ให้ตายเถอะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in