"คนส่วนใหญ่คิดว่า หากเป็นคนเก่งก็จะประสบความสำเร็จแต่แค่ความเก่งอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องมีวิธีคิดที่ดีด้วย..."

การมีชีวิตที่สุขสบาย การมีผลการเรียนที่ดี และการมีหน้าที่การงานที่มั่นคง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงผลของความสำเร็จแต่วิธีการสำคัญที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จนั้นอยู่ที่ความคิด คนที่ประสบความสำเร็จจะมีพื้นฐานทางความคิดเชิงบวกดังนั้นถ้าใครอยากเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นต้องฝึกการเป็น "นักคิด" คิดเพื่อที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

ความน่าสนใจของฮาร์วาร์ด

ในร้านหนังสือมีหนังสือแนวจิตวิทยาพัฒนาตนเองอยู่หลายเล่มแต่ละเล่มก็มักเขียนโดยคนที่ประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ฮาร์วาร์ด  มหาวิทยาลัยที่ดีแห่งหนึ่งของโลก สอนวิธีคิด เล่มที่ 1 "วิชาชีวิตที่ไม่มีในตำรา" แค่พิมพ์ชื่อหนังสือเล่มนี้แบบเต็มๆ ก็ได้หนึ่งบรรทัดพอดี ชื่อของหนังสือที่มีความยาวกว่าเล่มอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกสะดุดตาขึ้นมาและพออ่านชื่อหนังสือให้ดีก็เห็นว่าเป็นหนังสือพัฒนาความคิดในการชีวิต มีเล่ม 1 ก็แสดงว่าต้องมีเล่ม 2 ใช่แล้วล่ะ ฮาร์วาร์ดเป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นไว้ด้วยกันถึงสองเล่ม มีความแตกต่างกันอยู่ที่สีของปกและชื่อวิชาคือ ฮาร์วาร์ดเล่มที่ 1"วิชาชีวิตที่ไม่มีในตำรา" มีปกสีขาว ส่วน ฮาร์วาร์ดเล่มที่ 2 "วิชาความสำเร็จของคนคิดเป็น" มีปกสีดำ ทั้งสองเล่มไม่ได้เป็นภาคต่อของกันและกันแต่ถ้าใครคิดอยากจะศึกษาต่อก็มาอ่านที่เล่ม 2 ได้

ทำไมถึงใช้คำว่าศึกษาต่อล่ะ?

เพราะว่าฮาร์วาร์ดเป็นหนังสือเรียนขนาดพกพา หนังสือแนวจิตวิทยาพัฒนาตนเองเล่มอื่นๆ จะนำเสนอเนื้อหาเป็นรายการหรือกฎที่คุณต้องทำ เรียงลำดับความสำคัญด้วยตัวเลข แต่ฮาร์วาร์ดนำเสนอเนื้อหาจากตัวอย่างประสบการณ์ชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จในรูปแบบของบทเรียน เรียงความสำคัญจากเรื่องที่คุณต้องคิดก่อนและหลัง นอกจากนี้ยังเน้นจุดสำคัญเรื่องของความคิดและคอยให้กำลังใจคนอ่านอยู่เสมอ ฮาร์วาร์ดเข้าใจดีว่าคนที่กำลังพัฒนาตนเองอยู่จะเจออุปสรรคและคำถามอะไรบ้าง ในบทเรียนทุกบทจึงมีการเน้นท่อนสำคัญให้คนอ่านเห็นได้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่แค่เป็นการเน้นย้ำให้ต้องทำแต่เป็นการให้กำลังใจในการมุ่งมั่นทำต่อไปอีกด้วย อย่างนี้ถ้าใครสนใจจะอ่านเล่มที่ 2 ก็คงต้องบอกให้ไปศึกษาต่อเหมือนกับการเรียนคลาสต่อไปนั่นเอง

ฮาร์วาร์ดสอนอะไร

แม้ว่าฮาร์วาร์ดจะเป็นหนังสือที่วางขายมานานแต่ก็ยังคงเป็นหนังสือที่เหมาะสมกับคนที่อยากพัฒนาตนเองอยู่เสมอ กาลเวลาเปลี่ยนไปแต่หลักคิดสำคัญของชีวิตยังคงเหมือนเดิม ทุกวันนี้เวลาที่เราหมดกำลังใจเราก็ยังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่และอยากมาแบ่งปันให้นักคิด (พัฒนาตนเอง) ทุกคนได้รู้จักกับฮาร์วาร์ดอีกด้วย เนื่องจากเนื้อหามีความยาวมากแล้วหากสนใจจะศึกษาต่อสามารถมาอ่านสรุปบทเรียนทั้ง 11 บทได้ที่ 11 บทเรียนของฮาร์วาร์ด