และเมื่อมีลมหนาวพัดผ่านมาปกคลุมประเทศไทยเมื่อไหร่ก็พลอยให้ใจมันคิดถึงเรื่องราวสำคัญ กินใจ ในฤดูหนาวของเมื่อวันวาน
ทว่าเมื่อก่อนหากลมหนาวพัดผ่านมาเมื่อใด ผมก็คงคิดถึงทุ่งนาสีทองที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตประจำปีของชาวบ้านในหมู่บ้านของผม คิดถึงการแข่งขันฟุตบอลประจำปี คิดถึงกีฬาสีที่โรงเรียนมัธยม ไปจนถึงโอวัลตินร้อนที่แม่ชงไว้รอตอนเช้าก่อนจะไปโรงเรียน บรรยากาศแบบนั้นยังติดอยู่ในหัวผมเสมอมา
แต่แล้วปีนี้ผมเองก็ได้บันทึกความทรงจำใหม่ ๆ ลงในสมองส่วนซีรีบรัมเพิ่มเสริมเติมส่วนลงไปเป็นส่วนผสมของฤดูหนาวอีกหนึ่งเรื่อง
ก็คือการเดินทางไปภาคเหนือของประเทศไทย ในฤดูหนาวที่หนาว มั้ง เป็นครั้งแรกของผมนั่นเอง
ณ เวลา 17:08 น.
แสงแดดเรืองรองส่องลงบนถนนสี่เสนของอำเภอหนึ่งแถบอีสาน ผมมองผ่านกระจกบานใหญ่ของรถบัสเอกชนที่กำลังเคลื่อนตัวจากภาคอีสานเพื่อจะเดินทางเข้าสู่ภาคเหนือ
“นี่คงเป็นแดดสุดท้ายที่นี่ที่เราจะได้สัมผัสก่อนจะจากไปหลายวันสินะ”
“นี่สินะ ชีวิตมันต้องเดินทางเพื่อพาตัวเองไปเจออะไรใหม่ ๆ บ้าง”
“ไอ้สัด รีบอาบน้ำ อีกชั่วโมงนึงรถจะออกแล้ว!”
นี่แหละครับความเป็นจริง
ไม่ได้เท่เหี้ยอะไรแบบข้างบนซักนิด
555555555555555
เอาจริงแล้ว! ที่จะมาเล่าก็คือ ผมไปที่อำเภอปายมาฮะ
จะบอกว่าเมืองเขาน่ารัก ดูสบายตามาก เป็นเมืองเล็ก ๆ
ที่สำคัญคือไม่มีตึกบังตา มีภูเขาล้อมรอบ อากาศดีมากกกกก!
ช่วงเช้าและช่วงเย็น ๆ แสงจะสวย
ให้อารมณ์แบบเมืองนางาซากิประเทศญี่ปุ่น (เคยไปหรอ หึ!)
เหมาะแก่การเดินถ่ายรูปมากจริง ๆ
หากว่างก็คงอยากจะแวะนั่งอ่านหนังสือสักเล่ม
อยากสัมผัสบรรยากาศนั้นนาน ๆ
แต่ว่าตอนนั้นธงหลักเป็นการไปเที่ยว ไม่ใช่การพักผ่อน
น่าเสียดายเหมือนกัน บางครั้งก็เจอวิวที่สวยมาก
แต่บางทีเจอแล้วก็ไม่อยากถ่ายก็มี
อยากมองอยู่อย่างนั้นนาน ๆ แค่นั้นพอ
20:11 น. ณ เกสเฮ้าส์สักแห่งในปาย
ตกเย็นมาผมหิ้วเบียร์ลาวมาหกขวดนั่งดื่มคุยกันกับเพื่อนที่ไปด้วยกัน
ไฟสีส้มสลัว ๆ ของที่นี่พร้อมกับอากาศเย็น ๆ หน่อย เหมาะแก่การนั่งดื่มจริง ๆ
มันเป็นช่วงเวลาที่โอเคเลย เรานั่งพูดกันพูดเรื่องอะไรไปเรื่อย จนเบียร์หมด
เพื่อนเดินไปเลือกเบียร์เพิ่ม ผมจุดบุหรี่สูบรอ
พอดึกนิดหน่อยผู้ดูแลที่นี่มาบอกว่าให้เข้าไปกินข้างในได้ไหม เขาจะปิดไฟแล้ว
พวกเราโอเค (ตอนนั้นกำลังเริ่มเมา)
หลังจากย้ายมาเสร็จเราจับจองโต๊ะกลาง ๆ แต่ที่นั่นแปลก
ไม่ใช่สถานที่นะ แต่เป็นพวกผมเนี่ย แปลก!!!
แปลกตรงไหน แปลกที่เป็นคนไทยกลุ่มเดียวที่พักที่นั่น
แปลกตรงที่พวกเราไม่ค่อยกล้าเดินไปทักทายเพื่อนชาวต่างชาติที่นั่งอยู่ตรงข้าม
แต่เขาทำกัน เออว่ะ ทำไมเราไม่กล้าวะ ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น
00:23 น.
“beautiful star in PAI.” ฝรั่งกลุ่มนึงเดินดูดาวมาหลังเก้าอี้ที่ผมกำลังนั่งดื่มอย่างเมามันอยู่
พร้อมเอื้อนเอ่ยเชิญชวนให้ลุกไปดูด้วยกัน ผมก็ตอบไปว่า “yeah i see, it’s so beautiful.”
ทั้งที่นั่งอยู่ใน้หลังคา ฮ่าาาา แล้วก็ขำกันทุกคนที่อยู่นั่น
สักพักผมลุกมาดูกับเขา เออแฮปปี้ดีนะเว้ยยย
เราไม่ได้พูดกันมาก แต่น่าจะรู้สึกแบบเดียวกัน
และสำหรับผมมันโอเคกว่าการนั่งจิ้มมือถือ
ต่อไปคงต้องออกไปพูดกับคนอื่นมากขึ้นแล้ว
ผมรู้สึกดีกับอำเภอปายมาก ๆ
ผมคงต้องกลับไปเยือนที่นั่นอีก
และเมื่อลมหนาวต่อไปพัดมาปกคลุมประเทศไทยอีกครั้ง
ผมก็คงนึกถึงอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ความทรงจำล่าสุดในฤดูหนาว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in