เริ่มต้นกันที่ซีรีส์เกาหลีเรื่อง Saimdang, Light's Diary เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ของเกาหลี โดยผู้ที่มารับบทนำนั้นก็คือ อียองเอ คุณแม่หน้าเด็ก ที่มารับบท ซอจียุน 

นักประวัติศาสตร์ศิลปะที่ได้หลุดเข้าไปอยู่ในอดีต และต้องเข้ามาแก้ไขปริศนาบางอย่างให้คลี่คลาย
ใครที่ยังไม่ดูลองเข้าไปอ่านเรื่องของคุณ แอดติ่ง (ซีรีส์) กันได้ ส่วนใครที่ดูกันแล้วก็ขอให้ติดตามต่อไปเพราะเรื่องนี้เพิ่งจะฉายไปแค่ไม่กี่ตอนเท่านั้น นอกจากเรื่องราวที่สนุกแล้ว อียองเอ นี้แหละที่จะมาเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดคนดูไว้อยู่หมัดกับการแสดงของเธอ

ใครบอกว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ขี้อาย ผู้ชายก็มีจ้า เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องแรกของ tvN ในปี 2017  โดยได้เล่าถึง ฮวานกี CEO หนุ่มที่ฉลาดและรู้ทันคน แต่ติดอยู่ที่ตรงเขาเป็นโรคกลัวสังคม ด้วยบุคลิกของเขาเป็นแบบนี้ เลยถือว่าเป็นเสน่ห์ของตัวละครฮวานกีตัวนี้เลยทีเดียว ในตอนแรกที่ซีรีส์ออกฉายนั้นกระแสถือว่าแรงพอสมควร และคาดว่ากระแสจะดีขึ้นมากกว่านี้แน่ ๆ ใครที่ยังไม่เคยดูลองเข้าไปอ่านเรื่องของคุณ babosky98 ดูนะ รับรองว่าอ่านแล้วจะต้องปลุกต่อมความอยากดูของ
เพื่อน ๆ ได้แน่นอน

ซีรีส์จบแต่คนไม่จบจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้คุณ Buttercake/เนยจะบิน ได้ระบายความรู้สึกออกมาให้เราได้อ่านไว้หมดแล้ว ใครที่ยังไม่ดูโปรดระวังสปอย555 ของมันแน่อยู่แล้วเรื่องเขาออกจะดี สามีของมินิมอร์คนนี้ก็เล่นได้ดี๊ดีเหลือเกิน ลั่น!  คือจะบอกว่ามันไม่ได้ดีแค่นักแสดง แต่มันดีไปจนถึงตัวบท ผู้กำกับ
ผู้มีส่วนร่วมทุกอย่างที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้ อยากรู้ว่าประสบความสำเร็จแค่ไหนวัดจากเรตติ้งได้เลย ใครที่ดูจบแล้วอยากหาเพื่อนระบาย มินิมอร์เรียนเชิญทางนี้เลยค่า ส่วนใครที่ยังไม่เคยดู ได้โปรดอย่าเข้าเด็ดขาด มินิมอร์เตือนแล้วน้า ฮิๆ 

หนังอัตชีวประวัติของแจคเกอรีน เคเนดี้ตั้งแต่ครั้งที่จอห์น เอฟ เคนเนดี้ สามีถูกลอบสังหาร โดยคุณ SCHLENDERN ได้บอกเล่าเรื่องราวออกมาอย่างสนุกสนาน ทำเอามินิมอร์อยากพุ่งตัวไปที่โรงหนังซะเดี๋ยวนี้เลย เสียงลือเสียงเล่าอ้างหลายเสียงที่ได้พูดถึงการแสดงอันน่าทึ่งของนาตาลี พอร์ทแมนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนอยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้กัน อีกทั้งเรื่องราวอันน่าทึ่งบวกกับความฉลาดของตัวละคร ทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Jackie นี้ติดตราตรึงใจของคนดูได้ถึงแม้ว่าเราจะเดินออกจากโรงมาแล้วก็ตาม

บางที.. พวกเธออาจกำลังโบยบินไปที่ใดซักแห่งในโลกของความฝัน'

จากเรื่องราวที่คุณ Pdagrapher ได้เล่าเอาไว้นั้น เมื่ออ่านแล้วทำให้เรารู้สึกสงสารและเห็นใจทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่อยู่ในเรื่องนี้เอามาก ๆ สาว ๆ ตระกูลลิสบอนที่ถูกพ่อแม่ของพวกเธอบังคับให้อยู่แต่ในห้อง ห้องที่เป็นเสมือนกำแพงที่ปิดกั้นอิสระและความรู้สึกต่าง ๆ ของพวกเธอ ส่วนกลุ่มเด็กหนุ่มนั้นก็ได้แต่เฝ้าคอยเวลาที่พวกเธอจะได้ออกมาเผชิญกับโลกภายนอก โดยแต่ละคนก็ได้แต่เฝ้ามองดูชีวิตของกันและกันมาตลอด หลังจากได้อ่านเรื่องทั้งหมดแล้วทำให้มินิมอร์เข้าใจหัวอกตัวละครอย่างพวกเธอได้เป็นอย่างดี เพราะพวกเธอก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง ที่อยากมีอิสระบ้าง อยากมีคนรักบ้าง หรือแม้แต่อะไรต่อมิอะไรที่คนทั่วไปนั้นมีกัน การที่พ่อแม่จับพวกเธอให้อยู่แต่ในห้องก็เหมือนเป็นการปิดกั้นโอกาสบางอย่างที่กำลังจะมาแต่ก็มาไม่ถึง ใครยังไม่เคยดู มินิมอร์แนะนำอย่างยิ่งว่าควรรีบหามาดูด่วนเลยจ้ะ