ตลอดระยะเวลาฝึกงานตลอด  2 เดือนนั้น เราจะบอกเลยว่าเราได้อะไรหลายๆอย่าง เราเชื่อว่าเพื่อนๆที่ฝึกงานก็เช่นกันแหละ แล้วก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นฝึกงานกฎหมายเท่านั้นนะ แต่รวมไปถึงฝึกงานหลายๆอย่างเหมือนกัน

      เอาล่ะ ! เกริ่นนำ  ทักทายและขอโทษขอโพยกันไปพอสมควรล่ะเนาะ ด่าชั้นสะใจแล้วสิ ! 55555 โอเค ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยเหอะ 

.

.

.

.

    ทุกๆเช้าเราทุกคนก็มีหน้าที่ที่จะต้องรีบทำงานเหมือนกัน ก็เหมือนนาฬิกาปลุกของเราน่ะแหละ ทุกๆเช้ามันจะดังขึ้นตอนตี 5 พอดี ... ภาพในหัวคงแบบตื่นเวลานี้ กระเด้งตัวขึ้นมาจากการนอนหลับไหลภายใต้ผ้าห่มนุ่มๆ 5555555 ตื่น !!! ความเป็นจริงคือทำการกด snooze จ้าาาาา อิบ้าเอ้ยยย กดแม่งไปเรื่อยอ่ะยันตีห้าครึ่งแล้วค่อยลงไปอาบนน้ำ พอยังไม่ทันได้กินข้าวเช้าเลยก็บ่น 'สายแล้วๆๆๆๆ ถถถถถถถ อิผี ดูทำตัว 5555555555 

   ทุกๆเช้าการไปทำงานของเราคือต้องนั่งรถตู้ไปลงจตุจักร หรือไม่ก็เซนลาดเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน ตลอดเวลาการเดินทางเรามักจะฟังเพลงนี้เสมอๆ  'Try Everthing - Shakira

เพลงนี้เปนเพลงที่เรากดฟังมาตลอดทาง คือเราชอบเนื้อหาของเพลงนี้มากๆนะ คือมันแบบเหมาะจะเป็นเพลงที่ฟังในตอนที่เราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างให้มันออกมาดี ถึงแม้ในความเป็นจริงเราจะทำออกมาผิดพลาดบ้าง ไม่ดีเท่าที่เราหวังไว้อย่างใจบ้างแหละ แต่แบบ เออแล้วไง ก็จะทำอ่ะ แล้วเราก็จะลองทำดูใหม่ว่าแบบเรายังทำอะไรได้อีกนะ 5555555 อะไรงี้ ใครยังไม่เคยฟังก็ลองฟังดูนะ เผื่อแบบจะได้ฟังเพลงปลุกใจอะไรทำนองนี้ไปด้วย 5555555  

     งานของเราในทุกๆเช้าอ่ะก็คงเป็นการ "เปิดออฟฟิส" ถถถถถถถถ เห้ยมันจริงนะเว้ย ด้วยความเป็นเด็กฝึกงงานแล้วแบบ มันก็ต้องไปเช้าป่ะวะ แล้วแบบนี้การไปเช้าของเรา คือด้วยความที่บ้านไกล เอ้อออ กุก็ออกจากบ้านแม่งหกโมงงี้ ตีห้าสี่สิบห้างี้ บางทีถ้าแบบรถไม่ติดนี่ถึงก่อนใครเพื่อนเลยนะ เปิดออฟฟิสแทนป้าแม่บ้านอ่ะเอ้ออออ 555555  

เอาล่ะ ก่อนที่จะเขียนอะไรไร้สาระไปมากกว่านี้ เรามาลิสกันเป็นหัวข้อๆดีกว่าว่าสรุปแล้วฝึกงานได้อะไรบ้าง ???

-ได้ฝึกใช้ชีวิตอย่างนักกฎหมาย

        ก่อนที่เราจะเรียนจบแล้วเป็นนักฎหมายแบบเต้มตัวนั้น คือเราว่าเราได้มาฝึกงานได้รู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายอย่างมากๆเลย คือในลักษณะงานส่วนใหญาอย่างที่เคยได้บอกไปก่อนหน้านั้นแล้วว่าทำอะไรบ้าง ซึ่งในแต่ละงานเนี่ยเราจะได้รับความรู้ใหม่มาอยู่เสมอๆ ถึงแม้งานบางงานอ่ะเราไม่ได้เรียนมากก่อน แต่ถามว่านั่นเป็นข้ออ้างที่จะแบบ 'เห้ยจะทำได้ไงอ่ะ เห้ยจะทำยังไงอ่ะ คำตอบคือ 'เอ้า !! ไปอ่านสิโว้ยยยย ไม่รู้ก็ไปหาข้อมูลมาอ่าน ทำความเข้าใจตรงนั้น สรุปความเห็นทันทีนั่นแหละ แรกๆมันก็งงๆนะ แต่พอหลังๆเราจะจับทางได้ว่า อ้อ ! มีเคสแบบนี้ออกมาอีกแล้ว อ้อ ! เคสแบบนี้จะเป็นแบบนี้ น่าจะแนวๆนี้นะ อะไรงี้ 555555 แล้วเวลาทำงานในออฟฟิส เราจะสังเกตุท่าทาง บุลคลิกนิสัยของพี่ๆทนายในออฟฟิสว่าแบบ เออโดยนิสัยโดนรวมแล้วทนายเฟิร์มจะเป็นแบบไหนอะไรยังไง ซึ่งตรงนี้เราว่าก็อาาจะแตกต่างกันไปในตามแต่ละเฟิมนะ

-ได้ทดลองเป็นมนุษย์เงินเดือน

            อันนี้รู้เลยว่าคำที่พ่อแม่ ผู้ใหญ่พูดๆมากันตลอดว่าแบบ 'รู้มั้ย ! เงินแต่ละบาทมันได้ยากขนาดไหน พอตอนฝึกงานก็เลยรู้เลยว่า เออว่ะมันก็ไม่ได้ง่ายจริงๆด้วย กลังขดหลังแข็งนั่งรถตู้ตลอดๆ หลับๆตื่นๆบน MRT ไปบ้างไรบ้าง กว่าจะทำงานแต่ล่ะอย่างให้มันเสร็จ กว่าจะเลิกงานแต่ละอย่างคือแม่งแบบ โอ๊ยยยยยยยยยยย ไม่ง่ายเลยว้อยยยย 5555555

-ได้ออกไปสถานที่ข้างนอกต่างๆ

           อันนี้คือชอบมากกกก เห้ยย คือแบบเวลาพี่ทนายจะไปไหน ไปประุม ไปศาล ไปยื่นนั้นนี่นู้นไรงี้ บางทีเขาจะพาเราไปด้วย หรือบางงานเขาจะให้เราไปเอง คือเราอบออกไปนั่นนี่นู่นบ้างอ่ะที่แบบ ออกไปศาลบ้าง ก้ได้แก่ศาลแพ่ง ตรงรัชดา ศาลอุทธรณ์ก็อยู่ใกล้ๆกัน ศาลแรงงาน 5555 ที่เคยบอกในบล็อกก่อนหน้าไปแล้วล่ะนะ ศูนย์ราชการ 555555 คือเอาจริงๆป่ะ นั่งในออฟฟิสมันก็เบื่ออะ แล้วจะให้นั่งทำงานอย่างเดียวก็ไม่ใ่ช่ป่ะวะ 555555555 ล่ะก็แบบการที่เราไปศาลไรงี้ ก็ไปคัดคำพิพากษา ไปฟังสืบพยานไรงี้ สนุกๆๆๆๆๆๆ ต้องลองๆๆ 555555

-ได้เพื่อนใหม่

            ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่องของสถาบัน ว่าแบบของเราเป็นงี้ ของแกเป็น วิชาไหนเรียนเป็นไง หลักสูตรเหมือนกันมั้ย แล้วแบบได้แลกเปลี่ยนความรู้ความเห็นไรต่างๆ ไม่ใช่แค่แบบการที่เราทำงานกฎหมายนะ แต่เรื่องอื่นๆด้วยเช่นกัน นี่เรายังได้วามรู้เรื่องการเล่นหุ้นมาจากเพื่อนเลยเนี่ยยย 555555 ส่วนเพื่อนๆคงได้ความรู้ในภาษารั่งเศสกับเรื่องอะไรที่มันเกี่ยวกับต่างประเทศเนี่ยแหละ 5555555 อ้อ อีกอย่างคือเราได้เรียนรู้ที่จะทำงานกับคนหมู่มากด้วยนะ เพราะความจริงแล้วเราไม่สามารถเลือกเพื่อนนร่วมงานได้หรอก จริงมั้ย ?

-ได้กินฟรี

           ถถถถถถถถถถถ อันนี้จริงๆแม่งก็ไม่ค่อยสำคัญไรหรอก แต่แบบเออเลี้ยงก้ดี ได้ไปเปิดหู เปดตากินร้านอาหารใหม่ๆที่ไม่เคยกินด้วยแหละ 55555555

-ได้โตเป็นผู้ใหญ่

          อันนี้แหละ คือของจริงนะจะบอกให้ ทั้งหมดทั้งมวลคือมันหล่อหลอมให้เราได้โตขึ้น ได้เห็นชีวิตจริงมากขึ้นว่ามันเป็นยังไง โดยไอการที่จะเป็นยังไงนั้นเนี่ย ผู้ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น มีภาระมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เริ่มได้รู้ว่าอื้มมมม ีวิตจริงไม่ได้สนุกอย่างที่คิดไว้เลยนะ

แล้วแบบเรื่องที่ไม่ค่อยโอเคกับการฝึกงานบางครั้งมันก็มี เช่นการกลับบ้านดึก คือมันมีบางวีคที่แบบ งานมันดึก โปรเจคก็ต้องทำ งานเร่งไรงี้ ก็ต้องมีบ้างแหละคือเราเคยถึงบ้านแบบดึกสุด คือ ตี 1 ครึ่งอ่ะ !!!! งานพีคไปอี้กกกก จนที่บ้านบ่นเลยไง งานด่วนแบบ ' พี่จะเอาอีก 10 นาทีนี้ครับ โอโห้ !!!!!! พีคไปอี้กกกกกกกก และจะบอกให้นะการโดนพาทเนอร์มาเร่งงานนี้ไม่ตลกเลยจ้าาา 555555555

และแล้วก็มาถึงวันสุดท้าย เราก็ถ่ายรูปร่ำลากันไป 5555 เอาจริงๆพอนึกล่ะมันก็ยังคงใจหาย และยังคงคิดถึงอยู่นะจนถึงทุกวันนี้ บางทีนั่งรถผ่านไปในเมืองล่ะก็ยังเห็นตึกออฟฟิสเราเลย เราก็ยังคิดถึงด้วยแหละ 5555555 อ้อแล้วก็ตอนนั่งกินเลี้ยงกันอยู่นะ มีพิซซ่าจานใหญ่ คือเราไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารอิตาเลียนร้านนึง แล้วแบบพิซซ่าอร่อยมากกกกกกก จนเพื่อนเราบอกว่า อร่อยจนแบบไปกินพิซซ่าปกติไม่ได้เเล้วอ่ะ แล้วพี่คนนึงก็พูดขึ้นมาว่า ' ไม่ได้ๆ คุณจะคิดแบบนั้นไม่ได้ เมื่อคุณเคยอยู่จุดที่สูงสุดและคุณก็ต้องลงมาจุดที่ต่ำสุดได้เหมือนกัน อย่าไปยึดติดกับอะไรมาก ปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ให้ได้' คืออบอันนี้มากกกกก เป็นคำสอนที่แบบเออนะ เห็นภาพได้จริงๆ

สุดท้ายแล้ว ถ้ามีน้องสักคนมาถามเราว่า จะฝึกงานดีไหม? ฝึกที่ไหนดี? คงต้องบอกเลยว่า ถ้ามันไม่ติดอะไร ไม่ได้ลำบาก คือคุ้มกับสิ่งที่เราต้องเสียไป ทั้งเวลา การเดินทาง เงินค่าเดินทางค่ากิน ถ้าไม่ได้ลำบากอะไร ก็ฝึกเถอะ ถ้าถามว่าจะได้อะไรบ้างก็ย้อนไปดูด้านบนนะจ้ะ 5555555 แล้วก็ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาตลอดนะครับ ขอบคุณที่มีมาให้กำลังใจบ่อยๆ คอยมาถามทวงบล็อกบ่อยๆ และให้การตอบรับดีมากๆ สุดท้ายขอบคุณและอย่างลืม ให้ทุกวันเป็นวันของกฎหมายนะครับ 55555555