เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[FICTION] HYUNGI버찌린
[SF] น้องกุ๊งของหม่าม๊า -1
  • Sigle Mom - กลุ่มแชร์ประสบการณ์สำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

    24 มี.ค. 2019


    สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อเชอร์รี่ค่ะ เป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มนี้มาสักพักใหญ่แล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้แชร์ประสบการณ์อย่างคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวท่านอื่นๆเลย วันนี้ดิฉันได้เจอเหตุการณ์แปลกๆ เหตุการณ์หนึ่งเลยถือโอกาสมาเล่าพร้อมกับสอบถามเหล่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในกลุ่มนี้ เผื่อจะมีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบดิฉันแล้วจะสามารถให้คำแนะนำได้บ้าง


    วันนี้ดิฉันไปรับน้องกุ๊งลูกชายวัย 3 ขวบของดิฉันที่โรงเรียนอนุบาล ปกติน้องกุ๊งเป็นเด็กช่างพูดค่ะ แต่แกจะพูดไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เพราะตอนเล็กๆไม่ยอมพูดเลยเพิ่งจะมาพูดเอาตอน 2 ขวบกว่า ตอนนี้เวลาดิฉันไปรับแกที่โรงเรียนแกจะวิ่งตะโกนเรียกดิฉันมาแต่ไกล จ้อเรื่องที่โรงเรียนไม่หยุดตั้งแต่อุ้มขึ้นรถจนกระทั่งถึงบ้าน เป็นเด็กดื้อคนนึงเลยก็ว่าได้ค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า 


    เข้าเรื่องต่อเลยดีกว่า วันนี้ที่ดิฉันไปรับลูกมันต่างจากทุกวันมากค่ะ เพราะวันนี้ลูกชายดิฉันไม่ได้ตะโกนเรียกดิฉันอย่างทุกวัน ตรงกันข้ามลูกชายดิฉันทำปากคว่ำตาแดงก่ำเหมือนเพิ่งร้องไห้เสร็จใหม่ๆในมือมีอมยิ้มพร้อมกับเด็กผู้ชายตัวสูงโย่งคนนึงจูงมือแกเดินมาหาดิฉัน 


    ดิฉันตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นลูกเป็นแบบนี้มาก่อน กำลังจะอ้าปากถามว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าเด็กตัวสูงโย่งที่เดินจูงมือลูกดิฉันมาก็พูดตัดหน้าออกมาเสียก่อน


    "เลิกร้องไห้ได้แล้ว ถ้าไม่หยุดร้องพี่จะเอาลูกอมคืนนะ"


    น้องกุ๊งลูกชายดิฉันที่ชีวิตรักขนมทุกอย่างในโลกรองจากดิฉันก็ตะโกนออกมาเสียงดัง 


    "เยิกย้องแย้ว!!" 


    ก่อนจะโผเข้ากอดดิฉันแล้วงอแงว่าอยากกลับบ้าน ดิฉันเลยจำต้องอุ้มกลับไปที่รถโดยที่ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าทำไมน้องกุ๊งถึงร้องไห้ แต่ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถเด็กผู้ชายตัวสูงคนนั้นก็เอ่ยสวัสดีดิฉันด้วยเสียงเบาๆแล้วเดินกลับเข้าไปข้างในโรงเรียน


    พอดิฉันมาถึงรถก็จับลูกนั่งคาร์ซีทตรวจเช็คเข็มขัดเสร็จเรียบร้อยแล้วมุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างรอรถติดไฟแดงน้องกุ๊งก็ขอให้แกะอมยิ้มในมือให้แล้วก็นั่งกินเงียบๆ ซึ่งผิดวิสัยแกมากค่ะ ปกติจะพูดจนเหนื่อย จนคอแห้งร้องหาน้ำกินเป็นประจำ 


    "หม่าม๊า! พิ่มะหยั่กไปโยงเยียนแย้ว!!"


    จู่ๆ เจ้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ตะโกนขึ้นมาลั่นรถ ดิฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปถามหาเหตุผลที่เด็กดื้อไม่อยากไปโรงเรียน


    "ทำไมล่ะครับ ใครทำอะไรหนู"


    "ไอ่โยตัวฉูงแก้งพิ่!"


    "ใครกัน เพื่อนในห้องหนูเหรอครับ แล้วทำไมหนูเรียกเพื่อนว่าไอ้ ไม่ดีเลยนะครับ หม่าม๊าห้ามไม่ให้พูดนะ"


    "โยตัวฉูงแก้งพิ่!!"


    น้องกุ๊งตะเบงเสียงจนหน้าแดงก่ำ ทำท่าจะร้องไห้ขึ้นมาอีกรอบ ดิฉันเลยเบรกน้ำตาด้วยการถามถึงเหตุการณ์ที่น้องกุ๊งบอกว่าโดนแกล้ง


    "ไหนโยแกล้งยังไงครับ เล่าให้หม่าม๊าฟังซิ"


    "โยหั้ยเพิ่นบีบแจ้มพิ่ พิ่เจ็บแจ้มหมด แย้วโยกะมาหอมแจ้มพิ่ บอกว่าโอ๋ๆ แบบเนี้ยะ! พิ่เจ็บกะย้องแง แย้วโยกะหั้ยยูกอม แต่ แต่พิ่เจ็บแจ้มกิงมะด้าย โยบอกให้กิงที่บ้าน แย้วโยกะบอกว่าพุ่งเน้จะมาหอมแจ้มพิ่อีก!"


    "หืม? โยนี่คนที่เดินมาส่งหนูใช่ไหมครับ?"


    "ใจ่! พิ่มะหยั่กไปโยงเยียน ถ้า ถ้าโยมาหอมแจ้มพิ่ พิ่กะต้องโดนบีบแจ้มใจ่ม้ะ พิ่เจ็บ มะหยั่กไปแย้ว!!"


    ว่าจบเจ้าเด็กดื้อก็ปาอมยิ้มในมือทิ้งไปนอนแอ่งแม้งอยู่ตรงที่วางเท้า นี่ก็ผิดวิสัยอีกอย่างนึงเพราะปกติเรื่องของกินนี่ถ้าได้ถือแล้วแทบไม่ห่างปากเลย สงสัยโกรธมากจริงๆค่ะ แต่เพราะแสดงอาการไม่น่ารักออกมา เลยโดนดิฉันดุไปทีนึงว่าไม่ให้ปาสิ่งของเวลาไม่พอใจ หลังจากนั้นเลยนั่งหน้าตูมไปจนถึงบ้านเลยค่ะ


    พอกลับถึงบ้านดิฉันก็จัดการธุระส่วนตัวของตัวเองกับลูกเสร็จทุกอย่างแล้วก็เลยพาลูกมานอนคุยกันบนเตียงเตรียมตัวเข้านอน ดิฉันยังติดใจกับเรื่องราวของเด็กผู้ชายที่ชื่อโย เลยถามน้องกุ๊งที่ดูเหมือนจะลืมไปหมดแล้วว่าเคยโกรธเพื่อนจนไม่อยากไปโรงเรียน ตอนนี้กลับมาสดใสพูดจ้อจนคอแห้งได้อีกครั้ง 


    "น้องกุ๊ง เพื่อนที่ชื่อโยนี่อยู่ห้องเดียวกับหนูเหรอครับ"


    "มะจ่ายยยย โยยุ่นุบานฉอง พิ่ยุ่นุบานหนึ่น!"


    "อ่าว แล้วไปรู้จักกันได้ยังไงครับ"


    "กะตอนรอหม่าม๊า โยกะชอบมาแย่งชิงช้าพิ่ บอกว่า ถ้า ถ้าพิ่มะหั้ยจะโยนพิ่ขึ้นฉูงงงง ตกมาดังแอ่ก! แบบเนี้ยะ!"


    "แล้วหนูทำยังไงครับ ยอมให้เขาหรือเปล่า"


    "พิ่มะหั้ย! บอกว่า พิ่มาก่อง! ถ้า ถ้าโยแก้ง จาฟ้องคู!"


    "อื้ม เก่งจังลูกชายหม่าม๊า ตัวแค่นี้หัดสู้คนซะแล้ว แล้วยังไงต่อ"


    "โยกะผักพิ่ย้มตึง!"


    "อ้าว ล้มตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเคยบอกหม่าม๊าเลย"


    "โยบอกว่า ถ้า ถ้าพิ่มะบอกคู มะบอกหม่าม๊า โยจาหั้ยหนม บ้านโยมีหนมเย้อ~ โยมีไอย่อนแมนย่วย ถ้า ถ้าพิ่มะบอกโยกะหั้ยพิ่เย่น"


    "เห็นแก่กินแก่เล่นจังเลยเราเนี่ย แล้วโดนผลักล้มเจ็บตรงไหนไหมครับ ร้องไห้ไหม"


    "พิ่เจ็บตูดตงเน้ จะย้องแง แต่ แต่โยให้นั่งบนขา บอกว่ามะย้อง ฮึบๆ แบบเนี๊ยะ! ขาโยนุ๊มนุ่ม พิ่กะมะเจ็บ"


    มาถึงตรงนี้ดิฉันเริ่มไม่แน่ใจจุดประสงค์ของเด็กที่ชื่อโยคนนั้นซะแล้ว แย่งชิงช้าลูกชายดิฉันแถมผลักลูกดิฉันล้มแต่ให้ลูกดิฉันนั่งตักเพราะล้มก้นกระแทกเลยเจ็บก้นแล้วยังให้เล่นของเล่นของตัวเองอีก แล้วจากที่เห็นเองกับตาที่เด็กคนนั้นเดินมาส่งลูกดิฉันวันนี้ก็ด้วย ให้เพื่อนมาแกล้งบีบแก้มลูกชายดิฉันแล้วยังมาหอมแก้มปลอบอีก ให้อมยิ้มแล้วยังเดินมาส่งอีกต่างหาก มันยังไงกันแน่คะ? เด็กคนนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่ อยากเป็นเพื่อนกับลูกชายดิฉันหรือแค่อยากแกล้งแกเฉยๆ ดิฉันเพิ่งเคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก เลยไม่รู้ว่าควรทำยังไง มันร้ายแรงพอจะแจ้งกับทางโรงเรียนหรือยังคะ? แต่อีกใจนึงดิฉันก็ไม่อยากเลี้ยงลูกแบบโอ๋เกินไป กลัวแจ้งโรงเรียนแล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้านิ่งเฉยก็กลัวลูกจะโดนแกล้งแรงขึ้น รบกวนขอคำปรึกษาจากเหล่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวในกลุ่มนี้หน่อยนะคะ 



    - เชอร์รี่ หม่าม๊าของน้องกุ๊ง -





    - Talk -

    ลั่นจนได้ 5555555 เชิญเหล่าคุณแม่คอมเม้นคำแนะนำไว้ได้เลยนะคะหรือจะไปแนะนำในแท็ก #น้องกุ๊งของหม่าม๊า ก็ได้ค่ะ 

    เรื่องนี้ไม่เชิงฟิค แต่จะเป็นฟิลลิ่งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งโพสเรื่องราวต่างๆ ทั้งเล่าเรื่อง ปรึกษา ขอคำแนะนำ ไปจนถึงระบายความรู้สึกเกี่ยวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ดูเหมือนว่าจะโดนจีบตั้งแต่อนุบาล 555555 ตั้งใจจะเขียนยาวไปจนลูกโตเลยค่ะ ฝากเอ็นดูน้องกุ๊งด้วยนะคะ แง้

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Rattanawadee Hapanna (@fb4198657521760)
ม๊าพิกุ๊งคะ...เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยค่ะ พิโยชอบพิกุ๊งแน่นวลเลยค่าาาาา
aumarch_ii (@aumarch_ii)
เอ่ออคือ.. ม๊าพิกุ๊งคะคำปรึกษาอิชั้นไม่มีหรอกค่ะมีแต่คำบอกเล่าว่าตาโยชอบพิกุ๊งค่ะ5555