-ย้อนความนิดนึง สำหรับทุกคนในกลุ่มทริปนี้เป็นทริปเน้นดูซากุระ & ชอปปิ้ง แต่ไม่ใช่เรา โอเค ซากุระก็อยากดู แต่เราก็มีเป้าหมายของเราอยู่แล้ว ส่งผลให้มีช่วงที่ออกลุยคนเดียวด้วย ไว้จะกล่าวถึงต่อๆไป-

กลับเข้าเรื่องที่สถานีคาวาโกเอะ พอตื๊ดตั๋วออกมาก็พบกับจุดบริการนักท่องเที่ยว เป็นผู้สูงอายุ 2-3 คนคอยให้ข้อมูลอย่างแข็งขัน โบรชัวร์แนะนำจุดน่าสนใจก็มีทั้งภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี และไทย (สังเกตว่าหลายสถานียังมีผู้สูงอายุทำงานอยู่ น่าประทับใจ พวกเขาก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ไม่ต้องอยู่เฉยๆ)

พวกเราพากันเดินลัดเลาะงมทางไปที่หมาย ทั้งเปิดกูเกิลและถามทาง(แนนมีประโยชน์มาก ณ จุดนี้) ในที่สุดก็ไปถึงวัดคิตะอิน เป็นวัดที่บรรยากาศดี ต้นซากุระเต็มวัด มีแผงออกร้าน มีการเตรียมเวทีจัดงานชมดอกไม้ บรรยากาศดีมากๆ 

หลังถ่ายรูปและชมซากุระจนหนำใจก็ออกมาหาอะไรกินกันเพราะหิวแล้ว และร้านแรกที่แวะคือซอฟต์ครีมซากุระ(ซัดของหวานก่อนคาวกันเลย) รสชาติเหมือนกินไอติมถั่วดำยังไงก็ไม่รู้แต่ก็อร่อยดี

-ก่อนแวะร้านซอฟต์ครีม พวกเรามายืนอยู่หน้าวัด ชมเมืองถ่ายรูปไปเรื่อย มองไกลๆ เห็นป้าคนนึงกำลังเดินจูงหมาสีดำมาทางวัด มองไปก็นึกว่าตัวป้อมๆจังนะ แต่ก็ตะหงิดใจแปลกๆ ปรากฏว่าป้าจูงแพะมาครับ ดูเชื่องๆ น่ารักเชียว แถมขี้กันให้เห็น(เพิ่งรู้ว่าแพะขี้เป็นเม็ดกลมๆ เล็กๆ เพียบเลย) ป้าก็เอาที่โกยมาตักเก็บไปทิ้ง และโกยลงท่อนิดหน่อย-

เสร็จจากซอฟต์ครีมก็หาร้านข้าวกัน อีกกลุ่มนึงจะกินข้าวใกล้ๆ วัด ส่วนกลุ่มเราเนื่องจากโบกับแนนอยากกินข้าวหน้าปลาไหลมาก เราก็ดูๆ จำๆ ร้านแนะนำจากที่สถานีมา แต่พอถึงเวลาจริงก็หาไม่เจอ เลยหาร้านที่ใกล้ที่สุดนี่แหละ กูเกิลคำว่าปลาไหลเอาเลย โชคดีมากที่ใกล้วัดมีอยู่ร้านนึง หน้าร้านได้ออร่าของความเก่าแก่และคลาสสิก ตอนดูจากข้างนอกก็ไม่แน่ใจว่าเปิดมั้ย แต่เราได้ยินเสียงคนก็คิดว่าคงเปิดแหละ เลยให้แนนเปิดประตูเข้าไปถาม พนักงานบอกว่าปิดซะงั้น แล้วทำไมไม่รู้จักตั้งป้ายว่าปิดไว้ล่ะเฮ่ย!! ด้วยความเซ็งจึงเดินหาร้านอื่น สุดท้ายลงตัวที่ร้าน Ichinoya เพราะใกล้สุดแล้ว จัดแจงสั่งข้าวหน้าปลาไหลอย่างหรูมากินกัน ปลาไหลที่นี่อร่อยแต่ก้างเล็กๆ เยอะมาก กินลำบาก แนนเจอก้างติดคอเข้าไป ส่วนเราโดนทิ่มเหงือก กินอิ่มก็เดินกลับมาเจออีกกลุ่มตามนัดเพื่อไปโอไดบะกัน (ว่าจะแวะตลาดเปิดท้ายตรงข้ามร้านปลาไหลร้านแรก แต่ไม่ทัน เขาเก็บของกันซะแล้ว)

เนื่องจากไม่รีบ เลยพากันเดินเข้าห้าง Aqua City ก็กะเดินลัดไปน่ะนะ แต่พอเจอร้าน Onitsuka Tiger ก็พากันเข้าไปดูๆ จับๆ เลือกๆ จ่ายๆ ได้มาคนละคู่สองคู่ ส่วนเราเฉยๆ กับรองเท้ายี่ห้อนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงนิยมกันจัง

ออกจากห้างมาพบอากาศหนาวจับใจ เสื้อหนาวกับลองจอห์นยังเอาไม่ค่อยอยู่ (เจอลุงคนนึงวิ่งออกกำลังกลางอากาศหนาวแบบนี้นี่ยอมใจแกจริงๆ) หลังถ่ายรูปวิวสวยงามของเรนโบว์บริดจ์กับเทพีเสรีภาพจำลองเสร็จก็พากันเดินไปที่ Diver City เพื่อสักการะกันดั้มสเกล 1:1 และมันช่างยิ่งใหญ่นัก ขนาดไม่เคยดูกันดั้มยังอยากมากราบไหว้และชมให้เห็นกับตาตัวเอง

ขากลับเรามาหาอะไรกินแถวอาซากุสะเช่นเคย คราวนี้เลือกร้าน Watami เป็นร้านแนวอิซากายะที่มีหลายสาขา ปกติร้านแนวนี้คือจะกินเหล้าหรือเบียร์แล้วสั่งกับแกล้มกัน แต่พวกเรามากินข้าวเฉยๆ ไม่แตะแอลกอฮอล์ อาหารรสชาติดี เหมาะกับการมาเฮฮาสังสรรค์กันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ

-จบวันที่ 2-