สวัสดีผู้อ่านที่รัก....โถถถถบล็อกนี้มาแบบเป็นทางการ ก่อนอื่นขอกราบงามๆสำหรับการตอบรับที่ดีในบล็อกแรกนะฮะและหวังว่าจะมีการสนับสนุนที่ดีในบล็อกต่อๆไป 5555555555555
.
.
.
.
เอาล่ะ พร้อมนะไป!!
เช้าวันจัทร์ที่ 4 ได้เริ่มขึ้น คือตื่นมาตอนที่ 5 แบบเป๊ะๆ ในใจคิดเอาไว้เสมอว่า 'วันนี้จะต้องเป็นวันที่ดีสำหรับการึกงานคือคราวก่อนึกงานวันแรกไปแล้วก็พบว่า เราไปสายซึ่งจริงๆมันเป็น firstimpression ที่ไม่ดีเลยนะเพราะงั้นถ้าน้องๆปี 2 อ่านอยู่อย่าทำตามนะจ๊ะจิบอกไห้!!!
แรกเริ่มคือขึ้นรถตู้มาถึงวิน มีนบุรี-จตุจักรซึ่งก็โอเคแหละมาถึงตอน 6 โมงพอดี คือเ้ามากๆเ้าเกินไปที่รถจะติด (ตอนแรกคิดงี้)แต่เดี๋ยวเล่าสักพักก็รู้....ความประทับใจในอรุณรุ่งเช้าใหม่วันนี้คือ 'คุณลุงคนขับรถแกเป็นตัวอย่างที่ดีของการบริการประชานหรือผู้โดยสารจริงๆนะ (ถึงแม้จะขับรถช้ามากๆก็ตาม5555) คือคุณลุงคนนี้เวลาที่มีผู้โดยสารขึ้นมาบนรถลุงก็จะพูดว่า"ผู้โดยสารเชิญครับ เชิญนั่งเลยครับ"และลุงก็จะถามว่าในแต่ละป้ายนั้นมีใครลงบ้างครับ !พอลงเสร็จคนนั่งก็มาจ่ายตังค์ล่ะลุงจะบอกว่า ขอบคุณมากนะครับขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ'....เห้ยยยคือดีอ่ะ ! คือลุงแบบ ดีจริงๆนะเหวยยยย ยยยยยยเอาจริงๆคือนี่แหละคือตัวอย่างที่แท้จริงสำหรับการบริการ คือคุณต้องมีจิตใจและคำพูดพร้อมกับการกระทำออกเพื่อที่จะสื่อให้ผู้ใช้ยบริการรู้สึกดีจริงๆนะ
หลังจากฟินกับมารยาทอันดีงามของลุงได้ไม่นาน ก็นั่งฟังเพลงไป เรื่อยๆ- - - อ่านนิ้วกลมไปเพลินๆๆๆๆๆ เรื่อย - - - - -สักพัก..........ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!! เชี่ยยย รถแม่งชนคือมันเกิดขึ้นเร็วมากเว้ย คือแบบในขณะที่กำลังฟินกับนิ้วกลมและลุงอยู่(หมายถึงมารายาทงามๆน่ะ) แล้วคือแบบเห้ยยย เชี่ยยยย!!!!! รถแม่งติดชิบหายยยยย 8 โมงแล้วนี่กูยังไม่ถึง MRT อีกนะ อีเชี่ยยยยยยยยยงานงอกล่ะจ้าาาาา......สุดท้ายวันนี้ก็ไปสายอีกตามเคยยยย หอยเอ๊ยยยย!!!!!!
พอมาถึงเฟิร์มแล้วเรากับเพื่อนอีกคนต้องไปที่ศาลแรงงานกลางตรงพระราม 4 เพราะวันนี้เป็นการทำงานในฝ่าย litigation ในครั้งแรก ซึ่งงานแรกของพวกเราก็คือการไปคัดคำพิพากษาคดีแรงงานในหัวข้อ "การเลิกจ้างไม่เป็นธรรม"คือถ้าถามว่า'เอ้าก็ไปหาเอาตามเน็ตไม่ได้หรอ คำตอบคือได้ แต่คุณจะได้อะไรแบบเดิมๆนะแหละไม่ได้ก้าวไปไหนเลย เพราะฉะนั้นหากคุณอยากได้ข้อมูลที่อัพเดต เ่นต้นปี 2559 จริงๆในเว้บมันยังไม่ขึ้นให้หรอกคุณต้องไปที่ศาลแล้วขอคัดจริงๆ
>>>>ว่าด้วยการคัดคำพิพากษาคดีแรงงานคือที่ศาลแรงงานเนี่ยมันจะมีตู้ส้มๆ เป็นตู้ที่คอยคัดคำพิพากษาฎีกาก็คือถ้าเราอย่างค้นหาฎีกาไหน เพียงแค่ป้อนชื่อคู่ความกับเลขคดีไปนั้นเราก็สามารถค้นหาได้แล้ว แต่ๆๆๆ อีเครื่องนี้แหละตัวดี บ้าเอ้ย!! ใช้ก็ยากเเข็งอย่างกะหิน เอาจริงๆเว้ย คีบับ...มันสัมผัสที่หน้าจอได้ 555555555555555งานนี้โง่ไปอี้กกกกก็นั่งหมุนอีลูกกลิ้งเม้าส์มาตั้งนาน 5555 ต่อๆๆ พอเรากำลังจะคัดคำพิพากษาถ้าในกรณีที่อยากให้ศาลรับรองเซ็นให้แบบนั้น เราจะต้องเป็นคู่ความเท่านั้นกล่าวคือหากเป็นทนายหรือเสมียนทนาย (เด็กฝึกงานแบบเรามาคัด) ก็ต้องมี 'ใบมอบฉันทะมาด้วยเมื่อได้ใบดังกล่าวมาแล้วก็แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ศาลเขาก็จะพาไปห้องคัดซึ่งมันจะมีแฟ้มเยอะๆให้ แต่เดี๋ยวก่อน ขึ้นชื่อว่าชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ทนายไม่ได้เซ็นใบมอบอำนาจมาให้พวกกูเลยจ้าาาาาาาาา ดอกสสสส์ ซวยล่ะตู นี่มากันเสียเที่ยวป่ะเนี่ยยย เพื่อนเราจึงโทรไปถามพี่ทนายสรุปได้ทางออกคือขอเข้าไปในห้องสมุดเพื่อที่จะคัดคำพิพากษาดังกล่าวนั่นเองซึ่งถ้าคุณโชคดีอาจเจอฎีกาที่ตามหาอยู่ก็ได้
พอก่อนที่พี่พนักงานจะพาไปคัดคำพิพากษานั้นพี่เขาถามพวกเราว่า "ธรรมศาสตร์ปีไหนกัน ?"
กูก็ตอบไปเลยจ้า "ปี56 ครับ"55555555 อิเหี้ยยยย มันใช่มั้ย !! เขาถามมึงว่าอยู่ปีไหนไม่ใ่มึงอ่ะเข้าปีไหน โมเม้นท์นั้นรู้สึกสงสารตัวเอง 55555 เพื่อนก็ตอบแทนว่า "ปี 3 ค่ะ" พี่เขาก็อ่อออออ แล้วถามต่อว่า
***** "ที่เข้าธรรมศาสร์เพราะอะไร" พี่พนักงานถาม
"มันใกล้บ้านครับ"
"หนูอยากเข้าค่ะ"
"ที่อยากเข้าใกล้บ้าน หรือว่าค่านิยม" .................... แดกจุดสิมึง รออะไรล่ะคือก็เงิบไปเลย จู่พี่เขาถามอะไรแบบนี้ แต่ตอนก่อนจะถามเราสัมผัสได้ถึงสายตาอันเย็นชาและแววตาแบบความสงสัยคือเอาจริงๆนะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทุกคนมีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ซึ่งพวกเราก็คิดกันว่านิติฯธรรมศาสตร์มันอาจจะไม่ได้ดีสำหรับทุกคนหรอก แต่เราว่ามันเหมาะกับเรานะที่สำคัญเราไม่ควรเอาความคิดของเราไปแซะคนอื่น....เพราะมันไม่ได้ทำให้เราดูดีเลยจริงๆ
พอไปหากองคำพิพากษาฎีกาที่อยู่ในห้องสมุดเอาฝุ่นเขรอะมากแล้วนั้นพวกเราก็ลงมาถ่ายเอกสารและนำต้นฉบับไปคืน...บึ่ง taxi กลับเฟิร์มพร้อมกับวิจารณ์กับคำถามนั้นมาตลอดทาง
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลากลับบ้านการฝึกงานนั้นเป็นการฝึกใช้ชีวิตจริงๆที่ดีเลยทีเดียว คือทำงานประหนึ่งมนุษย์เงินเดือนได้ตังค์ล่ะก็ต้องแบ่งมาให้ใช้อย่างประหยัดๆ วันๆนึงนั่งรถไปหลายต่อไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง และอาจจะไม่มีเวลาดูแลคนอื่น นี่ขณะนั่งรถมาก็หลับไปฟังเพลงไป อิรถตู้มึงนี่ก็ซิ่งิบหาย !!!! กูนี่นึกถึงคำคมของ paul walkerเลยจ้า "ถ้าผมตายเพราะความเร็ว...ให้รู้ว่าผมกำลังยิ้มอยู่" มึงยิ้ม แต่กูไม่ยิ้มไง ไอ่ซั้ซซซซ ขับรถด้วยความเร็วแซง นี่ถ้าพ่อแม่กูมาเห็นว่าลูกนั่งรถแบบนี้กลับบ้านตอน 3 ทุ่ม เขาจะโอเคป่ะวะ 5555555 บ้าเอ๊ย!!!
เฮ้ออออ เอาน่ะนี่เพิ่งแค่วันที่ 2 นะยังมีอะไรให้เราลุ้นอยู่อีกมากมายเลยแหละ เราต้องคิดในใจดิวะ เราทำได้ เราทำได้ สู้!!
"May the law be in your favour"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in