เรื่องเล่าของการขายน้ำ
ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีครับ รบกวนพี่แนะนำตัวเองหน่อยได้มั้ยครับ? ไม่ต้องบอกชื่อนะครับ
ตัวแทน: ครับๆ พี่อายุ 29 ทำตรงนี้มาได้เกือบ 10 ปีแล้วละ ตั้งแต่สมัยเพิ่งเริ่มเรียนมหาลัย อายุสัก 18-19 แต่ไม่ได้ทำตลอดนะ มีหยุดพักไปช่วงนึงเพิ่งเริ่ม กลับมาทำใหม่ได้ไม่กี่เดือนเอง
ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณครับผม พี่ช่วยเล่าหน่อยได้มั้ยครับว่าพี่เข้ามาทำตรงนี้ได้ยังไง มี ใครพามาหรือแนะนำมาหรือเปล่าครับ?
ตัวแทน: พี่มาเอง เจอเอง
ผู้สัมภาษณ์: ยังไงเหรอครับ?
ตัวแทน: วันนั้นพี่มาเดินเล่นแถวนี้ แล้วจู่ ๆ ก็มีรถขับมาจอดข้าง ๆ แล้วไขกระจกลงมาคุยกับพี่ ข้างในเป็นผู้หญิง อายุสักเกือบ 40 ละ เขาถามพี่ว่าไปด้วยกันมั้ย สนใจอยากลองมั้ย พี่ก็เห็นว่าไม่มีอะไร เลยสนใจอยากรู้ ขึ้นรถไปกับเขา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พ่อพี่เพิ่งเสีย พี่ชายก็แต่งงาน แล้วพี่สาวก็เพิ่งเรียนจบ พี่เลยเหมือนกับต้องปากกัดตีนถีบ หาเงินส่งเสียตัวเองเรียนอยากลองดูว่ามันเป็นยังไง ก็เลยไปกับเขา ไปทำกิจกรรมนั่นแหละ แล้วก็ได้เงินมา
ผู้สัมภาษณ์: แล้วที่พี่บอกว่าเลิกทำใปช่วงนึง เป็นช่วงตอนไหน ทำไมเลิกทำไปละครับ?
ตัวแทน: ช่วงนั้นพี่แต่งงาน เลยเลิกไปประมาณสามสี่ปีทำแต่งานประจำอย่างเดียว แต่ตอนนี้แฟนพี่ท้อง งานประจำกลางวันมันได้เดือนละ 9,000 มันไม่พอ ไม่มีเงินเก็บ เป็นค่าคลอด ค่าดูแลลูก พี่เลยกลับมาทำใหม่ วันนึงสองสาม เที่ยวก็ได้ 3,000 แล้ว
ผู้สัมภาษณ์: คือเหมือนทำเป็นพาร์ทไทม์? งานพิเศษ?
ตัวแทน: ใช่ๆ
ผู้สัมภาษณ์: แล้วครอบครัวพี่ คนรู้จักพี่ รู้มั้ยครับว่าพี่มาทำงานตรงนี้?
ตัวแทน: ไม่รู้ ให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด
ผู้สัมภาษณ์: ทำไมเหรอครับ?
ตัวแทน: รับไม่ได้แน่นอน ที่ทำอยู่นี่ไม่ใช่เรื่องดี ไม่บอกใคร ถ้าแฟนรู้ เลิกแน่ ไม่ได้ เด็ดขาด
ผู้สัมภาษณ์: แล้วพี่มีวิธีเก็บความลับยังไงครับ?
ตัวแทน: ไม่บอกใคร แล้วก็มาไกล บ้านพี่ไม่ได้อยู่แถวนี้ แถวนี้ไม่มีใครรู้จัก
ผู้สัมภาษณ์: พี่มีปลอมตัวบ้างมั้ยครับ เช่นสมมติ ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ขายาวเนี่ย ปกติพี่แต่งตัวแบบนี้หรือเปล่าครับ? หรือเป็นชุดเฉพาะเวลามา ทำงาน?
ตัวแทน: ไม่นะ ชุดเดียวกับที่ใส่เมื่อตอนกลางวัน ไม่ได้ต้องแต่งตัวพิเศษอะไร คนที่ ทำแบบนี้ก็แต่งตัวธรรมดากันทั้งนั้นแหละ ลูกค้า ชอบไม่ชอบอยู่ที่หน้าตา รูปร่าง มากกว่า
จากบทสนทนา จะเห็นได้ว่าผู้ขายบริการทางเพศนั้น ก็คือคนทั่ว ๆ ไปในสังคมนี่เอง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา อาชีพการงาน การแต่งกาย หรือบุคลิกนิสัย ก็ไม่มีความแตกต่างจากผู้ชายที่พบได้ทั่วไป หรืออาจจะดีกว่า เนื่องจากความจำเป็นในอาชีพที่ทำให้ผู้ชายเหล่านี้ต้องดูแลตนเอง ต้องมีภาพลักษณ์ที่สะอาด มนุษยสัมพันธ์ดี คุยเก่ง เพื่อให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการกับเขา คนกลุ่มนี้ทราบดีว่าอาชีพของเขามีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อสูง และเพื่อที่จะรักษาร่างกายอันเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพไว้ ทำให้การป้องกันตัวเองจากโรคจึงมีความสำคัญสุด
ผู้สัมภาษณ์: มาทำงานแบบนี้ ค่อนข้างจะเสี่ยงต่อโรคติดต่อ โรคทางเพศใช่มั้ยครับ? แล้วยังมีเรื่องรสนิยมแปลก ๆ พวกทำร้ายคู่กิจกรรมอีก ไม่ทราบว่าพี่มีวิธี ดูแลตัวเองบ้างยังไงเหรอครับ?
ตัวแทน: อะไรที่เสี่ยงก็จะไม่ทำ คือจะตกลงกับลูกค้าไว้ก่อนเลยว่า เราไม่จูบปากนะ ต้องใช้ถุงยางนะ บอกตั้งแต่ก่อนจะไปด้วยกัน ถ้าเขาไม่โอเคก็คือจบ ไม่ไป ด้วย ถ้าดูแล้วลูกค้าไม่น่าไว้ใจ สมมติมากันหลาย ๆคนสักสามคนขึ้น เป็นเกย์ทุกคน แบบนั้น เราก็ไม่ไป เสี่ยงโดนรุม ทำร้ายร่างกาย แต่ก็มีลูกค้าบางคนที่เป็นพวกโรคจิตนะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติให้เราถ่มน้ำลาย รดบ้าง ต่อยเขาบ้าง ฉี่ใส่บ้าง ถ้าเราไม่เจ็บตัวทีหลังก็ทำให้เขาไป
ผู้สัมภาษณ์: แล้วถ้าสมมติว่าตกลงกันแล้ว ไปด้วยกันแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงเขาไม่ยอม พี่ทำยังไงครับ?
ตัวแทน: ไม่ยอมก็คือจบ พี่ก็ขอเงินเขามาแล้วก็กลับ ไม่มีอะไรด้วย
ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่าป้องกันตัวเองสำคัญที่สุด?
ตัวแทน: ใช่ ต้องป้องกันดีๆ พี่ว่าพวกพี่ป้องกันดีกว่าคนปกติอีก มันเป็นอาชีพของ
เรา พอรู้ว่าเสี่ยงก็ยิ่งระวังพวกที่โรคเยอะๆส่วนมากไม่ใช่พวกทำแบบนี้ หรอก จะเป็นพวกง่าย ๆ ฟรี ๆ รักสนุกมากกว่า
ผู้สัมภาษณ์: เข้าใจแล้วครับ แล้วพี่เคยเจอกรณีที่เขาไม่ยอม จะทำให้ได้ ใช้กำลังบังคับ มั้ยครับ?
ตัวแทน: เคย แต่ไม่กี่ครั้ง ลูกค้าทุกคนไม่ใช่ว่าจะดีทุกคน บางคนก็หยิบกระเป๋า หยิบของเราไปด้วยก็มี พอๆกับคนขาย ดีๆอย่างพี่ก็มี เลว ๆ ก็มี ก็ต้องดู ต้องเลี่ยงเท่าที่ทำได้ แต่เลี่ยงไม่ได้ตลอดหรอก
สิ่งที่ผู้ค้าบริการทางเพศมีความแตกต่างกับคนทั่วไปในสังคมไทย อาจจะเป็นทัศนคติของ
เขาต่อการค้าบริการทางเพศ โดยคนที่เกี่ยวข้องกับการค้าบริการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย จะมองว่าความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์แม้สังคมจะพยายามปกปิดและปิดกั้นอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถกำจัดความต้องการในด้านนี้ไปโดยสิ้นเชิงได้
ผู้สัมภาษณ์: พี่คิดยังไงกับงานตรงนี้ครับ?
ตัวแทน: ไม่ดีหรอก ใครรู้ก็รับไม่ได้ ก็อย่างที่บอก ที่บ้านรู้เลิกแน่ ผู้สัมภาษณ์: แล้วตัวพี่เองละครับคิดยังไง ลองสมมติว่าพี่ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อนที่ จะมาตัดสินพี่ พี่จะรู้สึกยังไงต่ออาชีพนี้ครับ?
ตัวแทน: … มันไม่ดีแหละ แต่เงินมันดี ทุกคนก็มีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น อาชีพนี้ เลยเข้าง่ายออกยาก พอรู้ว่ามันได้เงินมาง่าย ถึงจะเลิกไปก็ได้แปป ๆ พอ มีปัญหา อยากได้อยากมี ก็กลับมาอีก
ผู้สัมภาษณ์: เหมือนกับมาทำงานพาร์ทไทม์?
ตัวแทน: ใช่ อย่างพี่ก็คือมาเก็บเงินไปให้ครอบครัว ไปคลอดลูก ทำงานประจำ เงินมันไม่พอหรอก บางคนเข้ามาก็เพื่อหาเงินไปตั้งตัว บางคนเข้ามา สนุก ๆ ทำได้เงินได้เที่ยวได้ดื่มมันก็มี
ผู้สัมภาษณ์: แล้วพี่คิดว่าลูกค้าที่มาซื้อบริการคิดกับคนขายยังไงครับ? พอจะทราบมั้ย
ตัวแทน: ลูกค้าเขาเข้าใจนะ ว่าทุกคนที่มาก็มีเรื่องจำเป็นถึงได้มากัน
ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่า ไม่เคยมีลูกค้ามองเหยียดหยามดูถูก?
ตัวแทน: ไม่มี ๆ
ผู้สัมภาษณ์: แล้วลูกค้าของพี่ ปกติมีแบบไหนบ้างครับ เป็นผู้ชาย? ผู้หญิง? ชาวต่างชาติ? แล้วพี่คิดว่าทำไมเขาถึงมาซื้อบริการครับ?
ตัวแทน: ถ้าเป็นผู้หญิง ส่วนมากจะอายุกลางคนหน่อย ไม่ก็เป็นพวกนวดที่จะมา ดึกๆ หลังเขาทำงานนวดเสร็จ แล้วก็มาซื้อเราต่ออีกทีถ้าเป็นผู้ชายก็จะมี หลายแบบ ทั้งดารา, ทหาร, ตำรวจ, ข้าราชการส่วนมากก็จะมาเพราะกิจกรรมนั่นละ แต่ก็มีบางที่มาพาเราไปนั่งดื่มนั่งคุยด้วยเฉย ๆ เหมือนเหงา หาคนไปคุยด้วย เอาอกเอาใจ ส่วนใหญ่จะอายุเยอะหน่อยพวกนี้
ผู้สัมภาษณ์: แล้วเวลาพี่ทำงาน พี่มีอารมณ์ร่วมกับลูกค้ามั้ยครับ หรือแค่ทำไปตาม หน้าที่เฉยๆ?
ตัวแทน: ต้องมี ไม่งั้นทำไม่ได้ ถ้าไม่มีก็ต้องบิลด์อารมณ์ให้มี บางทีไปโรงแรมก็มี เปิดหนังเปิดอะไรช่วย ทำมาหลายปีไม่เคยมีปัญหานะ
ผู้สัมภาษณ์: ผมขอถามนิดนึง คือเรื่องอารมณ์มันขึ้นอยู่กับรสนิยมด้วยเนอะ ปกติพี่เลือกลูกค้ามั้ยครับ? เช่น สมมติชอบลูกค้าผู้หญิงมากกว่า หรือถ้าลูกค้าไม่ ตรงสเปคพี่มีปฎิเสธมั้ยครับ?
ตัวแทน: เราเลือกลูกค้าได้ ไม่เอาก็ปฎิเสธไป เรื่องรสนิยมแล้วแต่จะตกลงจะคุยกัน เป็นคนๆไป อย่างพี่เป็นผู้ชาย พี่รุกอย่างเดียว ไม่รับ ก็จะคุยกับลูกค้า ตั้งแต่ต้นเลยว่าเป็นแบบนี้ ไม่โอเคก็คือจบ แต่ปกติจะไม่ค่อยปฎิเสธลูกค้า หรอก คุยกันได้
ผู้สัมภาษณ์: ถ้าเจอลูกค้าถูกสเปคมีลดราคาหรือไปด้วยฟรีๆมั้ยครับ?
ตัวแทน:ของพี่ไม่มี เรทมาตรฐาน แต่คนอื่นมีนะ ผู้สัมภาษณ์: เคยมีคนมาติดพันมั้ยครับ? แบบมาเป็นลูกค้าประจำ อะไรแบบนั้นตัวแทน: เคยมีเป็นผู้หญิงมาขอเลี้ยง ให้วันละ 500 แต่พี่อยู่ด้วยได้แค่สามเดือนแล้ว เลิก เงินมันไม่พอเก็บ อยู่ไม่ได้ มาทำเป็นครั้งๆไปเงินดีกว่า ส่วนลูกค้า ผู้ชายก็มีบ้าง จะให้เบอร์ติดต่อไว้ ถ้าขาดเงินก็โทรไปหา แต่ส่วนใหญ่จะ ชอบความแปลกใหม่กัน ไม่ค่อยเลือกคนเดิมๆหรอก จะชอบเด็กใหม่ๆ ยิ่งเด็กยิ่งขายดี อายุสัก 14-15 ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ขายดีสุด
ผู้สัมภาษณ์: อ่อ เข้าใจแล้วครับ
ตัวแทน: ว่าแต่น้องไม่ถามเรื่องดาราหน่อยเหรอ พี่เคยรับพวกคนดังๆ ดีเจเยอะนะ
ผู้สัมภาษณ์: (หัวเราะ)
จะเห็นได้ว่า โดยลึก ๆ แล้ว ผู้ขายบริการทางเพศก็ทราบดีว่าการค้าบริการทางเพศนั้นเป็นสิ่งที่สังคมไม่ให้การยอมรับผิดต่อศีลธรรมในสังคมไทยที่ไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ ซึ่งเกิดการจากที่ผู้ขายบริการเหล่านี้ได้ผ่านการขัดเกลาทางสังคม เด็กชายในสังคมไทยจะถูกพ่อแม่และสังคมปลูกฝังให้เป็นเด็กที่กล้าหาญ มีความรับผิดชอบ และต้องประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เด็กก็อาจมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนหากได้รับการปลูกฝังที่ไม่ถูกต้องจากครอบครัว เพื่อน สื่อต่าง ๆ หรือพบเจอปัญหาบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนพฤติกรรมไป ทำอาชีพที่เขาเองก็รู้ว่าไม่ถูกต้อง ในวัยนี้สิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาคือการขัดเกลาทางสังคม (socialization) หรือก็คือ การดูแลสั่งสอนเด็กเพื่อให้เรียนรู้และเติบโตมาเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม กลุ่มที่จะมีส่วนช่วยในการขัดเกลาเด็กและเยาวชนเหล่านี้ ครอบครัวช่วยเลี้ยงดูสั่งสอน เพื่อนที่หล่อหลอมพฤติกรรม โรงเรียนที่ให้การศึกษา สื่อที่เสนอภาพต่าง ๆ ของสังคม ซึ่งทุกส่วนมีผลที่จะสร้างพฤติกรรมของคน ๆ หนึ่งขึ้นมา แต่ทั้ง ๆ ที่คนกลุ่มนี้ก็ทราบดีว่าการค้าบริการทางเพศเป็นสิ่งที่ผิด ทำไมพวกเขาถึงยังตัดสินใจที่จะประกอบอาชีพนี้? เราอาจแบ่งผู้ขายบริการทางเพศได้เป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกคือ เงินเป็นปัจจัยหลัก กล่าวคือ ผู้ขายบริการทางเพศต้องการเงินเพื่อนำมาตอบสนองความต้องการทางกายภาพ เช่น อาหาร ที่พักอาศัย เพราะปัจจุบัน เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่จะนำมาซึ่งความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่เงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก กล่าวคือ ผู้ขายบริการมองว่าการขายบริการนั้นทำให้ได้กลุ่มเพื่อนใหม่ มีเพื่อนดื่มเบียร์ สูบบุหรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการในขั้นของความรักและความเป็นเจ้าของคือ ได้พบเพื่อนได้อยู่ในกลุ่มเพื่อน ความรักจากเพื่อนและได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆอีกทั้งยังมองว่าการออกมาขายบริการทางเพศนั้นนอกจากได้พบปะเพื่อน ๆ ยังมีผลพลอยได้เป็นเงินซึ่งในท้ายที่สุดสามารถนำกลับไปตอบสนองความต้องการในขั้นแรกที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ มีกลุ่มผู้หญิงที่ขายบริการเช่นกันมาซื้อบริการจากผู้ชาย ซึ่งอาจจะอธิบายได้ด้วยความต้องการความเคารพนับถืออยากจะรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจควบคุมชีวิตผู้หญิงขายบริการเหล่านั้นต้องตกอยู่ในฐานะของผู้ถูกเลือกจึงต้องการที่จะเป็นผู้เลือกบ้าง
Abram Kardiner นักจิตวิทยาผู้ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมกับบุคลิกภาพได้กล่าวไว้ว่า บุคลิกภาพของปัจเจกบุคคลในสังคมเกิดขึ้นจากการขัดเกลาทางสังคมและเมื่อคนหลาย ๆ คนที่มีบุคลิกภาพใกล้เคียงหรือแตกต่างกันออกไปมารวมกัน จะเกิดการสร้างสิ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนหมู่มากนั้นขึ้น ในที่นี้ เมื่อเราได้เข้าใจถึงบุคลิกภาพจริง ๆ ของผู้ซื้อและผู้ขายบริการทางเพศกลุ่มหนึ่งแล้วซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากที่เราเคยคิดอยู่บ้าง
ต่อไปเราก็จะมาดูกันว่า คนกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรสื่อสารระหว่างกันอย่างไร? และสร้างให้เกิดตลาดการค้าบริการทางเพศในรูปแบบใดขึ้นมา ซึ่งอาจจะต้องแปลกใจอีกว่า การค้าบริการทางเพศนั้น อาจจะเรียบง่ายและสะดวกกว่าที่คิด ไม่อันตรายและน่ารังเกียจเท่าภาพที่แสดงในสื่อ ไม่ได้ตอบสนองเฉพาะความต้องการทางเพศเท่านั้น และที่สำคัญเป็นเพียงความลับของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่แทบไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับสังคมเลย
ผู้สัมภาษณ์: ปกติแล้ว พี่มีวิธีทำงานอย่างไร ทำตัวอย่างไรถึงจะมีลูกค้าครับ?
ตัวแทน: แถว ๆ นี้เขารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งรวมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คนที่มาก็มา เพื่อเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละ แค่มายืน ๆ อยู่ก็รู้กัน ก็จะไปยืนอยู่ริมถนน แล้วแต่ แต่ละคนว่าจะยืนเดี่ยวหรือยืนเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนลูกค้าก็จะขับรถชิดซ้ายมา ช้า ๆ เวลาเขาผ่านมาเราก็เดินออกไปให้เขาเห็นได้ชัดๆ ถ้าเขาสนใจเขาก็จะจอด เปิดกระจกมาคุยกับเราเอง ตกลงกันโอเคก็คือขึ้นรถไป ทำกิจกรรมเสร็จ ก็กลับมายืนที่เดิมทำงานต่อ
ผู้สัมภาษณ์: ง่าย ๆ แบบนั้นเลยเหรอครับ มีแบบพวกเอเยนต์หรือผู้มีอำนาจมาเกี่ยวข้องมั้ยครับ?
ตัวแทน: แถวนี้มีตัวกลาง พวกที่แบบจะคอยหาลูกค้ามาให้เรา แลกกับหักค่าหัวคิว สัก 200-300 บาท ก็แล้วแต่เราว่าจะรับลูกค้าที่เขาเสนอมามั้ย จะไม่ไปยุ่ง กับเขาก็ได้ เขาก็ไม่มาทำอะไรเราหรอก กีดกันลูกค้าเราก็ไม่ได้ ลูกค้ามี วิธีเข้าถึงเราปกติ ที่อันตรายหน่อยจะเป็นพวกมาเฟีย พวกเปิดร้านนวดไป
ยืนทับที่เขาไม่ได้ แถวนี้ไม่มี แต่พี่เคยไปยืนที่สีลม จู่ ๆ มีปืนมาจ่อหัวเลย บอกให้ไปที่อื่น
ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่าแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกมาเดี่ยวๆมาเองเหรอครับ? ไม่เกี่ยวข้องกับใคร?
ตัวแทน: ใช่
ผู้สัมภาษณ์: เมื่อกี้พี่บอกว่ามีคนที่ยืนเป็นกลุ่ม ๆ แสดงว่า มีการรู้จักกันช่วยเหลือกัน ถูกต้องมั้ยครับ?
ตัวแทน: อืม บางทีลูกค้าก็ต้องการมากกว่าหนึ่งคนก็จะมีไปเรียกคนใกล้เคียงคน รู้จักมาให้ลูกค้าเลือก โทรตามกันก็มี อีกอย่างยืนเป็นกลุ่มๆมันปลอดภัยกว่า แถวนี้มันจะมีพวกวิ่งราวเยอะ เวลาตำรวจมาหรือแก็งค์ข่มขู่มาก็จะขับมอไซค์มาเตือนบ้าง วิ่งมาบอกให้หลบบ้าง
ผู้สัมภาษณ์: แล้วมีการแย่งลูกค้ากันบ้างมั้ยครับ?
ตัวแทน: สุดท้ายแล้วแต่ลูกค้าจะเลือก เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่มีแย่งกัน
หากกล่าวถึงพฤติกรรมและการปฎิสัมพันธ์กันภายในกลุ่มอาชีพขายบริการทางเพศของเยาวชนชาย จะเห็นว่ากลุ่มเพื่อนมีอิทธิพลต่อกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มเพื่อนจะปลูกฝังค่านิยม ความเชื่อผ่านการขัดเกลาในกลุ่มสังคมของผู้ขายบริการทางเพศในเยาวชนชาย โดยความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนจะเกิดขึ้นตั้งแต่การก้าวเข้ามาทำอาชีพดังกล่าว การติดต่อซื้อขายระหว่างกลุ่มลูกค้า ย่อมมีกลุ่มเพื่อนที่เป็นเครือข่ายที่ต้องช่วยกันสอดส่องและให้คำแนะนำในการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการประกอบอาชีพนี้ รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง แม้กระทั่งการเฝ้าระวังจากการถูกจับกุมของตำรวจ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวนี้ กลุ่มเพื่อน เป็นตัวที่มีอิทธิพลในที่ทำให้สมาชิกภายในกลุ่มเรียนรู้และพัฒนาเทคนิคในการประกอบอาชีพนี้ต่อไป
จนไปได้ไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องกลับมาต่อ ไม่มีเงินใช้ไม่มีงานทำ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง มันเข้าแล้วออกไม่ได้เลยจนตอนนี้อายุ23แล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผู้มาขายบริการทุกคนที่พวกเขามาเพราะความเดือดร้อนทั้งนั้น มันเป็นอาชีพทางเลือกสุจริต ไม่เดือดร้อนใครทุกคนย่อมมีปัญหา และไม่ต้องการคำดูถูก พวกเราล้วนตัวสะอาดและป้องกันทุกครั้ง ประเทศไทยยอมรับได้แล้วเถอะ ทำให้ถูกกฎหมายsexworkerแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งความรู้และคติความคิด