เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#แอบจดจากแอ๊บแจ๊บpleech x appjpling
10. おわり:จบแล้วนะ
  • #แอบจดจากแอ๊บแจ๊บ

    (n.) blog ที่ทุกคนได้ร่วมค้นพบภาษาญี่ปุ่นในมุมใหม่ ๆ ไปด้วยกัน


    ถึง ผู้อ่านทุกคน.


    เอาล่ะ แอบเศร้านิด ๆ นะคะ เพราะนี่จะเป็น entry สุดท้ายของ blog แล้ว;-;

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มเขียน blog นี้ เรายังงง ๆ อยู่ว่าจะเขียนไปในทิศทางไหนดี เพราะเราก็ไม่ใช่สายภาษาจ๋า ไม่ใช่สายทฤษฎีแน่นปึ้ก สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจเน้นไปที่เรื่องใกล้ตัว เรื่องที่เห็นแล้วเราเกิดคำถาม รวมถึงเรื่องที่เราเจอแล้วเกิดความรู้สึกตื่นเต้นอยากบอกต่อ บางเรื่องอาจจะเป็นประเด็นที่เร้กกกกกกมาก แต่เราก็ดีใจที่ได้เขียนออกมาแล้วมีคนมาร่วมว้าวด้วยกันค่ะ


    จากใจคนเขียน แต่ละ entry เราตั้งใจเขียนมาก ๆ รูปที่ลงในนี้ก็ใช้รูปที่ถ่ายเอง (ยกเว้นอันที่มีเครดิท) ถึงจะไม่ค่อยมั่นใจสำนวนการเขียนของตัวเองเท่าไหร่y_y เราอยากให้ทุกคนที่กดเข้ามาอ่านได้อะไรใหม่ ๆ กลับไปทุกครั้งถึงจะไม่ได้เรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ก็ตาม และก็ต้องสนุกด้วย นี่คือเป้าหมายหลักที่ตกลงกับตัวเองไว้ค่ะ???


    ลองมาสรุปกันดีกว่าว่าแต่ละ entry ที่ผ่านมาเราเขียนอะไรไปบ้าง


    1. 漢語:สูตรลับทำให้ฉลาดขึ้น115%!!?!?

    entry สอนภาษา เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนให้ความรู้เลยจัดเต็มมาก ๆ 5555555 พอเขียนสอนก็ได้พัฒนาการใช้ภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง ระหว่างหาข้อมูลก็ได้คำศัพท์ใหม่ ๆ มาด้วย


    2. 独り言:ภาษาญี่ปุ่น ภาษาของคนเหงา(ที่มีคนฟัง)

    entry สอนภาษา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้เรียนกับอาจารย์พิเศษในคาบ เป็นลักษณะเฉพาะตัวของภาษาญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้สังเกตมาก่อนเลย ทำให้รู้จักภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นอีกนิด


    3. キラキラネーム:เฎ็กๆศมัยนี้ฌื่อแปลกฎีณะฆ๊ะ

    entry ตามใจ เรื่องชื่อเป็นเรื่องที่เราสนใจมานานมาก ๆ แล้วเลยหยิบมาเขียนซะเลย เรารู้สึกว่าการตั้งชื่อเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาและวัฒนธรรม ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นชื่อแปลก ๆ อย่างเห็นได้ชัด ตอนหาข้อมูลก็เจอชื่อว้าว ๆ เยอะมากเลยค่ะ


    4.外来語:ฉลาดแล้วฉลาดอีก! ฉลาดแบบTrilingual

    entry สอนภาษา ปิดท้ายซีรี่ส์พูดอย่างชาญฉลาดด้วยหัวข้อคำยืม ได้ตั้งข้อสังเกตกับอิมเมจของคำยืมเพื่อจะได้นำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมในโอกาสต่อ ๆ ไป


    5. 邦題:ชื่อหนังมหัศจรรย์ เรื่องเดียวกันจริงหรือนี่?!

    entry ตามใจ ส่วนตัวเราสนใจด้านการแปลในระดับนึงเลย บางครั้งเจออะไรก็จะลองแปลในเวอร์ชั่นของตัวเองดูเพื่อเทียบกับของคนอื่น ๆ  ทีนี้เราเลยตั้งข้อสังเกตว่าถ้าเป็นสิ่งเดียวกันแต่ต้องไปอยู่ในวัฒนธรรมต่างกันอย่างภาพยนตร์เนี่ย เวลาแปลชื่อมันจะมีความแตกต่างอย่างไรบ้าง ที่เลือกภาพยนตร์เพราะว่าเป็นสิ่งที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่ (แมส) แล้วก็พบว่าความแตกต่างระหว่างชื่ออังกฤษ-ญี่ปุ่น-ไทย เห็นได้ชัดและน่าสนใจมากทีเดียว


    6. 災害地名:คุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่!

    entry ตามใจ เกิดจากการตั้งคำถามของเราตอนอยู่ญี่ปุ่นว่าชื่อสถานที่พวกนี้จะมีเบื้องหลังอะไรไหม แล้วก็พบว่ามีจริง ๆ ด้วย! พอได้หาข้อมูลก็ได้รู้เรื่องที่ไม่เคยมีใครบอกมาก่อน รู้สึกได้ความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้น


    7. 断り:โอ๊ย! ปฏิเสธยังไงไม่ให้เจ็บ

    entry สอนภาษา จริง ๆ เป็นควันหลงจากซีรี่ส์พูดอย่างชาญฉลาดค่ะ5555 มีเคล็ดลับนึงในการพูดฉลาดฯ ก็คือลองปรับเปลี่ยนคำพูดให้ positive มากขึ้น เราเลยนึกถึงการปฏิเสธที่ถ้าพูดตรง ๆ จะทำร้ายจิตใจกันไปหน่อย ภาษาญี่ปุ่นขี้เกรงใจอยู่แล้วเลยมีสำนวนในการเลี่ยง ๆ พูด No เยอะแยะมากมาย เลยหยิบจุดนี้มารวบรวมไว้ค่ะ


    8. POP:ป้ายป๊อปสุดปัง ดูดตังค์แบบไม่รู้ตัว

    entry ตามใจ เวลาเข้าร้านค้าเราชอบไปอ่านป้ายพวกนี้มาก ๆ เพราะแต่ละป้ายครีเอทมากค่ะ เป็นศาสตร์ที่ผสมผสานระหว่างภาษา+ดีไซน์ ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่เราสนใจ บวกกับซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเขียน POP มาสักพักแต่ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยถือโอกาสนี้นำมาเล่าให้ฟัง วัฒนธรรมป้าย POP ของญี่ปุ่นนี่ว้าวจริง ๆ นะคะ พอเรารู้เทคนิคการเขียนให้น่าสนใจ จูงใจ เลือกใช้คำต่าง ๆ เราก็สามารถนำไปประยุกต์กับการเขียนสิ่งอื่น ๆ ได้เช่นกัน 


    9. まとめ:สรุปสู่การเป็นต้นฉบับเลกเชอร์

    entry ตามใจ เคยมีเพื่อนบ่นให้ฟังว่า ให้อ่านให้ฟังมันก็รู้เรื่องนะ แต่พอให้สรุปก็ไม่รู้จะเริ่มเขียนยังไงดี เราเลยนึกถึงตอนที่ได้เรียนเขียนสรุปที่ญี่ปุ่นค่ะ บวกกับเราเป็นคนชอบเขียนสรุปเป็นนิสัยอยู่แล้วเลยนำทริคมาแบ่งปันกัน นอกจากนี้ยังได้ลองสรุปคลิปที่หามาเอง ค่อนข้างพอใจในผลงานนะคะ55555 ทริคพวกนี้สามารถนำไปใช้เวลาเขียนสรุปภาษาไทยก็ได้นะ


    สิ่งที่ได้จากการเขียน blog โดยรวม

    • ได้เปิดมุมมองภาษาญี่ปุ่นใหม่ ๆ + ได้คำศัพท์ใหม่ตอนค้นคว้าข้อมูล
    • ได้คิดคอนเทนท์ให้น่าสนใจและอยู่ใน theme ของ blog 
    • ได้หาข้อมูลเพื่อตอบคำถามที่คาใจ แชร์ให้ทุกคนได้ว้าวด้วยกัน
    • ได้นำเรื่องราวที่อยากเล่ามาจัดระเบียบความคิด ฝึกเขียนให้คนอ่านที่เข้าใจและไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นอ่านได้ง่าย


    สิ่งที่ได้จากการเรียนวิชา Applied Japanese Linguistic

    • ได้เปิดมุมมองภาษาญี่ปุ่นที่กว้างกว่าเดิม : ด้วยความที่เราเป็นคนชอบสังเกตหรือหาจุดต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ พอได้มาเรียนก็รู้สึกตอบข้อสงสัยไปหลายอย่างมากค่ะ อย่างซีรี่ส์การพูดอย่างชาญฉลาดก็มีหลายวิธีเช่น ใช้คำยืม ใช้คำ positive ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้แต่ศัพท์ยาก ๆ 
    • ได้ทดสอบสกิลของตัวเอง : ในคลาสจะมี task ต่าง ๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้ทำให้ลองทำ อย่างเช่นแต่งเรื่องเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าไม่ลงเรียนก็คงไม่ได้ลองเขียน แล้วก็ไม่ได้ฝึกใช้ภาษาสำหรับการแต่งเรื่องด้วย เพราะปกติก็จะได้เขียนแต่พวกแนะนำตัว email ฯลฯ
    • ได้สังเกตข้อผิดพลาดของตัวเอง : หลายครั้งที่ task ทำขึ้นเพื่อให้เราลองใช้สกิลและเรียนรู้มันจากข้อผิดพลาดของตัวเองค่ะ เราก็จะรู้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหน แล้วแก้ไขได้ตรงจุด
    • ได้เขียน blog นี้?


    ความจริงการเขียน blog เป็นสิ่งที่อยากทำมานานแล้ว พอลงเรียนวิชานี้ก็มีโอกาสได้เขียนเป็นจริงเป็นจังครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนบรรลุ goal อย่างหนึ่งของตัวเองเลย55555 แถมได้รับคอมเม้นท์และการสนับสนุนจากหลายคนที่เข้ามาอ่าน ดีใจมากเลยค่ะ


    ถ้า blog ของเราเป็นประโยชน์ต่อการเรียนภาษาญี่ปุ่น อ่านแล้วทำให้ได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน หรือนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้ก็เป็นความปริ่มใจอย่างนึงของเราแล้วล่ะค่ะ yvy


    ?ถ้าใครคิดถึงกัน ติดตามได้ที่ instagram: @plee___dae ?

    ขอบคุณที่ร่วมว้าวด้วยกัน

    pleech.



    ?


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Kanokwan Katagiri (@fb3408029972557)
blog นี้มีความเป็น professional มาก ไอเดียดี สรุปดี(ถ่ายทอดดี) และมีภาพประกอบแบบถ่ายเองด้วยอีกต่างหาก (ทุกภาพถ่ายได้ดีมาก) อ่านแล้วสบายตาและทำให้รักภาษาขึ้นมากเลยค่ะ เขียนต่อก็ได้นะคะ...น่าจะมีแฟนเยอะ...ขอบคุณสำหรับ blog ดีๆและเนื้อหามุมมอง creative นะคะ
nisitparttime (@nisitparttime)
ยินดีด้วยค่ะที่เขียนจนจบ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยค่ะ