“มาบ้านคนอื่นอีกแล้วเหรอ”
“ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากมา”
“เหรอ แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปล่ะ”
เตนล์หลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหน้าหนีอีกคนอย่างเบื่อหน่าย
เขาเองก็ไม่อยากจะแวะมารบกวนบ่อยๆหรอก ถ้าไม่ใช่ว่าเจโน่ น้องชายของคนตัวสูงที่ยืนดึงหน้าตึงใส่เขาอยู่ขอร้องให้แวะมารับที่บ้าน
แล้ววันนี้ก็เป็นวันฮาโลวีนพอดี เตนล์และเจโน่ตกลงกันว่าจะไปปาร์ตี้ที่บ้านของมาร์ค และเพราะเตนล์มีรถและเพิ่งได้ใบขับขี่มา เขาเลยต้องมานั่งรอเจโน่อยู่อย่างนี้
โดยมีพี่ชายตัวโตของเจโน่คอยมองด้วยสายตาว่างเปล่า เดาไม่ออก
ก็ตั้งแต่รู้จักกับเจโน่มาเป็นหลายปี สิ่งที่เขาได้รับจากพี่ชายของเพื่อนคือความไม่เป็นมิตรมาตลอด
“ระวังๆด้วยล่ะเจโน่ อย่าดื่มเยอะเกินด้วย เดี๋ยวจะกลับบ้านไม่ไหว”
“รู้แล้วน่าจอห์น ผมโตแล้วนะไม่ต้องห่วง ห่วงตัวเองดีกว่า อย่าไปหิ้วสาวคนไหนมานอนด้วยแล้วกัน แม่รู้โดนยึดรถแน่”
เตนล์หลุดขำออกมาจนจอห์นนี่หันมามอง
“ขำอะไร”
“เปล่านี่ จะไปกันได้ยังล่ะเจโน่ เลทมาสิบนาทีแล้วนะ” เตนล์เอ่ยถามเพื่อนสนิท
“ไปดิๆ ไปก่อนนะจอห์น แล้วจะรีบกลับมา”
“อืม”
เตนล์หันไปมองจอห์นนี่เพียงแค่นิดเดียวก็หันหน้ากลับไปเหมือนเดิม ไม่มีคำพูดใดๆทั้งสิ้นกับอีกฝ่าย
“อย่าไปมองคนอื่นด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ” เสียงของพี่ชายเพื่อนเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาหันหลังให้
“อะไรอีก”
“เตือนไว้ มองแบบนั้นระวังกลับไม่ถึงบ้าน”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่ใช่คนชอบหาเรื่องใคร ยกเว้นมีใครมาหาเรื่องก่อน”
“หึ เอาลูกกวาดมาฝากด้วยแล้วกัน”
“กลับไปกินกาแฟขมๆต่อเหอะ”
“เตนล์ไปกันยัง?” เจโน่ตะโกนถามมาจากข้างนอกบ้าน
“เออๆ ไปแล้วๆ”
“หวังว่าคงจะเป็นเด็กดีเหมือนหน้าตานะ” จอห์นนี่ทิ้งท้ายก่อนจะส่งยิ้มที่มุมปากมาให้อีกคน
“หุบปากไปเลย”
...
“จอห์น เปิดประตูให้หน่อย”
เจโน่ตะโกนเรียกคนเป็นพี่ตรงแถวๆหน้าต่างห้องของอีกคน ถึงห้องจะปิดไฟไปแล้ว แต่ก็ยังมีแสงจากไฟหัวเตียงส่องอยู่พอให้รู้ว่าเจ้าของนั้นอยู่ในห้อง
“เมามาสิท่า” จอห์นนี่เดินมาเปิดประตูให้น้องชายและเพื่อนเดินเข้ามาในบ้าน
“อื้อ ไม่ไหวแล้ว ขอตัวนะ คืนนี้เตนล์จะนอนกับผมด้วย มันขับรถกลับคนเดียวไม่ไหวแน่ ไปก่อนนะพี่”
เจโน่พูดจบก็รีบเดินขึ้นห้องตัวเองทันที เตนล์ที่เดินตามมาข้างหลังนั้นมีสภาพไม่ต่างจากเพื่อนเท่าไหร่ แม้แต่จะเดินให้ตรงยังเป็นเรื่องยาก
“ไง คนเก่ง เมามาเลยนะ”
“...”
“เหล้าเข้าปากแล้วสงบปากสงบคำดีนี่”
“ถอยไป ง่วงนอน”
“ก็ไปนอนดิ”
“ฮื่อออ หลบดิ”
“เมาแบบนี้กลับห้องไม่ถูกหรอก มานี่มา เดี๋ยวจะพาไปส่ง”
แรงดึงที่บริเวณแขนทำเอาเตนล์เซถลาตามไปอย่างง่ายดาย
สติที่มีน้อยนิดเอ่ยบอกตัวเองว่านั่นไม่ใช่ทางไปห้องของเจโน่ และถ้าจำไม่ผิด ทางนั้นคือห้องของเจ้าของมือหนาที่นำทางเขาอยู่ตอนนี้
.
.
.
“อื้อ จอห์น... อึก”
“ขอบคุณที่ไม่ลืมของฝากนะ”
จอห์นนี่ยิ้มในขณะที่ยังไม่หยุดขยับร่างกาย ลูกกวาดแสนหวานถูกชิมแล้วชิมอีกตลอดทั้งคืน
หลายครั้งที่เขาละเลียดชิมและบางครั้งก็รู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นมูมมามกับขนมหวานชิ้นนี้เหลือเกิน
ยอมรับเลยว่าเตนล์หวาน หวานที่สุด
ยิ่งกินเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่พอ
“จอห์น อึก... พะ พอ”
“เตนล์ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ”
หวานยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ หวานไปหมดทั้งตัวจริงๆ
ความทรงจำในวัยเด็กย้อนกลับเข้ามา เด็กชายวัย13ที่แอบลักจูบเพื่อนน้องชายตัวเองในวันฮาโลวีน จูบเพราะตกหลุมรักอีกฝ่ายตั้งแต่แรกพบ
เด็กผู้ชายตัวน้อยหน้าหวานที่ถูกจับใส่ชุดเกรเทลเข้าคู่กับชุดฮันเซลของเพื่อนสนิท กำลังนั่งดูการ์ตูนที่ฉายอยู่ในห้องของเขา
รู้ตัวอีกทีก็หลอกอีกฝ่ายให้เสียจูบแรกให้ตัวเองเสียแล้ว และนั่นก็เป็นเหตุผลที่สองปีต่อมาถูกอีกคนเมินใส่เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าเสียจูบแรกให้พี่ชายของเพื่อนสนิท
แต่คราวนี้มันแตกต่างออกไป เขารู้ว่าอีกฝ่ายที่พยายามเลี่ยงเขาตลอดเวลานั้นก็รู้สึกแบบเดียวกันไม่ต่างกับเขา
ไม่งั้นไม่เดินตามเขามาถึงห้องอย่างนี้หรอก
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เมาขนาดนั้น
สำหรับเขาน่ะ ถ้าเป็นเรื่องของอีกคน ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็รู้ทั้งนั้นแหละ
“อืออ จอห์น... อึก พอแล้ว”
“รู้ตัวมั๊ยว่าเตนล์หวานไปหมด”
“...”
“แล้วรู้มั๊ยว่าต่อให้บ้านขนมหวานน่ะมีแม่มด ยังไงพี่ก็จะกินอยู่ดีนั่นแหละ”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in