ถ้าพูดถึงเทศกาลหยุดยาวแล้ว เชื่อว่าหลายคนก็มีแพลนที่จะออกไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือบางท่านอาจจะกลับภูมิลำเนาเกิด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องใช้เดินทางโดยส่วนมากเลยก็คือ รถยนต์ พาหนะสำคัญในการเดินทาง แต่จะทำอย่างไรให้เดินทางถึงที่หมายโดยปลอดภัย ราบรื่นไม่ติดขัด ไม่ต้องมากังวลกับปัญหารถเสียระหว่างทาง วันนี้เรามีวิธีตรวจเช็ครถก่อนออกเดินทางไกลมาฝากทุกท่านครับ
ถ้าขี้เกียจอ่านเรามีวิดิโอให้ดูด้วยน้า
จุดที่ 1 ตรวจเช็คแบตเตอรี่
สิ่งสำคญของการสตาร์ทเครื่องยนต์นั่นก็คือแบตเตอรี่รถยนต์ ตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่ ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ หมั่นตรวจเช็คทำความสะอาดคราบขี้เกลือที่ขั้วแบต เช็คระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนดอยู่เสมอ ตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต และฉนวนหุ้มสายไฟ
จุดที่ 2 ล้อและยางรถยนต์
เป็นอีกจุดที่สำคัญมากๆเลยก็ว่าได้ เพราะยางรถยนต์เป็นจุดที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนโดยตรง อุบัติเหตุส่วนหนึ่งบนท้องถนน เกิดจากยางระเบิดขณะขับขี่ ดังนั้นยางที่ดีต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่แตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ เติมลมยางตามที่คู่มือประจำรถกำหนด ส่วนล้อก็ควรอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่คด ไม่เบี้ยว และที่สำคัญ อย่าลืมเช็คน็อตล้อด้วยนะครับ ว่าขันแน่นหรือเปล่า
จุดที่ 3 เช็คช่วงล่าง
ตรวจเช็คด้วยการลองขับบนถนนเรียบทางตรง โดยสังเกตพวงมาลัยว่าตรงหรือไม่ หากพวงมาลัยไม่ตรงก็จัดการนำรถไปตั้งศูนย์ใหม่ พวกชิ้นส่วนต่างๆของช่วงล่าง เช่นลูกหมาก หากขับทางขรุขระแล้วมีเสียงกุกกัก อาจเกิดจากลูกหมากหลวมก็เป็นได้ รีบให้ช่างแก้ไขโดยด่วน โช้คก็เช่นกัน ตรวจเช็คคราบน้ำมันบริเวณแกนโช้ค ว่ามีการรั่วหรือไม่ อัตราการยวบ-คืนตัวของโช้ค ว่ามีการยวย-คืนตัวตามปกติหรือไม่ เพราะระบบช่วงล่างทั้งหมดมีผลต่อการทรงตัวขณะขับขี่ ในการใช้ความเร็ว
จุดที่ 4 เช็คระดับน้ำมันเบรก และ ระบบเบรก
หลายท่านเข้าใจว่าหากน้ำมันเบรกหาย เราต้องเติมน้ำมันเบรกเพื่อให้อยู่ในระดับปริมาณที่พอดี แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าระบบเบรกความเป็นจริงแล้วคือระบบปิด ความหมายก็คือน้ำมันเบรกจะอยู่แต่ภายในระบบเบรก จะไม่มีการละเหยเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผ้าเบรกไม่สึก หรือถ้าไม่มีจุดไหนรั่ว น้ำมันเบรกจะไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ดังนั้นหากรถเราน้ำมันเบรกหาย อย่าเพิ่งเติมครับ เราต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าน้ำมันเบรกหายไปได้อย่างไร เพราะหากเติมไปแล้วยังหายอีกก็ถือว่า ระบบเบรกของรถนั้นยังไม่ปกติ อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ อย่างเช่น น้ำมันเบรกตรงที่ซึมออกเกิดรั้วออกเยอะกว่าเดิม จนน้ำมันเบรกหายหมดในระบบ ก็จะทำให้รถเบรกไม่อยู่ก่อให้เกิดอันตรายได้ ส่วนผ้าเบรกนั้นเช็คด้วยว่ามีการสึกหรอไปมากหรือยัง เพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ หากไม่พอควรจะเปลี่ยนเสียก่อน
จุดที่ 5 เช็คระบบไฟส่องสว่าง
ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน จะต้องใช้งานได้ครบทุกจุด แสงสว่างจะต้องคมชัด ไม่มัว ยิ่งเดินทางในช่วงกลางคืนระบบไฟส่องสว่างถือว่าจำเป็นมากในการเดินทาง ไฟเบรกก็ถือว่าสำคัญอีกจุดหนึ่ง ต้องติดให้ครบ สว่างเห็นชัดเจน การขับรถโดยที่ไฟเบรกไม่ติด อาจจะทำให้รถยนต์ที่วิ่งตามมาด้านหลังชนท้ายเราได้
จุดที่ 6 น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากของระบบกลไกต่างๆในเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องที่ดี จะต้องผ่านการใช้งานไม่เกินระยะทางที่คู่มือกำหนดซึ่งแบ่งได้ตามประเภทชนิดของน้ำมันเครื่องต่างๆ แต่ส่วนมากแล้วหากเปลี่ยนตามศูนย์บริการต่างๆแล้ว จะมีใบคล้องระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมาด้วย ระดับน้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเราสามารถตรวจเช็คได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง และขณะเดินทางควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อได้ใช้ในยามฉุกเฉิน
จุดที่ 7 เช็คหม้อน้ำ ท่อยาง และ ระบบหล่อเย็น
ระบบระบายความร้อน หรือระบบหล่อเย็น ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากของเครื่องยนต์ ยิ่งเป็น รถยนต์มือสอง ด้วยต้องยิ่งตรวจสอบเพราะด้วยความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานนั้น บวกกับอุณหภูมิภายนอกที่ร้อน หากระบบระบายความร้อน หรือระบบหล่อเย็นไม่ดีหรือมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์น็อคอาจถึงขั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากทั้งกับเครื่องยนต์เอง และค่าซ่อม ดังนั้นเราควรเช็คระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักและหม้อน้ำ เช็คการทำงานของพัดลมหม้อน้ำและมอเตอร์ ตรวจสอบรอยรั่วของหม้อน้ำ ท่อยาง และข้อต่อต่างๆ หากตรวจพบว่ามีน้ำไหลซึม ควรรีบแก้ไขโดยด่วน
จุดที่ 8 ชุดเครื่องมือประจำรถ
อาทิเช่น ล้อ-ยางอะไหล่ ตรวจสอบได้ว่าในล้ออะไหล่นั้นมีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ มีลมยางหรือเปล่า ,แม่แรง อุปกรณ์ต่างๆครบหรือไม่, ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ, ที่เติมลมฉุกเฉิน, สายพ่วงแบต ถือว่าเป็นของสำคัญเลยก็ว่าได้ หากแบตหมดกลางทางแล้วไม่มีที่พ่วงแบตเตอรี่ต่อกับรถยนต์คันอื่นคงจะแย่น่าดู ,สายลากรถ ,ไฟฉาย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ควรมีติดรถเอาไว้ จะได้อุ่นใจยามเดินทาง มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีนะครับ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นนะครับ รับรองว่าถ้าคุณผู้อ่านเช็คทั้งหมดนี้แล้วละก็เดินทางหายห่วง ไม่มีอะไรให้ติดขัด และกังวงปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์อย่างแน่นอน เพียงแค่คุณดูแลรถยนต์สักนิด รถยนต์คู่ใจก็จะดูแลคุณเช่นกัน รถก็เหมือนคนนั่นแหละครับ ต้องการการดูแลใส่ใจ หากพบอะไรผิดปกติ อย่ารีรอที่จะแก้ไข เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางทุกๆคน และที่สำคัญ
“ขับรถไม่ประมาทนะครับ เพราะคนที่บ้านกำลังรอคุณอยู่” อย่าลืม “เมาไม่ขับ” ด้วยละครับ
แต่ถ้าคุณผู้อ่านอยากมีรถยนต์ ราคาประหยัดงบไว้ใช้งานสักคันละก็เราขอแนะนำ Apple Luxury Car โชว์รูมรถหรูมือสอง ที่รวบรวมทั้ง รถหรูมือสอง, รถยุโรปมือสอง, รถบ้านมือสอง ทุกยี่ห้อทุกรุ่น ราคาสมเหตุสมผล คุณภาพดี พร้อมรับประกัน และโปรโมชั่นดีๆอีกมากมาย คลิกเลย >>> Apple Luxury Car โชว์รูมรถหรูมือสอง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in