เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรียนรู้เรื่องใกล้ตัวในมุมสังคมวิทยาSaGaZenJi
ผู้ชายขายน้ำ
  •        วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่เรียกได้ว่าเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต เป็นช่วงที่สำคัญมากในการเรียนรู้และฝึกฝนพฤติกรรมในการเข้าเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แต่ปัจจุบันวัยรุ่นกลับเป็นช่วงวัยที่มีสถิติการกระทำผิดอยู่ในระดับสูง เป็นปัญหาใหญ่ที่สังคมต้องให้ความสนใจและแก้ไขอย่างจริงจัง

           ปัญหาหนึ่งในปัจจุบันที่สังคมไทยกำลังประสบคือ ปัญหาการค้าประเวณีของเยาวชน ซึ่งในปัจจุบันพบว่าเยาวชนชายมีสัดส่วนการค้าประเวณีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เยาวชนเหล่านี้เข้ามาเป็นสส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ได้อย่างไร? สังคมต้องรับมืออย่างไร? ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เยาวชนรับรู้และเข้าร่วมในแวดวงนี้มากกว่าที่จะเป็นคนดีตามที่สังคมคาดหวัง? 

           โดยปกติแล้ว สังคมไทยมักมองการขายบริการทางเพศไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย
    เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและเป็นการประกอบอาชีพที่ไม่บริสุทธิ์ ส่วนหนึ่งเป็นอิทธิพลจากคำสั่งสอนทางพุทธศาสนาในแง่การงดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม อีกส่วนหนึ่งมาจากวัฒนธรรมไทยที่ยึดโยงกับคติธรรมในแบบดังกล่าวจนกลายเป็นค่านิยมของสังคม

           บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งจากงานวิจัย "ผู้ชายขายน้ำ" ที่ผมได้ร่วมทำกับเพื่อน ๆ สมัยเรียนปี 4 โดยมีเจตนาที่จะนำเสนอและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางสังคมของเยาวชนชายที่มาประกอบอาชีพค้าประเวณี อาชีพที่คนไทยมองว่าผิดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีไทยในระดับที่ร้ายแรง และไม่เหมาะสมกับเยาวชนซึ่งสังคมเห็นว่ายังไม่ควรหมกมุ่นในเรื่องเพศ เราได้ทำการศึกษาเรื่องของการค้าบริการทางเพศด้วยการทบทวนวรรณกรรมต่าง ๆ และลงพื้นที่สัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพและได้พบข้อเท็จจริงที่ว่า มีผู้ชายจำนวนมากที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการค้าบริการทางเพศ ไม่ใช่แค่เพศหญิงเท่านั้น และการค้าบริการทางเพศของผู้ชายเหล่านี้ ส่วนใหญ่เริ่มขึ้นเมื่อเขาเหล่านั้นยังเป็นเพียงเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย
  • โลกริมถนนยามค่ำคืน

           สังคมไทยในอดีตมีชีวิตที่เรียบง่ายและไม่เร่งรีบ การเกษตรเป็นอาชีพหลักของคนในสมัยนั้น สภาพสังคมยุคก่อนสมัยใหม่นี้ มีความเป็นปึกแผ่นค่อนข้างสูงเนื่องจากความต้องการแรงงานในการช่วยทำการเกษตร ทำให้คนในชุมชนรู้จักและสนิทสนมกันอย่างแน่นแฟ้น ปัจจัยด้านความเป็นปึกแผ่นนี้เองที่หล่อหลอมและสร้างการขัดเกลาอันเข้มข้นให้กับทายาทของสังคม การออกนอกลู่นอกทาง อีกทั้งการมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนจึงเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงที่จะถูกบรรทัดฐานที่แข็งแกร่งตีตรา ส่งผลให้การเปิดเผยและการพูดถึงเรื่องในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้และเป็นประเด็นที่อ่อนไหวของสังคม บุคคลที่ค้าบริการทางเพศจึงต้องปกปิดตัวตนและอยู่ในมุมอับของสังคมภายใต้ระบบสังคมแบบที่มีความเป็นปึกแผ่นค่อนข้างสูงในอดีต

           ทว่าในสังคมทุกวันนี้ การดำเนินชีวิตและวิถีความเชื่อได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากการเข้ามาของเทคโนโลยีและค่านิยมต่างชาติ สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการคิดถึงประเด็นต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการค้าบริการทางเพศด้วย ทุกวันนี้การขายบริการทางเพศถูกมองเป็นอาชีพหนึ่งที่ใคร ๆ ก็สามารถเข้ามาประกอบได้หากเขาหรือเธอคนนั้นต้องการทำ โดยเฉพาะการขายบริการทางเพศของผู้ชายถูกมองเสมือนเป็นการทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินเร่งด่วน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สังคมปรับเปลี่ยนมุมมองในลักษณะนี้คือ อิทธิพลของความเป็นสมัยใหม่ที่ชีวิตต้องเร่งรีบและเงินเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตมากขึ้น

          ปฎิเสธไม่ได้ว่า สมัยนี้ เงินเป็นประตูสู่เสรีภาพซึ่งขยับขยายชีวิตของผู้ครอบครองให้สามารถทำอะไรต่างๆ ในสังคมได้สะดวกขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง อาชีพขายบริการซึ่งได้รายได้ค่อนข้างดีและเร็วจึงถูกเปลี่ยนทัศนคติให้กลายเป็นช่องทางในการหารายได้อย่างเร่งด่วนที่ดีช่องทางหนึ่ง คืนหนึ่ง ๆ ผู้ประกอบอาชีพนี้อาจรายได้สูงสุดถึงคืนละ 6000-7000 บาท อีกทั้งค่านิยมใหม่ ๆ อย่าง การพึ่งตนเองและการให้ความสำคััญเฉพาะเรื่องของตนในสังคมปัจจุบัน ยังทำให้ความเป็นปึกแผ่นน้อยลง ส่งผลให้ความเข้มข้นในการตีตราการกระทำผิดศีลธรรมอย่างการค้าประเวณีอ่อนกำลังลงตามไปด้วย การประนามที่มีบทลงโทษทางจิตใจไม่มาก ประกอบกับการที่สังคมเริ่มมองว่าใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิและเสรีภาพของคน ๆ นั้น ทำให้ผู้ค้าประเวณีเองไม่รู้สึกว่า เรื่องการค้าประเวณีเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดและไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกสังคมตีตรา ทัศนคติแบบนี้เอง ทำให้ในปัจจุบันเราอาจต้องหันกลับมามองกันใหม่ว่าฐานะของการค้าประเวณีในสังคมไทยนั้น ยังถือเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนหรือการออกนอกลู่นอกทางอีกหรือไม่

           ในปัจจุบัน การค้าประเวณีโดยทั่วไป มีโครงสร้างระบบสังคมอย่างหลวม ๆ ประกอบด้วยบุคคลประมาณ 2 – 3 กลุ่ม กลุ่มที่สำคัญที่สุดคือ กลุ่มผู้ค้าประเวณี ซึ่งรูปแบบการค้าในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก แต่ลักษณะหนึ่งที่ยังคงเป็นเช่นเดิมคือ การค้าประเวณีมักเกิดขึ้นตามริมถนน ตามพื้นที่สวนต่าง ๆ  คนขายจะยืนอยู่ตามจุดที่สามารถเห็นได้ง่าย ส่วนมากคือ การยืนตามสวนสาธารณะที่มีความกว้างใหญ่ โดยลักษณะการทำการค้าจะเป็นการยืนตามจุดต่างๆ ให้ผู้ซื้อจอดและสนทนาได้สะดวก ผู้ขายจะมีทั้งที่ยืนตามเสาไฟ หรือตามแยกริมถนนชิดกับบริเวณสวนสาธารณะและนั่งอยู่ตามทางเท้า เมื่อมีรถขับผ่านบริเวณเหล่านั้นจะจ้องมองกระจกรถและชะโงกหัว บางรายอาจทำท่าทีที่แสดงให้รู้ว่าตนเป็นผู้ขาย เช่น ยืนขึ้นทันทีหากนั่งอยู่แล้วมีรถขับผ่าน หรือออกมายืนใกล้ทางเท้ามากขึ้นในขณะที่ผู้ซื้อเองก็มีลักษณะการขับรถที่สามารถทำให้รู้ได้ว่าขับมาเพื่อซื้อบริการ เช่น ขับรถชิดเลนซ้ายช้า ๆ และเปิดกระจกลงครึ่งหนึ่งเพื่อดูลักษณะของผู้ขายบริการ ซึ่งลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะที่ทำให้เราแยกคนที่ซื้อหรือขายบริการทางเพศออกจากคนททั่วไปได้ระดับหนึ่ง

           การชักจูงเข้ามาสู่สังคมการค้าประเวณีแบบริมทางในปัจจุบัน มาจากการบอกต่อของผู้ประกอบอาชีพรายเก่าต่อคนใหม่ ๆ ด้วยการพูดถึงเงินที่ดีและรายได้ที่ได้มาอย่างรวดเร็ว บางคนเข้ามาเพราะต้องการเงินไปใช้เพื่อแก้ปัญหาหรือบรรเทาปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้น บางคนเข้ามาเพราะต้องการเงินทุนเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่ เหตุผลที่เข้ามาจะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาในการประกอบอาชีพนี้ของผู้ขายบริการว่าจะอยู่ในสังคมเช่นนี้นานเพียงใด และความถี่ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน รวมถึงยังเป็นตัวกำหนดทัศนคติต่อการทำงานของคนขายด้วยเช่นกัน ผู้ที่เข้ามาแต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร มักมองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่คล้าย ๆ กับการทำงานพาร์ทไทม์หาเงินให้กับตนเอง ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่เข้ามาด้วยปัญหา เช่นปัญหาครอบครัวหรือเงิน มักจะมองว่าอาชีพนี้ยังคงเป็นอาชีพที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวแต่จำเป็นต้องทำ ปัจจัยที่จะทำให้ผู้ขายบริการออกหรืออยู่ในวัฒนธรรมกลุ่มย่อยนี้จึงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ รวมถึงครอบครัว เป็นหลัก

           ในปัจจุบัน คนประกอบอาชีพนี้มีแนวโน้มที่จะประกอบอาชีพเป็นเวลาไม่นาน ผู้ขายบริการมักจะเลิกและออกจากวงจรนี้เมื่อปัญหาทางครอบครัวหรือปัญหาความสัมพันธ์ของเขาจบลง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า สภาพสังคมที่เครียดและเร่งรีบรวมถึงการใส่ใจกันน้อยลงของหน่วยขัดเกลาที่เล็กที่สุดอย่างครอบครัวค่อนข้างมีอิทธิพลต่อการเข้าหรือออกจากแวดวงเหล่านี้ อย่างไรก็ถาม ถึงแม้ผู้ประกอบอาชีพนี้จะอยู่ในแวดวงธุรกิจไม่นาน ค่านิยมแบบปัจเจกนิยมที่เป็นผลมาจากวิถีชีวิตสมัยใหม่ยังคงส่งผลให้การค้าประเวณีก็ยังเกิดขึ้นเรื่อย ๆ และจะเป็นเรื่องที่จะอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป

           อย่างที่ได้กล่าวไปในส่วนต้นว่า การค้าบริการทางเพศนั้น ถือเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่สังคมไทยมองว่าผิดต่อศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม ทั้งยังผิดต่อกฎหมาย โดยทั่วไปแล้วสังคมจึงตีตราเหมารวมคนที่มาประกอบอาชีพนี้ว่าเป็นคนไม่ดี สังเกตได้จากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้าบริการทางเพศในสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ สื่อโทรทัศน์ หรือโฆษณา ผู้ค้าบริการทางเพศมักถูกแสดงด้วยลักษณะท่าทางไม่น่าไว้ใจ พบได้ตามสถานที่อโคจรมืด ๆ ดูเป็ยนบุคคลน่ากลัว รูปร่างผอมซีดเซียว สกปรก ซึ่งถูกยัดเยียดว่าเกิดจากการไม่รักในร่างกายของตนเอง ไม่ดูแลตนเองจนติดโรคสร้างปัญหาให้กับภาพลักษณ์ของประเทศ ยิ่งผู้ค้าบริการทางเพศที่เป็นผู้ชายซึ่งสมัครใจค้าบริการทางเพศเอง จะยิ่งถูกมองในแง่ลบอย่างรังเกียจ ว่ามีจิตใจผิดปกติ มีรสนิยมเบี่ยงเบนทางเพศ ไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นอาชีพที่น่ารังเกียจก็ยังทำ เห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองอย่างเดียว ที่เลวร้ายที่สุดคือ ชายผู้ค้าบริการทางเพศมักถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่มีอัตราติดเชื้อและแพร่เชื้อ HIV สูงสุดจากทุก ๆ กลุ่มในประเทศอีกด้วย

           แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายที่เข้ามาทำอาชีพค้าบริการทางเพศโดยสมัครใจ อาจจะเป็นคนธรรมดาใกล้ตัวที่คุณรู้จักดี คนที่มีอาชีพการงานสุจริตในตอนกลางวัน คนที่มีครอบครัวอบอุ่น เป็นคนดีขยันทำงานเพื่อเก็บเงินให้ลูกที่ยังไม่ลืมตามาดูโลก คนที่ขยันดูแลสุขภาพตนเอง หรืออาจจะเป็นผู้ชายที่เพิ่งเดินสวนกับคุณไปเมื่อสักครู่ก็เป็นได้ ส่วนต่อไป เป็นบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งที่ผู้วิจัยได้มีโอกาสพูดคุยกับบุคคลในแวดวงธุรกิจริมทางนี้ ไม่มากก็น้อย เนื้อหาในการสนทนานี้ทำให้ผู้วิจัยในตอนนั้นเอง ก็ได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ในโลกค้าขายยามราตรีนี้เช่นกัน
  • เรื่องเล่าของการขายน้ำ

    ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีครับ รบกวนพี่แนะนำตัวเองหน่อยได้มั้ยครับ? ไม่ต้องบอกชื่อนะครับ

    ตัวแทน: ครับๆ พี่อายุ 29 ทำตรงนี้มาได้เกือบ 10 ปีแล้วละ ตั้งแต่สมัยเพิ่งเริ่มเรียนมหาลัย อายุสัก 18-19 แต่ไม่ได้ทำตลอดนะ มีหยุดพักไปช่วงนึงเพิ่งเริ่ม กลับมาทำใหม่ได้ไม่กี่เดือนเอง

    ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณครับผม พี่ช่วยเล่าหน่อยได้มั้ยครับว่าพี่เข้ามาทำตรงนี้ได้ยังไง มี ใครพามาหรือแนะนำมาหรือเปล่าครับ?

    ตัวแทน: พี่มาเอง เจอเอง

    ผู้สัมภาษณ์: ยังไงเหรอครับ?

    ตัวแทน: วันนั้นพี่มาเดินเล่นแถวนี้ แล้วจู่ ๆ ก็มีรถขับมาจอดข้าง ๆ แล้วไขกระจกลงมาคุยกับพี่ ข้างในเป็นผู้หญิง อายุสักเกือบ 40 ละ เขาถามพี่ว่าไปด้วยกันมั้ย สนใจอยากลองมั้ย พี่ก็เห็นว่าไม่มีอะไร เลยสนใจอยากรู้ ขึ้นรถไปกับเขา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่พ่อพี่เพิ่งเสีย พี่ชายก็แต่งงาน แล้วพี่สาวก็เพิ่งเรียนจบ พี่เลยเหมือนกับต้องปากกัดตีนถีบ หาเงินส่งเสียตัวเองเรียนอยากลองดูว่ามันเป็นยังไง ก็เลยไปกับเขา ไปทำกิจกรรมนั่นแหละ แล้วก็ได้เงินมา

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วที่พี่บอกว่าเลิกทำใปช่วงนึง เป็นช่วงตอนไหน ทำไมเลิกทำไปละครับ?

    ตัวแทน: ช่วงนั้นพี่แต่งงาน เลยเลิกไปประมาณสามสี่ปีทำแต่งานประจำอย่างเดียว แต่ตอนนี้แฟนพี่ท้อง งานประจำกลางวันมันได้เดือนละ 9,000 มันไม่พอ ไม่มีเงินเก็บ เป็นค่าคลอด ค่าดูแลลูก พี่เลยกลับมาทำใหม่ วันนึงสองสาม เที่ยวก็ได้ 3,000 แล้ว

    ผู้สัมภาษณ์: คือเหมือนทำเป็นพาร์ทไทม์? งานพิเศษ?

    ตัวแทน: ใช่ๆ

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วครอบครัวพี่ คนรู้จักพี่ รู้มั้ยครับว่าพี่มาทำงานตรงนี้?

    ตัวแทน: ไม่รู้ ให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด

    ผู้สัมภาษณ์: ทำไมเหรอครับ?

    ตัวแทน: รับไม่ได้แน่นอน ที่ทำอยู่นี่ไม่ใช่เรื่องดี ไม่บอกใคร ถ้าแฟนรู้ เลิกแน่ ไม่ได้ เด็ดขาด

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วพี่มีวิธีเก็บความลับยังไงครับ?

    ตัวแทน: ไม่บอกใคร แล้วก็มาไกล บ้านพี่ไม่ได้อยู่แถวนี้ แถวนี้ไม่มีใครรู้จัก

    ผู้สัมภาษณ์: พี่มีปลอมตัวบ้างมั้ยครับ เช่นสมมติ ชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ขายาวเนี่ย ปกติพี่แต่งตัวแบบนี้หรือเปล่าครับ? หรือเป็นชุดเฉพาะเวลามา ทำงาน?

    ตัวแทน: ไม่นะ ชุดเดียวกับที่ใส่เมื่อตอนกลางวัน ไม่ได้ต้องแต่งตัวพิเศษอะไร คนที่ ทำแบบนี้ก็แต่งตัวธรรมดากันทั้งนั้นแหละ ลูกค้า ชอบไม่ชอบอยู่ที่หน้าตา รูปร่าง มากกว่า

           จากบทสนทนา จะเห็นได้ว่าผู้ขายบริการทางเพศนั้น ก็คือคนทั่ว ๆ ไปในสังคมนี่เอง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา อาชีพการงาน การแต่งกาย หรือบุคลิกนิสัย ก็ไม่มีความแตกต่างจากผู้ชายที่พบได้ทั่วไป หรืออาจจะดีกว่า เนื่องจากความจำเป็นในอาชีพที่ทำให้ผู้ชายเหล่านี้ต้องดูแลตนเอง ต้องมีภาพลักษณ์ที่สะอาด มนุษยสัมพันธ์ดี คุยเก่ง เพื่อให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการกับเขา คนกลุ่มนี้ทราบดีว่าอาชีพของเขามีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อสูง และเพื่อที่จะรักษาร่างกายอันเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพไว้ ทำให้การป้องกันตัวเองจากโรคจึงมีความสำคัญสุด

    ผู้สัมภาษณ์: มาทำงานแบบนี้ ค่อนข้างจะเสี่ยงต่อโรคติดต่อ โรคทางเพศใช่มั้ยครับ? แล้วยังมีเรื่องรสนิยมแปลก ๆ พวกทำร้ายคู่กิจกรรมอีก ไม่ทราบว่าพี่มีวิธี ดูแลตัวเองบ้างยังไงเหรอครับ?

    ตัวแทน: อะไรที่เสี่ยงก็จะไม่ทำ คือจะตกลงกับลูกค้าไว้ก่อนเลยว่า เราไม่จูบปากนะ ต้องใช้ถุงยางนะ บอกตั้งแต่ก่อนจะไปด้วยกัน ถ้าเขาไม่โอเคก็คือจบ ไม่ไป ด้วย ถ้าดูแล้วลูกค้าไม่น่าไว้ใจ สมมติมากันหลาย ๆคนสักสามคนขึ้น เป็นเกย์ทุกคน แบบนั้น เราก็ไม่ไป เสี่ยงโดนรุม ทำร้ายร่างกาย แต่ก็มีลูกค้าบางคนที่เป็นพวกโรคจิตนะ ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติให้เราถ่มน้ำลาย รดบ้าง ต่อยเขาบ้าง ฉี่ใส่บ้าง ถ้าเราไม่เจ็บตัวทีหลังก็ทำให้เขาไป

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วถ้าสมมติว่าตกลงกันแล้ว ไปด้วยกันแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงเขาไม่ยอม พี่ทำยังไงครับ?

    ตัวแทน: ไม่ยอมก็คือจบ พี่ก็ขอเงินเขามาแล้วก็กลับ ไม่มีอะไรด้วย

    ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่าป้องกันตัวเองสำคัญที่สุด?

    ตัวแทน: ใช่ ต้องป้องกันดีๆ พี่ว่าพวกพี่ป้องกันดีกว่าคนปกติอีก มันเป็นอาชีพของ
    เรา พอรู้ว่าเสี่ยงก็ยิ่งระวังพวกที่โรคเยอะๆส่วนมากไม่ใช่พวกทำแบบนี้ หรอก จะเป็นพวกง่าย ๆ ฟรี ๆ รักสนุกมากกว่า

    ผู้สัมภาษณ์: เข้าใจแล้วครับ แล้วพี่เคยเจอกรณีที่เขาไม่ยอม จะทำให้ได้ ใช้กำลังบังคับ มั้ยครับ?

    ตัวแทน: เคย แต่ไม่กี่ครั้ง ลูกค้าทุกคนไม่ใช่ว่าจะดีทุกคน บางคนก็หยิบกระเป๋า หยิบของเราไปด้วยก็มี พอๆกับคนขาย ดีๆอย่างพี่ก็มี เลว ๆ ก็มี ก็ต้องดู ต้องเลี่ยงเท่าที่ทำได้ แต่เลี่ยงไม่ได้ตลอดหรอก

           สิ่งที่ผู้ค้าบริการทางเพศมีความแตกต่างกับคนทั่วไปในสังคมไทย อาจจะเป็นทัศนคติของ
    เขาต่อการค้าบริการทางเพศ โดยคนที่เกี่ยวข้องกับการค้าบริการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย จะมองว่าความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์แม้สังคมจะพยายามปกปิดและปิดกั้นอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถกำจัดความต้องการในด้านนี้ไปโดยสิ้นเชิงได้

    ผู้สัมภาษณ์: พี่คิดยังไงกับงานตรงนี้ครับ?

    ตัวแทน: ไม่ดีหรอก ใครรู้ก็รับไม่ได้ ก็อย่างที่บอก ที่บ้านรู้เลิกแน่ ผู้สัมภาษณ์: แล้วตัวพี่เองละครับคิดยังไง ลองสมมติว่าพี่ไม่มีครอบครัว ไม่มีเพื่อนที่ จะมาตัดสินพี่ พี่จะรู้สึกยังไงต่ออาชีพนี้ครับ?

    ตัวแทน: … มันไม่ดีแหละ แต่เงินมันดี ทุกคนก็มีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น อาชีพนี้ เลยเข้าง่ายออกยาก พอรู้ว่ามันได้เงินมาง่าย ถึงจะเลิกไปก็ได้แปป ๆ พอ มีปัญหา อยากได้อยากมี ก็กลับมาอีก

    ผู้สัมภาษณ์: เหมือนกับมาทำงานพาร์ทไทม์?

    ตัวแทน: ใช่ อย่างพี่ก็คือมาเก็บเงินไปให้ครอบครัว ไปคลอดลูก ทำงานประจำ เงินมันไม่พอหรอก บางคนเข้ามาก็เพื่อหาเงินไปตั้งตัว บางคนเข้ามา สนุก ๆ ทำได้เงินได้เที่ยวได้ดื่มมันก็มี 

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วพี่คิดว่าลูกค้าที่มาซื้อบริการคิดกับคนขายยังไงครับ? พอจะทราบมั้ย

    ตัวแทน: ลูกค้าเขาเข้าใจนะ ว่าทุกคนที่มาก็มีเรื่องจำเป็นถึงได้มากัน 

    ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่า ไม่เคยมีลูกค้ามองเหยียดหยามดูถูก?

    ตัวแทน: ไม่มี ๆ

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วลูกค้าของพี่ ปกติมีแบบไหนบ้างครับ เป็นผู้ชาย? ผู้หญิง? ชาวต่างชาติ? แล้วพี่คิดว่าทำไมเขาถึงมาซื้อบริการครับ?

    ตัวแทน: ถ้าเป็นผู้หญิง ส่วนมากจะอายุกลางคนหน่อย ไม่ก็เป็นพวกนวดที่จะมา ดึกๆ หลังเขาทำงานนวดเสร็จ แล้วก็มาซื้อเราต่ออีกทีถ้าเป็นผู้ชายก็จะมี หลายแบบ ทั้งดารา, ทหาร, ตำรวจ, ข้าราชการส่วนมากก็จะมาเพราะกิจกรรมนั่นละ แต่ก็มีบางที่มาพาเราไปนั่งดื่มนั่งคุยด้วยเฉย ๆ เหมือนเหงา หาคนไปคุยด้วย เอาอกเอาใจ ส่วนใหญ่จะอายุเยอะหน่อยพวกนี้

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วเวลาพี่ทำงาน พี่มีอารมณ์ร่วมกับลูกค้ามั้ยครับ หรือแค่ทำไปตาม หน้าที่เฉยๆ?

    ตัวแทน: ต้องมี ไม่งั้นทำไม่ได้ ถ้าไม่มีก็ต้องบิลด์อารมณ์ให้มี บางทีไปโรงแรมก็มี เปิดหนังเปิดอะไรช่วย ทำมาหลายปีไม่เคยมีปัญหานะ

    ผู้สัมภาษณ์: ผมขอถามนิดนึง คือเรื่องอารมณ์มันขึ้นอยู่กับรสนิยมด้วยเนอะ ปกติพี่เลือกลูกค้ามั้ยครับ? เช่น สมมติชอบลูกค้าผู้หญิงมากกว่า หรือถ้าลูกค้าไม่ ตรงสเปคพี่มีปฎิเสธมั้ยครับ?

    ตัวแทน: เราเลือกลูกค้าได้ ไม่เอาก็ปฎิเสธไป เรื่องรสนิยมแล้วแต่จะตกลงจะคุยกัน เป็นคนๆไป อย่างพี่เป็นผู้ชาย พี่รุกอย่างเดียว ไม่รับ ก็จะคุยกับลูกค้า ตั้งแต่ต้นเลยว่าเป็นแบบนี้ ไม่โอเคก็คือจบ แต่ปกติจะไม่ค่อยปฎิเสธลูกค้า หรอก คุยกันได้

    ผู้สัมภาษณ์: ถ้าเจอลูกค้าถูกสเปคมีลดราคาหรือไปด้วยฟรีๆมั้ยครับ?

    ตัวแทน:ของพี่ไม่มี เรทมาตรฐาน แต่คนอื่นมีนะ ผู้สัมภาษณ์: เคยมีคนมาติดพันมั้ยครับ? แบบมาเป็นลูกค้าประจำ อะไรแบบนั้นตัวแทน: เคยมีเป็นผู้หญิงมาขอเลี้ยง ให้วันละ 500 แต่พี่อยู่ด้วยได้แค่สามเดือนแล้ว เลิก เงินมันไม่พอเก็บ อยู่ไม่ได้ มาทำเป็นครั้งๆไปเงินดีกว่า ส่วนลูกค้า ผู้ชายก็มีบ้าง จะให้เบอร์ติดต่อไว้ ถ้าขาดเงินก็โทรไปหา แต่ส่วนใหญ่จะ ชอบความแปลกใหม่กัน ไม่ค่อยเลือกคนเดิมๆหรอก จะชอบเด็กใหม่ๆ ยิ่งเด็กยิ่งขายดี อายุสัก 14-15 ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ขายดีสุด

    ผู้สัมภาษณ์: อ่อ เข้าใจแล้วครับ

    ตัวแทน: ว่าแต่น้องไม่ถามเรื่องดาราหน่อยเหรอ พี่เคยรับพวกคนดังๆ ดีเจเยอะนะ

    ผู้สัมภาษณ์: (หัวเราะ)

          จะเห็นได้ว่า โดยลึก ๆ แล้ว ผู้ขายบริการทางเพศก็ทราบดีว่าการค้าบริการทางเพศนั้นเป็นสิ่งที่สังคมไม่ให้การยอมรับผิดต่อศีลธรรมในสังคมไทยที่ไม่เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ ซึ่งเกิดการจากที่ผู้ขายบริการเหล่านี้ได้ผ่านการขัดเกลาทางสังคม เด็กชายในสังคมไทยจะถูกพ่อแม่และสังคมปลูกฝังให้เป็นเด็กที่กล้าหาญ มีความรับผิดชอบ และต้องประสบความสำเร็จในชีวิต แต่เด็กก็อาจมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนหากได้รับการปลูกฝังที่ไม่ถูกต้องจากครอบครัว เพื่อน สื่อต่าง ๆ หรือพบเจอปัญหาบางอย่าง ที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนพฤติกรรมไป ทำอาชีพที่เขาเองก็รู้ว่าไม่ถูกต้อง ในวัยนี้สิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขาคือการขัดเกลาทางสังคม (socialization) หรือก็คือ การดูแลสั่งสอนเด็กเพื่อให้เรียนรู้และเติบโตมาเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม กลุ่มที่จะมีส่วนช่วยในการขัดเกลาเด็กและเยาวชนเหล่านี้ ครอบครัวช่วยเลี้ยงดูสั่งสอน เพื่อนที่หล่อหลอมพฤติกรรม โรงเรียนที่ให้การศึกษา สื่อที่เสนอภาพต่าง ๆ ของสังคม ซึ่งทุกส่วนมีผลที่จะสร้างพฤติกรรมของคน ๆ หนึ่งขึ้นมา แต่ทั้ง ๆ ที่คนกลุ่มนี้ก็ทราบดีว่าการค้าบริการทางเพศเป็นสิ่งที่ผิด ทำไมพวกเขาถึงยังตัดสินใจที่จะประกอบอาชีพนี้? เราอาจแบ่งผู้ขายบริการทางเพศได้เป็น 2 กลุ่ม

           กลุ่มแรกคือ เงินเป็นปัจจัยหลัก กล่าวคือ ผู้ขายบริการทางเพศต้องการเงินเพื่อนำมาตอบสนองความต้องการทางกายภาพ เช่น อาหาร ที่พักอาศัย เพราะปัจจุบัน เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่จะนำมาซึ่งความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และกลุ่มที่สองคือ กลุ่มที่เงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก กล่าวคือ ผู้ขายบริการมองว่าการขายบริการนั้นทำให้ได้กลุ่มเพื่อนใหม่ มีเพื่อนดื่มเบียร์ สูบบุหรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการในขั้นของความรักและความเป็นเจ้าของคือ ได้พบเพื่อนได้อยู่ในกลุ่มเพื่อน ความรักจากเพื่อนและได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆอีกทั้งยังมองว่าการออกมาขายบริการทางเพศนั้นนอกจากได้พบปะเพื่อน ๆ ยังมีผลพลอยได้เป็นเงินซึ่งในท้ายที่สุดสามารถนำกลับไปตอบสนองความต้องการในขั้นแรกที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ มีกลุ่มผู้หญิงที่ขายบริการเช่นกันมาซื้อบริการจากผู้ชาย ซึ่งอาจจะอธิบายได้ด้วยความต้องการความเคารพนับถืออยากจะรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจควบคุมชีวิตผู้หญิงขายบริการเหล่านั้นต้องตกอยู่ในฐานะของผู้ถูกเลือกจึงต้องการที่จะเป็นผู้เลือกบ้าง

        Abram Kardiner นักจิตวิทยาผู้ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมกับบุคลิกภาพได้กล่าวไว้ว่า บุคลิกภาพของปัจเจกบุคคลในสังคมเกิดขึ้นจากการขัดเกลาทางสังคมและเมื่อคนหลาย ๆ คนที่มีบุคลิกภาพใกล้เคียงหรือแตกต่างกันออกไปมารวมกัน จะเกิดการสร้างสิ่งที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนหมู่มากนั้นขึ้น ในที่นี้ เมื่อเราได้เข้าใจถึงบุคลิกภาพจริง ๆ ของผู้ซื้อและผู้ขายบริการทางเพศกลุ่มหนึ่งแล้วซึ่งอาจจะแตกต่างไปจากที่เราเคยคิดอยู่บ้าง

           ต่อไปเราก็จะมาดูกันว่า คนกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรสื่อสารระหว่างกันอย่างไร? และสร้างให้เกิดตลาดการค้าบริการทางเพศในรูปแบบใดขึ้นมา ซึ่งอาจจะต้องแปลกใจอีกว่า การค้าบริการทางเพศนั้น อาจจะเรียบง่ายและสะดวกกว่าที่คิด ไม่อันตรายและน่ารังเกียจเท่าภาพที่แสดงในสื่อ ไม่ได้ตอบสนองเฉพาะความต้องการทางเพศเท่านั้น และที่สำคัญเป็นเพียงความลับของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่แทบไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับสังคมเลย

    ผู้สัมภาษณ์: ปกติแล้ว พี่มีวิธีทำงานอย่างไร ทำตัวอย่างไรถึงจะมีลูกค้าครับ?

    ตัวแทน: แถว ๆ นี้เขารู้กันอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งรวมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คนที่มาก็มา เพื่อเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละ แค่มายืน ๆ อยู่ก็รู้กัน ก็จะไปยืนอยู่ริมถนน แล้วแต่ แต่ละคนว่าจะยืนเดี่ยวหรือยืนเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนลูกค้าก็จะขับรถชิดซ้ายมา ช้า ๆ เวลาเขาผ่านมาเราก็เดินออกไปให้เขาเห็นได้ชัดๆ ถ้าเขาสนใจเขาก็จะจอด เปิดกระจกมาคุยกับเราเอง ตกลงกันโอเคก็คือขึ้นรถไป ทำกิจกรรมเสร็จ ก็กลับมายืนที่เดิมทำงานต่อ

    ผู้สัมภาษณ์: ง่าย ๆ แบบนั้นเลยเหรอครับ มีแบบพวกเอเยนต์หรือผู้มีอำนาจมาเกี่ยวข้องมั้ยครับ?

    ตัวแทน: แถวนี้มีตัวกลาง พวกที่แบบจะคอยหาลูกค้ามาให้เรา แลกกับหักค่าหัวคิว สัก 200-300 บาท ก็แล้วแต่เราว่าจะรับลูกค้าที่เขาเสนอมามั้ย จะไม่ไปยุ่ง กับเขาก็ได้ เขาก็ไม่มาทำอะไรเราหรอก กีดกันลูกค้าเราก็ไม่ได้ ลูกค้ามี วิธีเข้าถึงเราปกติ ที่อันตรายหน่อยจะเป็นพวกมาเฟีย พวกเปิดร้านนวดไป
    ยืนทับที่เขาไม่ได้ แถวนี้ไม่มี แต่พี่เคยไปยืนที่สีลม จู่ ๆ มีปืนมาจ่อหัวเลย บอกให้ไปที่อื่น

    ผู้สัมภาษณ์: แสดงว่าแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกมาเดี่ยวๆมาเองเหรอครับ? ไม่เกี่ยวข้องกับใคร?

    ตัวแทน: ใช่

    ผู้สัมภาษณ์: เมื่อกี้พี่บอกว่ามีคนที่ยืนเป็นกลุ่ม ๆ แสดงว่า มีการรู้จักกันช่วยเหลือกัน ถูกต้องมั้ยครับ?

    ตัวแทน: อืม บางทีลูกค้าก็ต้องการมากกว่าหนึ่งคนก็จะมีไปเรียกคนใกล้เคียงคน รู้จักมาให้ลูกค้าเลือก โทรตามกันก็มี อีกอย่างยืนเป็นกลุ่มๆมันปลอดภัยกว่า แถวนี้มันจะมีพวกวิ่งราวเยอะ เวลาตำรวจมาหรือแก็งค์ข่มขู่มาก็จะขับมอไซค์มาเตือนบ้าง วิ่งมาบอกให้หลบบ้าง

    ผู้สัมภาษณ์: แล้วมีการแย่งลูกค้ากันบ้างมั้ยครับ?

    ตัวแทน: สุดท้ายแล้วแต่ลูกค้าจะเลือก เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่มีแย่งกัน

           หากกล่าวถึงพฤติกรรมและการปฎิสัมพันธ์กันภายในกลุ่มอาชีพขายบริการทางเพศของเยาวชนชาย จะเห็นว่ากลุ่มเพื่อนมีอิทธิพลต่อกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากกลุ่มเพื่อนจะปลูกฝังค่านิยม ความเชื่อผ่านการขัดเกลาในกลุ่มสังคมของผู้ขายบริการทางเพศในเยาวชนชาย โดยความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนจะเกิดขึ้นตั้งแต่การก้าวเข้ามาทำอาชีพดังกล่าว การติดต่อซื้อขายระหว่างกลุ่มลูกค้า ย่อมมีกลุ่มเพื่อนที่เป็นเครือข่ายที่ต้องช่วยกันสอดส่องและให้คำแนะนำในการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการประกอบอาชีพนี้ รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง แม้กระทั่งการเฝ้าระวังจากการถูกจับกุมของตำรวจ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวนี้ กลุ่มเพื่อน เป็นตัวที่มีอิทธิพลในที่ทำให้สมาชิกภายในกลุ่มเรียนรู้และพัฒนาเทคนิคในการประกอบอาชีพนี้ต่อไป

  • ทุนนิยมกับการค้าประเวณี

           ในปัจจุบัน ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมทำให้สังคมมนุษย์เคยชินกับใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง เราจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตาม สิ่งที่ต่ำที่สุดหรือสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ก็สามารถนำมาซื้อ - ขาย ได้อย่างสินค้าปกติ จะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้เงินซื้อความรู้ ซื้อศิลปะ ซื้อร่างกาย ได้ง่ายๆ ไม่ต่างไปจากการซื้อสบู่ ยาสีฟัน จากร้านค้า

           มนุษย์อาจจะหลงลืมไปแล้วว่าตัวมนุษย์เองนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน เมื่อเงินกลายเป็นเป้าหมายหลักเป็นเพียงเป้าหมายเดียว ทำให้มนุษย์ขาดการมองเห็นคุณค่าของตัวเองและทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก ผู้ขายบริการมองว่าร่ากายของเขาเป็นสิ่งที่สามารถสร้างรายได้หาเงินให้กับเขาได้ และในขณะเดียวกันเขาก็มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในลักษณะที่มองว่าเป็นแหล่งของรายได้เท่านั้น ดังนั้นจึงพูดได้ว่าการค้าประเวณีในทุกวันนี้เอง ได้รับการเปลี่ยนฐานคิดจากผลกระทบที่ตามมาของการเติบโตขึ้นของเศรษฐกิจเงินตรา

           ปัจจัยด้านความจำเป็นต้องใช้เงินและความจริงที่ว่าอาชีพนี้เป็นวิธีการที่หาเงินได้ง่ายในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้การค้าประเวณีกระจายตัวออกไปอย่างแพร่หลาย เมื่อจุดหมายปลายทางคือเงินแล้ว วิธีการใด ๆ ที่ผิดถูกแค่ไหนก็ไม่สำคัญ ขอให้ได้เงินมาก็พอ ผู้ขายบริการบางคนอาจหาเงินเพื่อไปเพื่อตั้งตัว ไปเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว หรือ เที่ยว กิน ดื่ม ตามแต่เหตุผลส่วนตัวของเขา

           สิ่งที่น่าเศร้าคือความแปลกแยกเกิดขึ้นเสมอในสังคม คนเหล่านี้ต้องเก็บสิ่งที่ตนทำไว้เป็นความลับเพราะถ้าหากมีคนรู้ เขาคิดว่าเขาจะต้องถูกกีดกันอกจากสังคมเป็นแน่แท้ การไม่บอกเพื่อน ๆ เพื่อนร่วมงานประจำ ไม่บอกครอบครัว เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความแปลกแยก ที่เขาไม่สามรถเข้ากับบรรทัดฐานของสังคมได้

           สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการที่จะบอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี เพราะแท้จริงแล้วสังคมนี้ไม่ได้มีแค่สีขาวหรือสีดำ และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ เราก็จะต้องอยู่ในสังคมทุนนิยมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่มนุษย์ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องเงินเรียกได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมของสังคม เป็นผลลัพธ์ที่ทุกคนต่างผลิตขึ้นมาและยากจะแก้ไขไม่ต่างกับการติดอยู่ใน "กรงเหล็ก" ที่ไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้

           ท้ายที่สุดแล้ว เราจึงควรหันกลับมามองสังคมที่เราอยู่นี้กันเสียใหม่ สิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็นอยู่ทุกวันนั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปตามการเวลา ปัญหาการค้าประเวณีเองก็เช่นกัน การแก้ปัญหานี้จึงไม่ใช่การเพิกเฉยต่อสังคมกลุ่มเล็ก ๆ เหล่านี้ แต่พวกเราควรเริ่มตะหนักถึงคุณค่าของกันและกันมากขึ้น คุณค่าที่บางอย่างเช่นเงินซื้อไม่ได้ คุณค่าที่อาจจะเพิ่มแค่เล็กน้อยแต่ไม่แน่ว่าจะนำการเปลี่ยนแปลงให้สังคมสมัยใหม่ที่ดูไร้จิตใจนี้ กลับมาแน่นแฟ้นและเป็นปึกแผ่นเช่นแต่ก่อน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
คนสีเทา (@badboy123)
ผมคนนึงที่อยู่แวดวงนี้ตั้งแต่17ปีแต่ไม่ได้ทำทุกวัน ยอมรับว่าสมัครใจมาเอง เป็นคนใจง่ายชักจูงง่ายชอบเชื่อใจ โดนเพื่อนที่ขายบริการหลอกให้ไปเป็นเพื่อน ถึงหน้างานก็เจอผู้ชายมีอายุรออยู่ เขาบอกว่าจะให้เงินถ้าถอดเสื้อผ้าเต้นให้เขาแล้วต้องดูแลเขาและป้อนน้ำป้อนขนมให้ชายแก่คนนั้น และผมก็ได้เงินมาใช้แบบง่ายๆ ตอนแรกๆก็ไม่มีอะไร จนผู้ชายคนนี้จะให้ผมและเพื่อนไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งนึง เขาบอกให้ผมทำแบบนั้นหล่ะเดี๋ยวก็ได้เงินมาใช้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็เลยไป ทางร้านเขาให้ผมอยู่หน้าร้านมีเสื้อผ้าใส่และป้ายชื่อ ที่นั้นมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จนมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาและรับผมไปและต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับผม แต่ผมไม่ใช่เกย์แต่ก็ยอมไปผมเจ็บปวดแต่เขาให้ทานยาและก็ไม่รู้สึกเจ็บอีกเลยข่วงแรกๆผมก็มีลูกค้ทั้งชายหญิง จนเพื่อนของผมมีแขกพาไปอยู่ด้วยกันตลอดไป จนผู้ต้องการหยุดเรื่องนี้เพราะกลัวอยู่คนเดียวไม่ได้พึ่งตั้งสติได้
จนไปได้ไม่กี่อาทิตย์ก็ต้องกลับมาต่อ ไม่มีเงินใช้ไม่มีงานทำ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง มันเข้าแล้วออกไม่ได้เลยจนตอนนี้อายุ23แล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผู้มาขายบริการทุกคนที่พวกเขามาเพราะความเดือดร้อนทั้งนั้น มันเป็นอาชีพทางเลือกสุจริต ไม่เดือดร้อนใครทุกคนย่อมมีปัญหา และไม่ต้องการคำดูถูก พวกเราล้วนตัวสะอาดและป้องกันทุกครั้ง ประเทศไทยยอมรับได้แล้วเถอะ ทำให้ถูกกฎหมายsexworkerแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งความรู้และคติความคิด