บันบุ๊คส์: ทำไมถึงอยากเขียนงานเชิงวรรณกรรมเยาวชน
แม็กซ์ : ผมอยากเขียนหนังสือเด็กมานานแล้ว แต่จริงๆ เล่มนี้ก็ไม่ใช่หนังสือเด็กนะ เป็นหนังสือสำหรับผู้ใหญ่ที่ยังอยากเป็นเด็กอยู่มากกว่าหรือไม่อยากโตก็ว่าได้ เพราะเมื่อโตขึ้นเขาก็ต้องเผชิญกับสังคมที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งความทรงจำต่างๆ ที่เปลี่ยนไป ทำให้เขากลายเป็นคนที่แม้แต่เขาเองก็อาจจะไม่รู้จัก
บันบุ๊คส์: จุดเริ่มต้นมันมาจากอะไร
แม็กซ์ : คือคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าถ้ากลับไปเป็นเด็กได้ก็น่าจะดีนะ แต่หากกลับไปเป็นเด็กจริงๆ แล้วอาจพบข้อเสียของมัน อีกทั้งการหนีจากความจริงหรือความสัมพันธ์ต่างๆ มันอาจไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง
บันบุ๊คส์: หนีจากความสัมพันธ์ที่ว่า เป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบไหน
แม็กซ์ : ในเรื่องไม่มีรูปแบบตายตัวมั้ง เหมือนเขาหนีจากความเจ็บปวดมากกว่าซึ่งผมเล่าออกมาแบบเป็นนิยายเลยล่ะ
บันบุ๊คส์: แปลว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากจินตนาการล้วนๆ
แม็กซ์ : ใช่ครับ คือเรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่มีปัญหา ปัญหาคือเขาไม่ยอมโต แถมยังความจำเสื่อม แถมก่อนหน้านี้เขาเคยตายมาก่อน และเมื่อรอดกลับมาเขาก็กลายเป็นอมตะ และรู้สึกเอ็นจอยกับชีวิตที่ไม่ต้องโตและอยู่เป็นเด็กไปเรื่อยๆ
บันบุ๊คส์: ไหนๆ เรื่องที่เขียนก็เป็นฟิกชั่น ขอถามเรื่องที่เหนือความเป็นจริงหน่อย สมมติว่าถ้าสามารถย้อนกลับไปเจอเด็กชายแม็กซ์ได้ แม็กซ์ตอนนี้อยากจะบอกเขาว่าอะไร
แม็กซ์ : อืม...ผมจะบอกเขาว่าใจเย็นๆ เอ็นจอยกับปัจจุบันให้มากกว่านี้ อย่าพยายามตั้งเป้าอะไรมากมายหรือคิดมาก เพราะคิดเยอะก็ยิ่งกลัวแล้วก็เลยไม่อยากเจอ
บันบุ๊คส์: แปลว่าเมื่อก่อนเด็กชายแม็กซ์เป็นคนคิดเยอะ
แม็กซ์ : ใช่ครับเพราะตอนเด็กคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ สามารถทำอะไรได้หมด ซึ่งก็ทำได้จริงนะ ทุกอย่างมันดูง่าย แต่พอถึงระดับหนึ่งแล้วพอเกิดความผิดพลาดก็จะรู้สึกแย่มาก คือเล่มนี้มันเป็นเหมือนตัวดัดนิสัยของผมนะ ยิ่งเขียนยิ่งด่าตัวเอง
บันบุ๊คส์: เท่ากับว่ามันดึงเรื่องราวมาจากเราส่วนหนึ่ง
แม็กซ์ : ใช่ครับ มันมีพื้นของเรื่องจริงอยู่เพราะผมไม่อยากให้แฟนตาซีมากไป ผมพยายามให้ผู้อ่านได้จินตนาการจากตัวหนังสือเอง อย่างชื่อตัวละครหลักในเรื่องผมก็ไม่ใส่
บันบุ๊คส์: แล้วถ้าสมมติว่าแม็กซ์ความจำเสื่อมแล้วเลือกจำได้อย่างเดียวจะเลือกจำอะไร
แม็กซ์ : โห...ถ้าผมต้องลืมก็อยากลืมมันให้หมด ไม่ต้องจำอะไรได้เลย เพราะถ้าผมจำได้สิ่งหนึ่ง เดี๋ยวก็จะต้องจำอีกสิ่งหนึ่งได้ และผมว่ามันทรมานที่ต้องมานั่งคิดว่าเราเคยเป็นอะไร จริงๆ ก็เหมือนในเรื่องนี้ที่ตัวละครเลือกจำในสิ่งที่อยากจำแต่ก็ลืมได้ไม่หมดทำให้รู้สึกทรมาน เลยคิดว่าถ้าแบบนี้ลืมไปเลยให้หมดเลยดีกว่า เราจะได้เป็นคนใหม่ที่เริ่มต้นใหม่เลย
บันบุ๊คส์: ถ้าเอาสิ่งที่จากไปแล้วกลับมาได้จะเอาอะไรกลับมา
แม็กซ์ : จริงๆ ผมตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้บ่อยนะ คือผมอยากจะเอาคำพูดและการกระทำแย่ๆ กลับคืนมา ผมอยากจะนั่งเลือกสิ่งที่ผมทำหรือพูดออกไปให้ดีกว่านี้
บันบุ๊คส์: งั้นถ้าย้อนไปเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อยากไปเปลี่ยนอะไรมากที่สุด
แม็กซ์ : มีอะไรหลายอย่างที่ผมอยากเปลี่ยนคือมีคนบอกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ก็ดีแล้ว เพราะมันทำให้เราเป็นเรา ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรแล้ว แต่ก็ไม่จริงหรอกผมอยากเปลี่ยนหลายอย่าง แต่ถ้าเปลี่ยนก็คงไม่ทำให้ผมเป็นผมอย่างทุกวันนี้ งงมั้ย (หัวเราะ)
บันบุ๊คส์: สุดท้ายแล้วแม็กซ์ตั้งใจมอบความทรงจำอะไรผ่านหนังสือเล่มนี้
แม็กซ์ : สิ่งที่อยากบอกคือ อยากให้เข้าใจว่าการเป็นปีเตอร์แพนมันไม่ได้ดีเสมอไป การได้เป็นเด็กตลอดไป การไม่ต้องคิดอะไร การลืม การไม่ต้องเจ็บปวดมันเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้สร้างความหมายให้กับปัจจุบัน เพราะทุกอย่างมันก็จะไม่มีค่าเมื่อเรามองกลับไป
ฟิกชั่นเรื่องแรกของ ‘แม็กซ์ เจนมานะ’ ที่จะพาผู้อ่านท่องโลกไปพร้อมเรื่องประหลาดของเด็กชายที่ไม่เคยหลับ และยังคงตัวเท่าเดิมไม่ว่าเวลาจะหมุนเปลี่ยนไปนานแค่ไหน ติดตามเรื่องราวของเขาได้ ที่งานสัปดาห์หนังสือฯ บูธบันบุ๊คส์ Y07 ตั้งแต่ 29 มีนาคม - 10 เมษายน 2559 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in