พอไปถึงก็ต้องต่อคิวรอเข้าไปข้างใน และคิวยาวเป็นกิโลเลยครับ แต่รอไม่นานมากหรอก ทางจิบลิก็ทยอยปล่อยคนเข้าไปได้เร็วดี แน่นอนว่าข้างในก็ห้ามถ่ายรูปเช่นเคย หลักๆ เป็นการนำต้นฉบับและขั้นตอนการทำงานมาให้ชม มีห้องแรงบันดาลใจ มีโรงฉายหนังสั้น มีห้องรถเมล์แมว(ห้องนี้ให้เด็กเล็กเล่นเท่านั้น แง) มีสวนบนดาดฟ้า และแน่นอนว่ามีร้านของที่ระลึกดักตรงทางออกอีกแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าจากเรื่องดังๆ เช่นโตโตโระหรือแม่มดน้อยกิกิ ตั้งใจจะไม่ซื้ออะไรก็โดนมานิดหน่อยจนได้ จากทางออกลงมาจะเจอคาเฟ่ ข้างๆมีซอฟต์ครีมกับฮอตด็อกขาย กับเบียร์จิบลิ เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยไม่ซื้อ(แต่มาสำนึกได้ทีหลังว่ากูน่าจะซื้อเป็นที่ระลึก orz)

ขากลับสถานีคราวนี้ได้นั่งรถลายจิบลิสมใจอยาก

ด้วยความไม่มีเน็ตใช้และไม่มีที่ไปเลยไปชินจูกุ กะเดินเล่นบุ๊กออฟฆ่าเวลาและหาไวไฟติดต่อเพื่อน หลังเสียตังค์ให้ซีดีมือสองไปก็พบว่าที่บุ๊กออฟสาขาชินจูกุมีไวไฟให้ใช้ โอ๊ยแทบร้องไห้ ติดต่อเพื่อนได้ซักทีนัดกันที่สุสานอาโอยามะตรงสถานี Nogizaka46 (ไม่มี!!) เป็นสุสานที่ใหญ่มากและมีซากุระเยอะมาก สวยมาก เดินชมกันเพลินเลย ใครจะนึกว่าในสุสานจะมีซากุระเยอะปานนี้

เสร็จจากสุสานนี้ก็ไปอีกสุสานนึงชื่อสุสานยานากะ จำวิธีเดินทางไม่ได้แต่ออกจากสถานีปลายทางก็เดินลัดเลาะย่านที่อยู่อาศัยไปพักนึง เปิดกูเกิลดูแผนที่กันไป ที่ยานากะเล็กกว่าแต่ซากุระก็สวยเช่นกัน

เสร็จกิจก็เดินไปสถานีอุเอโนะ แวะแถวอาเมโยโกะเพื่อกดกาชาปองเอาตุ๊กตาฟูจิโกะ(ที่ชอบเอามาติดแก้วถ่ายรูปกันน่ะ) หาข้าวกินแล้วกลับไปนอน