"คุณต้องการให้สิ่งของสำคัญชิ้นนั้นเป็นอะไร"

หากมีของวิเศษชิ้นหนึ่งที่คุณเฝ้าตามหามันมาตลอดทั้งชีวิต แค่คุณขยิบตาเพียงหนึ่งครั้ง สิ่งของสิ่งนั้นก็จะพลันปรากฏขึ้นมาตรงหน้าได้อย่างไม่มีเงื่อนไข

เพียงแค่การรอคอยไม่อาจทำให้การค้นพบสิ่งของวิเศษนั้นเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน เราจึงต้องออกจากบ้านเพื่อเดินทางท่องไปยังโลกหล้าที่กว้างใหญ่
การเดินทางทำให้เราได้ค้นพบมุมมองชีวิตที่แปลกใหม่ และบางครั้งก็ทำให้เกิดความคิดที่แตกต่างออกไปจากเดิม คำตอบที่ได้พบเห็นตามทางที่ผ่านจึงมีทั้งใช่และไม่ใช่ปะปนกัน

ยิ่งออกเดินทาง เราจึงค้นพบว่าการใช้ชีวิตนั้นไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด ชีวิตจะออกเคลื่อนไปข้างหน้าได้ก็ต่อเมื่อเราสังเกตเห็นจุดหักเหในชีวิต การเคลื่อนที่ออกจากตัวกลางที่แตกต่างจะทำให้เราได้เรียนรู้ความหมายของชีวิตจากประสบการณ์ที่ผันเปลี่ยน และโจทย์คำถามที่ท้าทายก่อนการเปลี่ยนแปลง ก็มักจะผลุดขึ้นมาในช่วงเวลาอันหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นเสมอ

หากการตัดสินใจครั้งนั้นเป็นคำตอบที่ใช่ การก้าวกระโดดในครั้งถัดไปจะพาตัวเราทะยานออกไปได้ไกลยิ่งกว่าเดิม

ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เคยมีคำตอบที่ใช่มากมายเกิดขึ้นกับตัวเรามาแล้ว บางครั้งที่เรายังมองมันไม่เห็น เพราะว่ามันอาจเป็นเพียงจุดหักเหจุดเล็กๆที่เรามองข้ามมันไป แต่เมื่อใดที่ได้หันกลับไปมองเห็นความสำคัญที่จุดนั้นอีกครั้ง เราต่างหากที่จะต้องชื่นชมกับความสำเร็จในวันนั้นกับคำตอบได้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นไปตลอดกาล

หากความทรงจำในกล่องเก่าเก็บยังไม่ชำรุด ความสำเร็จที่เกิดจากการหยั่งเท้าออกจากฐานที่มั่นได้เคยเกิดขึ้นกับเรามาแล้ว

ในวันที่ลำแข้งของเรายังอ่อนแอ อีกทั้งกระดูกข้อเท้าที่ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ การยืนทรงตัวรับน้ำหนักของร่างกายยังคงเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะสั่งการให้ร่างกายฝืนกระทำ แต่ในเวลานั้นเรามิได้เกรงกลัวต่อความผิดพลาด เด็กน้อยจึงแค่ก้าวเท้าข้างหนึ่งออกไปโดยปราศจากข้อแม้ใดๆ

เสียงปรบมือจากผู้คนที่ต่างเฝ้ารอคอยการก้าวเท้าของเด็กน้อยคนหนึ่งดังสนั่นขึ้น เมื่อพวกเขาได้เห็นท่อนขาอันอ่อนโยนยังคงยืนหยัดยันพื้นอยู่ได้
ความสำเร็จของก้าวแรกในวันนั้น อาจเป็นเพียงจุดเล็กๆที่เด็กน้อยคนหนึ่งเคยมองข้าม ทว่าจุดเล็กๆนั้นเป็นดั่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในสายตาของผู้คนข้างกายที่เฝ้ารอการออกเดินทางของเรา

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ สองเท้าของเราได้ก้าวผ่านเรื่องราวอันน่าจดจำมาแล้วนับไม่ถ้วน โชคดีที่วันนี้เราทุกคนยังเหลือเวลาที่มีค่ามากมาย เพื่อหันกลับมาคิดทบทวนถึงบทสรุปจากการเดินทางที่เพิ่งผ่านพ้นไป

การเดินทางที่แสนยาวไกลอาจมีบางครั้งที่ทำให้นักเดินทางเกิดอาการลังเล การพลัดหลงออกนอกเส้นทางหลักจึงมักจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แต่ในทันทีที่ได้นักเดินทางตั้งเป้าหมายของชีวิตให้ชัดเจนขึ้น เป้าหมายจะนำทางให้เราเดินกลับมาสู่เส้นทางสายเดิมอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นนักเดินทางจะออกก้าวไปยังเป้าหมายที่วาดหวังไว้โดยไม่ลังเล

ระยะทางจากจุดกำเนิดจนถึงวันนี้ ล้วนถูกตีค่าเทียบเท่ากับเวลาที่ผ่านเลยไป
ตัวเลขบนหน้าปัดอายุถูกนำมาใช้วัดค่าประสบการณ์ ค่าความสำเร็จ หรือแม้แต่คุณค่าของชีวิต
ริ้วรอยและบาดแผลที่เกิดจากการผ่านสมรภูมิชีวิต ยังคอยบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านพ้นมาได้อย่างดี แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าในช่วงหนึ่งชีวิตจะไม่เคยพบคำตอบที่พลาดผิด จนทำให้ชีวิตของเราต้องไถลออกไปนอกเส้นทางที่ปรารถนาจริงๆ

เราต่างโหยหาอดีตที่ทำหล่นหาย อีกทั้งพยายามขวนขวายอนาคตที่มิอาจคาดเดา ทว่ารอยต่อระหว่างช่วงเวลาแห่งความลังเลสงสัยจักสิ้นสุดลง เมื่อเราเดินทางกลับมาสู่ปัจจุบัน
ไม่มีมาตราใดในโลกจะชี้วัดความสำเร็จจากการเดินทางได้ดีไปกว่ามาตรฐานที่นักเดินทางเป็นผู้กำหนดด้วยตัวเอง
ไม่มีนักเดินทางคนไหนจะรู้ตำแหน่งหรือจุดยืนที่แน่ชัดของตัวเอง จนกว่าเราจะเริ่มเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งปัจจุบันอีกครั้ง

แม้ไม่อาจกล่าวยืนยันได้ว่า ชีวิตของคนเราจะเที่ยงตรงได้เหมือนดั่งไม้บรรทัด อีกทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยวก็อาจจะนำพาให้เราลุ่มหลงไปกับสิ่งล่อตาล่อใจ ทว่าสเกลบนไม้บรรทัดจะช่วยเป็นดั่งหลักให้จับยึดไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง

บางครั้งที่เราเดินเถลไถลออกนอกเส้นทาง เพียงเพราะเรายังไม่มั่นใจในความฝันนั้น บางครั้งเราอาจต้องการเพียงใครสักคนที่มีความเชื่อในเรื่องเดียวกัน และพร้อมที่จะสนับสนุนความฝันนั้นให้กลายเป็นความจริง

ในเมื่อนักเดินทางต่างมีทางเดินที่แตกต่าง เส้นทางที่ผ่านไปจะสลักสำคัญอะไรไปกว่า การได้ค้นพบจุดยืนของตัวเองในตำแหน่งปัจจุบัน

เพื่อค้นหาระยะห่างระหว่างความฝันกับความจริง มาตราส่วนบนไม้บรรทัดจึงจำเป็นต้องนำมาใช้วัดระยะทางบนตำแหน่งของชีวิต หากพบว่าเป้าหมายยังอยู่ไกล เราคงต้องรีบหาเส้นทางเดินสายใหม่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้นก่อนที่เวลาจะหมดลง

ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับนักเดินทางผู้มุ่งมั่นจะพิชิตยอดเขาแห่งความสำเร็จ

เมื่อค้นพบทางเดินที่ต้องการแล้ว นักเดินทางจะพาตัวเองกลับมายืนอยู่บนจุดที่มั่นใจได้อีกครั้ง ระยะห่างที่วัดค่าได้ขณะนี้จะเริ่มบีบตัวแคบลงจนเห็นเป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
เมฆหมอกที่เคยบดบังทัศนียภาพเบื้องหน้ากำลังคลี่คลายลง เส้นทางสายใหม่กำลังเปิดทางทอดยาวให้การเดินทางครั้งนี้น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม

การเดินทางครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ความเชื่อมั่นที่พกพามาเต็มแน่นกระเป๋า จะคอยผลักดันให้การเดินทางในครั้งนี้ ไปถึงยังจุดหมายอย่างไม่ไขว้เขว

ระยะทางขึ้นสู่ยอดเขา จะคอยโอบกอดความเหนื่อยล้าเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นความกล้าอย่างไม่หวั่นเกรง บนยอดภูเสียดฟ้าเราจะร่วมบรรเลงบทเพลงแห่งความภาคภูมิใจใต้แสงดาว
ประตูแห่งขุนเขาบานใหญ่กำลังจะเปิดออก เพื่อโอบล้อมรับการกลับมาเยี่ยมเยือนของนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่

แม้ทางเดินข้างหน้าจะยาวไกลสักเพียงใด ก็บั่นให้สั้นลงได้ด้วยก้าวแรก
และการเดินทางไกลในครั้งนี้จะมีหัวใจของเรานำทาง