เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Secretly in love with Moviesรั่วชิงบ้านสกุลหาน
‘Itaewon Class ธุรกิจปิดเกมแค้น’ ชั้นเรียนชีวิตผ่านแผนธุรกิจย่านอิแทวอน
  • 이태원 클라쓰 (2020)
    Genre: TV Drama
    Country: South Korea
    Director: Kim Sung-yoon
    Writer: Gwang Jin
    Staring: Park Seo-joon, Kim Da-mi
    Duration: 1 season, 16 episodes
    Available on Netflix


    *บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์*

              단밤 (ทันบัม) คือร้านอาหารกึ่งผับร้านเล็กๆ ร้านหนึ่งในย่านอิแทวอน แปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ คือร้าน "ค่ำคืนแสนหวาน" สถานที่พบปะและเต็มไปด้วยเรื่องราวของผู้คนภายในร้าน

              ร้านนี้ก่อตั้งโดยเจ้าของร้านหัวเกาลัดท่าทางซื่อๆ มึนๆ ที่จบเพียง ม.3 กำพร้า ไม่ได้ร่ำรวย และที่สำคัญ...เคยติดคุก

              แต่ชายคนนี้ตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ แม้จะใช้เวลานานในการเริ่มตั้งตัว แต่เขาต้องการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในวงการอาหาร และที่สำคัญคือการโค่นค้ม "ชางกา" จ้าวแห่งวงการอาหารของเกาหลีในขณะนี้ให้ได้


              Itaewon Class เป็นซีรีส์ขนาด 16 ตอนจบ สร้างจากเว็บตูนชื่อเรื่องเดียวกันโดย โช-กวังจิน นำแสดงโดย พัคซอจุน และ คิมดามี ผลงานของสถานีโทรทัศน์ JTBC ช่องเคเบิลทีวีน้องใหม่ของวงการ ซึ่งเราสามารถรับชมได้ทุกวันศุกร์และเสาร์เวลาห้าทุ่มตรงทาง Netflix

              ตอนที่ตัดสินใจเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องนี้เรารู้สึกค่อนข้างแปลกใหม่เล็กน้อย เพราะแม้จะชอบดูหนังเกาหลี แต่ไม่ค่อยชอบซีรีส์เกาหลีเท่าไรนัก มีซีรีส์ไม่กี่เรื่องที่เราเคยดู แต่ตัดสินใจดูเรื่องนี้เพราะเพื่อนแนะนำมา แถมยังขึ้นปกโชว์ใน Netflix อีกต่างหาก

              และเมื่อได้ดูอีพีแรกจบไป ก็ยอมรับว่าไม่ผิดหวังเลย


              ความที่เป็นคนไม่ชอบเนื้อหาเชิงรักๆ ใคร่ๆ ในสื่อละครหรือภาพยนตร์นัก พอได้มาเจอซีรีส์ดราม่าเต็มไปด้วยแผนแก้แค้น ชั้นเชิงของการฟาดฟัน เนื้อหาที่สามารถพลิกผันไปมาได้ตลอดเวลา มันเลยรู้สึกว่าค่อนข้างที่จะประทับใจ แถม vibe มันคล้ายกับเรื่อง Remember – War of the Son ที่ชื่นชอบในอดีตด้วย

              ซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงหนุ่มชื่อแปลก พัคแซรอย ผู้เป็นเจ้าของร้านทันบัม การตั้งตัวของเขา การเปิดแผนแก้แค้นของเขา ความสัมพันธ์และชั้นเรียนชีวิตที่เกิดขึ้นในย่านอิแทวอนของเกาหลีใต้


              เรื่องราวการต่อสู้ที่ใช้เวลายาวนานนี้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เขาอายุ 16 ปี เด็กหนุ่มพัคแซรอยท่าทางซื่อๆ นิสัยประหลาดในสายตาเพื่อนใฝ่ฝันอยากสอบเข้าโรงเรียนตำรวจ แต่เมื่อเขาย้ายเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย เขาดันไปมีเรื่องกับ ชางกึนวอน ลูกชายคนโตของ ซีอีโอ ชางแดฮี ผู้กุมหัวเรือใหญ่ของกลุ่มธุรกิจชางกา


              นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความพลิกผันที่ยากจะกู่กลับของพัคแซรอย ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วันที่เขาปล่อยหมัดใส่หน้าชางกึนวอน เขาโดนไล่ออกจากโรงเรียนหลังจากเข้าเรียนได้เพียงวันเดียว พ่อผู้แสนดี ลูกน้องของชางแดฮีผู้มองว่าการที่ลูกชายไม่ยอมคุกเข่าขอโทษชางกึนวอนนั้นคือการกระทำที่ "เท่มาก" ได้ลาออกจากงาน พ่อลูกคู่นี้ฝันจะเปิดร้านอาหาร แต่ฝันยังไม่ทันไปได้ไกล ผู้เป็นพ่อของเขาต้องมาจากไปเพราะการประมาทเลินเล่อของชางกึนวอน



    ผู้ที่ควบคุมเงินตราและอำนาจคือผู้ที่อยู่สูงสุดในสังคม

              แม้จะเป็นฝ่ายเสียหาย แต่สุดท้ายพัคแซรอยกลับต้องโทษจำคุกสามปี แต่ในระหว่างที่อยู่ในคุก เขาอ่านหนังสือธุรกิจของชางแดฮีจนแทบจะท่องได้ เริ่มต้นวางแผนจากตรงนั้น ก่อนออกจากคุกไปทำงานประมงเพื่อหาเงินเลี้ยงชีวิต


              เวลาทั้งหมดผ่านไปร่วม 10 ปีนับตั้งแต่ฝันร้ายเริ่มต้นขึ้น ในที่สุดพัคแซรอยก็สามารถเปิดร้านเล็กๆ ของเขาได้ในย่านอิแทวอน ตั้งเป้าจะมีแฟรนไชส์ไปทั่วโลก และเหยียบชางแดฮีไว้ใต้เท้า และทั้งหมดนั้นเริ่มต้นขึ้นจากร้านเล็กๆ ชื่อทันบัมแค่ร้านเดียว


    เริ่มจากคนงาน 3 คนและความเงียบเหงาของร้านเล็กที่ไร้คนสนใจ


              หลังจากเปิดร้านได้แล้วใช่ว่าจะเป็นที่รู้จักได้เลย แม้จะอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของศัตรูในคุกมาก็แล้ว จดจำการทำธุรกิจของอีกฝ่ายมาก็แล้ว แต่พัคแซรอยไม่ใช่ผู้รอบรู้ด้านการทำธุรกิจ ไร้ประสบการณ์ ไม่มีลูกน้องมือดี ที่เขามีนั้นมีเพียงเด็กเสิร์ฟอดีตนักโทษแก๊งอันธพาลที่เจอกันในคุก และอีกคนเป็นพ่อครัวหน้าหวานที่ไม่มีฝีมือด้านการทำอาหารแม้แต่น้อย


              ร้านเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีลูกค้า เงียบเหงาจนพนักงานนั่งตบแมลงวัน เขาคิดได้แค่แผนโปรโมทยุคเก่าอย่างการสวมมาสคอตไปแจกใบปลิว ซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยโปรโมทร้านของเขาเลย จนกระทั่งเกมนี้เปลี่ยนไปเพราะการเข้ามาของเด็กสาวคนหนึ่ง


    โชอีซอ เมเนเจอร์สาวไอคิว 162 หัวขบถ พวกต่อต้านสังคมตัวแม่



              โชอีซอ ในตอนนั้นเป็นนักเรียนมัธยมปลายที่เก่งรอบด้าน ทั้งการเรียน การกีฬา ดนตรี หรือศิลปะ เป็นหนึ่งในสมาชิกเมนซา (MENSA = สถาบันอัจฉริยะแห่งสหราชอาณาจักร) แถมเป็น influencer ที่มีคนติดตามมากมาย

              แม้จะดูเหมือนป๊อบปูลาร์ในโซเชียลมีเดีย แต่ชีวิตจริงของเด็กสาวคนนี้กลับเป็นคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นพวกต่อต้านสังคม ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ มองโลกในแง่ร้าย ขาดแคลนพื้นฐานของการปฏิบัติตัวต่อเพื่อนมนุษย์ เรียกง่ายๆ คือเป็นเด็กสาวไม่น่ารักคนหนึ่งนั่นเอง


              แต่หลังจากโชอีซอมีความรัก และรู้ตัวว่ารักผู้จัดการร้านหัวเกาลัดเข้าแล้ว เธอก็เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละน้อย แทนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยตามที่แม่คาดหวัง เธอกลับเริ่มต้นเป็นเมเนอเจอร์ให้ร้านทัมบัม คิดหาวิธีโปรโมทดีๆ ตกแต่งร้านให้มีพ้อยท์ ตั้งใจจะช่วยเป็นเสาค้ำจุนให้พัคแซรอยไปถึงฝั่งฝัน ทำให้เขาเป็นยอดคน เพียงเพราะ "ฉันน่ะรักผู้จัดการจนแทบบ้า"


    เกมการแก้แค้นผ่านธุรกิจ ล้มเสือร้ายตัวนั้นเสีย



              ลาสต์บอสของเรื่องแน่นอนว่าต้องเป็นชางแดฮี สำหรับชางกึนวอนนั้นคงไม่นับว่าเป็นตัวอะไรในสายตาของพัคแซรอย ก็แค่เด็กรวยเอาแต่ใจนิสัยน่ารังเกียจคนหนึ่ง แต่นั่นกลับเทียบไม่ได้กับชางแดฮี ผู้เป็นพยัคฆ์ที่ยากจะล้ม

              แม้คนไม่ชอบเรื่องธุรกิจดูเรื่องนี้ยังรู้สึกสนุก คำคมดีๆ ล้วนได้มาจากทั้งสองฝ่าย เราจะได้เห็นการฟาดฟันกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟันระหว่างพัคแซรอยกับชางแดฮี ที่ต่างก็งัดกลเม็ดของตัวเองออกมาเพื่อเอาชนะ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะจนเราคาดเดาไม่ได้


              อย่างในอีพีที่ 10 อีพีล่าสุดในวันที่เราเขียนคอนเทนต์นี้ (01/03/2020) มันเป็นอะไรที่อึ้งที่สุดแล้ว เราคิดว่าฝั่งนี้จะชนะ แต่กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายสามารถพลิกเกมกลับมาได้ด้วยวิธีการที่เราคาดไม่ถึง "งูเห่าที่ถูกตัดหัวยังกัดคนได้อยู่" นี่คือประโยคที่ดังขึ้นมาในหัวทันทีที่เราได้ดูเบสต์ซีนของอีพีนี้ไป

              และใช่...สิ่งที่พัคแซรอยต้องรับมือที่จริงแล้วคือชางแดฮี ชายผู้ที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนและยากจะรับมือ


    Transgender & Racism



              ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะมีจุดเด่นตรงเกมธุรกิจแล้ว ยังเป็นซีรีส์ที่สอดแทรกประเด็นในสังคมเอาไว้อีก สมกับความเป็น JTBC จริงๆ

              ร้านทันบัมเป็นเหมือนแหล่งรวมผู้คนที่ชำรุดจากสังคม นอกจากตัวพระเอกและเด็กเสิร์ฟที่เป็นอดีตนักโทษ หรือเด็กสาวพวกต่อต้านสังคมแล้ว ยังมีพ่อครัวที่เป็น Transgender และเด็กเสิร์ฟหน้าใหม่ที่เป็นชายผิวสีอีกด้วย


              ประเด็นของ LGBT อย่างที่รู้กันว่ายังไม่เปิดกว้างนักในสังคมเกาหลี ดังนั้นซีรีส์จึงแสดงให้เห็นว่าการที่พ่อครัวของร้านเป็นชายหน้าหวานที่มีงานอดิเรกชอบแต่งหญิงนั้นค่อนข้างเป็นปัญหาอยู่บ้าง จะเป็นยังไงถ้าคนทั่วไปรู้ว่าร้านมีพ่อครัวแบบนี้ แต่ซีรีส์ก็นำเสนอออกมาในแง่มุมที่โดดเด่น เพราะพระเอกของเราเป็นคนที่เปิดกว้างและยอมรับในเรื่องความแตกต่างทางเพศได้ดี

              หรือกับชายผิวสีจากกินีที่มาสมัครงานเป็นเด็กเสิร์ฟแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แถมยังย้ำชัดว่าตัวเองเป็นคนเกาหลีอีก ซีรีส์นำเสนอซีนหนึ่งที่พนักงานไปผับด้วยกัน แต่เขาถูกกันไว้ด้านนอกเพียงเพราะเป็นคนผิวสีเท่านั้น ซึ่งแน่นอน...งานนี้พระเอกของเราแก้เผ็ดผับดังกล่าวคืนอีกแล้ว


    ความสัมพันธ์และการเลือกทางเดินของตน รักแรกที่ไม่อาจลืม



              หากดูอีพีต้นๆ เราจะเริ่มสงสัยว่าใครกันนะที่เป็นนางเอกของเรื่องนี้ เพราะผู้หญิงที่เด่นมากๆ ในเรื่องจะมีด้วยกันทั้งหมดสองคน โอซูอา คือรักแรกของพัคแซรอย เธอเป็นเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและนับถือพ่อของพัคแซรอยเหมือนเป็นพ่อของเธอเอง ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ช่วงที่พัคแซรอยเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย แต่ในขณะที่พัคแซรอยติดคุก โอซูอากลับเลือกที่จะรับเงินทุนจากชางกา และทำงานให้กับชางแดฮีจนถึงปัจจุบัน

              แม้จะยืนกันคนละฝั่ง แต่ทั้งคู่ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ "เธอใช้ชีวิตของเธอไปเถอะ" นี่คือสิ่งที่พัคแซรอยมักบอกโอซูอาเสมอ และไม่ว่าทั้งคู่จะยืนกันคนละฝั่ง แต่เขาก็ยังรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง


              สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านเว็บตูนเรื่องนี้ก็อาจจะลังเลว่าสรุปแล้วควรเชียร์ใครดีระหว่างโอซูอากับโชอีซอ ตอนแรกที่ดูเราก็สองจิตสองใจ (แต่ความจริงมีเรือที่ก้าวเท้าลงไปเรียบร้อยแล้ว) แต่ช่วงอีพีห้าหกเป็นต้นไปเราจะค่อยๆ รับรู้ได้แล้วว่าออร่านางเอกคือใคร

              ว่ากันตามตรง ช่วงอินโทรก็บอกหมดแล้วล่ะว่าใครเป็นนางเอก หรือภาพตอนแถลงข่าวต่างๆ ก็จะเห็นกันอยู่ เฮ้อ...โชคดีที่ก้าวลงเรือถูกลำ


    ตัวละครที่มีมิติคือหนึ่งในเสน่ห์ของเรื่อง

              พัคแซรอยเป็นตัวละครที่บางครั้งก็ซื่อๆ มึนๆ แต่แฝงความหัวขบถเอาไว้ในตัว ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่จิตใจอ่อนโยนคนหนึ่ง ในเรื่องของการแสดงสีหน้าก็ทำได้ดีจนเรารู้สึกเจ็บปวดตาม ทั้งสีหน้าท่าทางหรือกระทั่งแววตามันทำให้เราเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครตามได้อย่างง่ายดาย


              หรือตัวโชอีซอเองที่ขอชมว่าเป็นอีกตัวละครที่ได้นักแสดงมาสวมบทบาทดีไม่มีที่ติ ต้องบอกก่อนว่าเราตามผลงานของคิมดามีมาสักพักแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นสายหนัง ได้รับรางวัลใหญ่จากเรื่อง The Witch: Part 1. The Subversion (เล่นกับชเว-อูชิก จาก Parasite) เราได้เห็นผลงานการแสดงของเธอมาก่อน พอย้ายมาสายละครก็รู้สึกว่าฝีมือยังไม่ตก มีแต่จะดีขึ้นๆ ไปอีก

              โชอีซอนั้นอย่างที่บอกว่ามีความไม่น่ารักอยู่ในตัว แต่ก็ทำให้คนสองจิตสองใจเพราะเธอเข้มแข็งมาก ความที่อยากเอาชนะอยากได้อะไรต้องได้นี่เองมันทำให้เธอเป็นคนไม่ยอมแพ้ แม้บางครั้งจะมีโลจิกต์แปลกๆ แต่ก็ได้เรียนรู้ไปตลอดทั้งเรื่องโดยอาศัยตัวพัคแซรอยนี่แหละ 


              อีกตัวละครหนึ่งที่น่าประทับใจเหมือนกันคือ ชางกึนซู ลูกนอกสมรสของชางแดฮี น้องชายคนละแม่ของชางกึนวอน และเป็นเพื่อน (?) ของโชอีซอ

              เป็นอีกหนึ่งคนที่เราคุ้นเคย เพราะเคยดูเขาจากเรื่อง Sky Castle บทในเรื่องนี้ก็ออกติ๋มๆ อีกเหมือนกัน ชางกึนซูเป็นเด็กที่ไม่ได้รับความรัก โดนพี่ชายรังแก แม่ดีแต่ช็อปปิ้ง พ่อก็ไม่ใส่ใจ เขาจึงออกมาใช้ชีวิตอยู่เองและสุดท้ายก็เข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านทันบัม


              แรกๆ เราจะรู้สึกว่าตัวละครนี้ค่อนข้างอ่อนแอ ไม่มีปากมีเสียง แต่เราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเพราะได้รับอิทธิพลจากพัคแซรอย เขาเริ่มต้นมีปากเสียงกับพ่อ เริ่มต้นไม่เกรงกลัวคำขู่ของพี่ชาย และตอนนี้เขามีความคิดอยากจะได้ชางกามาไว้ในกำมือแล้ว

              นับเป็นอีกตัวละครที่มีพัฒนาการดีทีเดียว

              และไม่พูดถึงคงไม่ได้กับชางแดฮี เราค่อนข้างชอบตัวร้ายแบบนี้นะ ไม่ได้กระโชกโฮกฮาก แค่ใช้สายตาและความสุขุมเท่านั้น มันสามารถกดดันให้คนหายใจไม่ออกได้ง่ายๆ ทำให้เราตัวสั่นเพราะความน่าเกรงขามและแผ่กระจายกลิ่นไอของคนมีอำนาจ


              เขาเป็นทั้งพยัคฆ์ งูเห่า และจิ้งจอก ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาใช้ดี เราได้เห็นมุมอ่อนแอของเขาที่มีต่อครอบครัว แต่ในนาทีถัดมาเขากลับเป็นคนสองหน้าที่ไม่สนใจใดๆ อีกแล้ว การฟาดฟันกับคนเช่นนี้ทำให้เราคิดว่าถ้าเราเป็นพัคแซรอย เราจะสามารถต่อกรกับเขาได้จริงหรือ?

              ยังมีตัวละครสำคัญอีกหลายตัวที่เป็นส่วนผลักดันของเรื่อง ทั้งนายตำรวจเก่าที่ทำคดีในครั้งนั้น สาวผู้ถือหุ้นชางกาที่อยากจะคว่ำประธานชางให้ได้ในสักวันหนึ่ง หรือเพื่อนนักเรียนที่ถูกบุลลี่ในสมัยก่อน เป็นแรงขับเคลื่อนและเป็นแต้มต่อที่น่าสนใจที่อยู่ในกำมือของพัคแซรอย


              และสิ่งเหล่านี้คือการแก้แค้นผ่านสงครามธุรกิจ สมจริงและเป็นสีเทา โดยมีฉากหลังคือย่านอิแทวอน สถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้คนและเชื้อชาติ ชั้นเรียนชีวิตของชายหนุ่มผู้ล้มเหลว กับพนักงานทั้งหลายที่เหมือนภาชนะแตกหักมารวมตัวกัน และทั้งหมดเกิดขึ้นในร้าน "ค่ำคืนแสนหวาน" อย่างทันบัมนี่เอง





เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in