[—— หลังจบ LR Fes 2nd Round]
[—— บริษัทดัคริเวอร์]
ยูโตะ : —— คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องครั้งนี้คือ Argonavis ครับ เพราะฉะนั้น…ถ้าจะลงโทษล่ะก็ลงโทษแต่พวกเราเถอะครับ
เฟลิกซ์ : ไม่ได้สิ พวกเราก็ถือว่าร่วมทำผิดด้วยตั้งแต่ตอนที่ตอบตกลงแล้ว จะให้ Argonavis รับโทษคนเดียวได้ยังไงกัน
โคเฮย์ : เห็นด้วยครับ เพราะพวกเราก็ร่วมมือโดยที่เตรียมใจกันไว้อยู่แล้ว
เคนตะ : ถ้าอย่างนั้น จะให้วงเราเป็นวงเดียวที่ไม่ได้รับโทษก็คงไม่ได้สินะครับ
ประธานอุจิกาวะ : …เอาเป็นว่าทางเราตัดสินใจแล้วว่าถึงจะจัดการโหวตในสถานการณ์แบบนี้ไปก็คงยากที่จะได้ผลโหวตที่ถูกต้อง
เลยจะขอให้เฟสในครั้งนี้เป็นโมฆะไป
เร็น : ………เอ๊ะ!?
ประธานอุจิกาวะ : เรื่องการกระทำของพวกเธอกับทิศทางของเฟสต่อจากนี้จะประกาศผ่านการถ่ายทอดสดภายในวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็มีเท่านี้ล่ะ
ชู : ……กลับได้รึยัง?
ประธานอุจิกาวะ : …แกน่ะอยู่ต่อซะ
—————————————
ชู : อะไรล่ะ…จะเทศน์กันรึไง?
ประธานอุจิกาวะ : ……ทำอะไรตามใจตัวเองเชียวนะ
ชู : ……หา?
ประธานอุจิกาวะ : คิดจะใช้อุบายวิธีนี้รึไง? แกจะทำให้ฉันต้องหมดหวังไปถึงไหนกัน
ชู : เห… งั้นก็แปลว่านี่คิดว่าตัวเองโดนเล่นงานเข้าแล้วสินะ? เพิ่งเคยเห็นป๊ะป๋าทำหน้าแบบนั้นครั้งแรกเลยนะเนี่ย
ประธานอุจิกาวะ : …หลังจากนี้บริษัทดัคริเวอร์จะไม่แบ็คอัพให้กับ εpsilonΦ อีกต่อไป
และจะเลิกให้การสนับสนุนแกในทุกอย่าง ที่เหลือจะไปเข้าบริษัทค่ายเพลงอะไรก็เป็นเรื่องของแก
ชู : อ้าว? ไม่ได้จะให้ยุบวงหรอกเหรอ?
ประธานอุจิกาวะ : ช่างแกสิ ฉันไม่เกี่ยวแล้ว
ชู : หืม…
—————————————
ยูโตะ : เหนื่อยชะมัดดดด!!
วาตารุ : เป็นวันที่หนักหน่วงเลยเนอะ… แถมสุดท้ายประธานบริษัทดัคริเวอร์ยังมาเองเลยอีก…
บันริ : มีหลายเรื่องเลยที่ต้องทำนอกจากเรื่องไลฟ์… ถึงจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งก็เถอะ…
ริโอะ : แต่ก็ดีแล้วที่ผ่านไปด้วยดี
เร็น : อื้ม…สุดยอดมากๆ เลย! ทุกวงเลย…εpsilonΦ ที่แสดงแค่เพลงเดียวเองก็ด้วย…!
แต่ว่า…
ยูโตะ : หรือว่า…จะติดใจเรื่องที่เฟสรอบนี้เป็นโมฆะไป?
เร็น : เพราะผมเป็นคนเสนอเองด้วย…พอเฟสต้องมาเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเพราะแบบนั้นก็เลย…
ริโอะ : …ไม่ใช่แบบนั้นหรอก นานะโฮชิ
เร็น : เอ๊ะ…?
ริโอะ : นี่เป็นสิ่งที่พวกเราคุยกันและตัดสินใจเองว่าจะทำด้วยกัน วงอื่นๆ เองก็คงคุยกันก่อนเหมือนกัน
ไม่เกี่ยวหรอกว่าใครเป็นคนเสนอขึ้นมา ตราบใดที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะทำ ความรับผิดชอบนั้นก็จะไปตกที่ตัวเอง
เร็น : ………
ยูโตะ : …แล้วก็ ถึงเฟสรอบนี้จะเป็นโมฆะไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าเฟสรอบนี้จะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นสักหน่อยนี่?
อย่างน้อยๆ…ฉันก็จะไม่มีวันลืมเฟสในวันนี้ไปเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นสเตจของวงอื่น หรือสเตจของพวกเราเอง
วาตารุ : นั่นสินะ…ผมเองก็คิดว่าดีแล้วที่ได้ทำ
ริโอะ : อา ทำเต็มที่แล้วนี่นะ
บันริ : อื้ม ทุกคนก็ดูสนุกกันด้วย ตัวเฟสเองก็ประสบความสำเร็จด้วยนี่!
ยูโตะ : เพราะฉะนั้นฉันไม่เสียใจกับสิ่งที่ทำไปหรอก ทุกคนเองก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นนายก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ เร็น
เร็น : ………อื้ม
ตอนที่ 2 : แสงสาดส่อง
[—— ไม่กี่วันต่อมา]
ประธานอุจิกาวะ : —— ในครั้งนี้ได้เกิดเรื่องที่พวกเราเองก็ไม่คาดคิดขึ้น จนสุดท้ายได้ก่อให้เกิดความความสับสนต่อทุกคน ทางเราต้องขออภัยจริงๆ ครับ
หลังจากได้ทำการปรึกษาหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในครั้งนี้จึงจะขอไม่ทำการจัดอันดับโดยใช้การโหวต และขอให้ 2nd Round ถือเป็นโมฆะไปครับ
ยูโตะ : โอ๊ะ เริ่มถ่ายทอดสดแล้วเหรอ
บันริ : เริ่มด้วยขอโทษเหมือนปกติเลยเหรอเนี่ย…แต่ที่สำคัญหลังจากนี้จะพูดอะไรสินะ
ประธานอุจิกาวะ : ทางเราต้องขออภัยผู้ที่ตั้งตารอผลโหวตในครั้งนี้ด้วยครับที่สุดท้ายแล้วได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเสียดายขึ้น
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้พวกเราคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปพิจารณาวิถีทางในการจัดเฟสต่อจากนี้ใหม่อีกครั้ง
ดังนั้น…ทางเราจึงตัดสินใจยกเลิกกำหนดการเดิมตั้งแต่ 3rd Round เป็นต้นไป และขอพัก LR Fes ไปก่อนชั่วคราวครับ
วาตารุ : เอ๊ะ…?
ริโอะ : พัก…ไปก่อน…?
ประธานอุจิกาวะ : พวกเราเองก็ตัดสินใจกันอย่างยากลำบากครับ แต่คิดว่าในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ทางเราต้องขออภัยทุกท่านที่คอยให้ความสนใจเฟสของพวกเรามาตลอดเป็นอย่างสูงอีกครั้งครับ
รายละเอียดและเรื่องเกี่ยวกับต่อจากนี้จะขอประกาศออกมาแบบเป็นทางการอีกครั้งในภายหลังครับ วันนี้มีเพียงเท่านี้ครับ
เร็น : ………
ยูโตะ : เดี๋ยวสิ…พักไปก่อนนี่…เท่ากับว่าเฟสจบลงแล้วเรอะ!?
บันริ : ถึงจะไม่ได้บอกแบบชัดเจน…แต่อย่างน้อยๆ ตอนนี้ก็คงไม่จัดไปอีกสักพักล่ะ…
วาตารุ : นี่คือ…บทลงโทษของพวกเราที่ทำอะไรตามอำเภอใจหรือเปล่านะ?
ริโอะ : …ก็คงรวมอยู่ด้วย
เร็น : …………ไม่ได้
ยูโตะ : …เร็น?
เร็น : ไม่ได้…ไม่ได้! แบบนั้นต้องไม่ได้เด็ดขาด!
มาตั้งขนาดนี้แล้วแท้ๆ… ทั้งที่ในที่สุดก็เข้าใจความหมายของการ “สู้” แล้วแท้ๆ…!
อีกแค่นิดเดียว…อีกแค่นิดเดียวก็จะรู้แล้วว่า “บางสิ่งที่สัมผัสได้จากเฟส” คืออะไรแท้ๆ!
แต่กลับ…ต้องมาหยุดอยู่ตรงนี้…
ทั้ง 4 คน : ………
เร็น : ถ้าต้องกลายเป็นแบบนี้ไปล่ะก็…สู้ไม่บอกว่า “อยากสู้กับ εpsilonΦ”…
ยูโตะ : …ทำไมถึงได้คิดจะแบกรับไว้คนเดียวทันทีเลยเล่า
เร็น : เอ๊ะ……?
ยูโตะ : ทำไม…ถึงได้คิดจะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวเล่า? ทำไมถึงได้พยายามปฏิเสธความเอาแต่ใจของตัวเองกัน!?
เอาแต่ใจ…ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่? ให้คนอื่นแบกรับไว้บ้างก็ได้นี่!?
เดิมทีนี่ก็เป็นวงที่เกิดขึ้นมาเพราะความเอาแต่ใจอยู่แล้วนี่? เพราะอยากให้ใครต้องมองตัวเองใหม่บ้างล่ะ——
เพราะอยากให้ใครหันมามองตัวเองบ้างล่ะ——
เพราะอยากตามหาสิ่งที่จะทำให้ตัวเองมีไฟขึ้นมาได้บ้างล่ะ——
มาเข้าร่วมวง…เพราะเป้าหมายคือเงินเองก็มี
เพราะยอมรับเหตุผลเหล่านั้นทั้งหมดโดยที่ไม่ปฏิเสธเหตุผลไหนเลย… จากนั้นเพื่อนพ้องที่คอยทำวงดนตรีไปด้วยกันถึงเพิ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ความหมายที่จะทำต่อไปเองก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ… จนมาได้ถึงที่ที่ถ้าตัวเองคนเดียวก็คงไม่สามารถมาถึงได้
แล้วก็…เอ่อ………
ริโอะ : …ดูเหมือนจะใกล้โอเวอร์ฮีตแล้วสินะ
บันริ : สำหรับยูโตะคุงก็ถือว่าพยายามแล้วล่ะนะ
ยูโตะ : อย่าทำเป็นเรื่องตลกสิ! เอ่อ— สรุปแล้ว…ที่ฉันอยากพูดน่ะคือ…
วาตารุ : …จะบอกประมาณว่า “ยังมีพวกเราอยู่” สินะ?
ยูโตะ : ใช่เลย นั่นแหละ!
ถึงเฟสจะจบไปแบบชั่วคราว…แต่ Argonavis น่ะไม่จบลงหรอกนะ!
มันยังเร็วไปน่าที่จะมายอมแพ้แล้วล้มเลิกความเอาแต่ใจของนาย…ของพวกเรานะ เร็น!!
ตอนที่ 3 : จะไม่ย้อนกลับไป
วาตารุ : —— ครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
บันริ : เป็นไงบ้าง รู้อะไรบ้างไหม?
วาตารุ : ไม่ได้ถามเรื่องรายละเอียดต่อจากนี้ของเฟส แต่ดูเหมือนว่าเรื่องพวกเราก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเป็นพิเศษนะ
เรื่องแชร์เฮาส์กับซัพพอร์ตด้านสตูดิโอก็จะมีให้ต่อไป เรื่องมหาลัยก็ไปเรียนได้ตามปกติ ไลฟ์ก็ให้จัดได้ตามใจ
บันริ : หืม… ในเรื่องสภาพแวดล้อมด้านดนตรีก็ถือว่าไม่เลวน่ะนะ
ริโอะ : อย่างนี้นี่เอง…แสดงว่าทางผู้จัดก็ไม่ได้คิดจะถึงขั้นยกเลิกเฟสไปเลยสินะ?
ยูโตะ : จะเป็นยังไงกันนะ…อย่างน้อยๆ ในตอนนี้นอกจากเรื่องเฟสก็ทำกิจกรรมอื่นได้ปกติสินะ
วาตารุ : เห็นว่าเรื่องทิศทางของกิจกรรมต่อจากนี้ก็ให้เป็นเรื่องของแต่ละวงน่ะ จะอยู่ที่โตเกียวแบบนี้ต่อไปก็ได้——
หรือจะกลับบ้านเกิดสักพัก แล้วไปทำกิจกรรมที่นั่นก็ได้เหมือนกัน
ริโอะ : มีทางเลือกว่าจะให้กลับฮาโกดาเตะด้วยสินะ……
ยูโตะ : …ควรเอายังไงกันนะ
เร็น : อยู่ที่นี่ต่อกันเถอะ ที่โตเกียว
บันริ : …ตัดสินใจทันทีเลยนะ เร็นคุง
เร็น : ก็การต่อสู้ที่นี่…ยังไม่จบลงสักหน่อย
ถ้าอยู่ที่นี่…ถ้าอยู่ที่โตเกียวต่อ จะต้องได้ยืนบนสเตจเดียวกับวงอื่นๆ อีกแน่
ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่านั่นจะเป็น LR Fes หรือเปล่า… แต่ถ้าทำได้จริงล่ะก็ ผมก็อยากอยู่ที่นี่ต่อไป
ยูโตะ : …ฉันก็เหมือนกัน
ฉันอยากก้าวไปข้างหน้า ถึงจะสักนิดก็ยังดี ไม่ว่าจะในฐานะวงดนตรี หรือในฐานะมือกีต้าร์
เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้น…ก็ควรอยู่ที่นี่ต่อหรือเปล่านะ
วาตารุ : …อื้ม
ผมเองก็เหมือนกัน อยากซ้อมแล้วก็ไลฟ์ให้เยอะๆ… ทั้งเรื่องเบสแล้วก็เขียนเนื้อเพลง อยากทำให้ได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
และถ้าอย่างนั้นก็คิดว่าที่โตเกียวนี่แหละดีที่สุดแล้ว
ริโอะ : เห็นด้วย
มาขนาดนี้แล้ว…คงลืมความตื่นเต้นของเฟสไม่ลงแล้วล่ะ เพราะเป็นสถานที่ที่ทำให้เอาจริงได้ขนาดนั้น
ถ้าอยู่ที่นี่ล่ะก็…จะต้องมีโอกาสนั้นอีกแน่
บันริ : แน่นอนนี่นาว่านี่ก็ต้องเห็นด้วยอยู่แล้วน่ะ!
ยังไงเอาโตเกียวเป็นฐานที่ตั้งนี่แหละถึงจะมีโอกาสได้เมเจอร์เดบิวต์มากกว่านี่นะ
ก็ไม่ได้คิดว่ากลับไปทำกิจกรรมที่ฮาโกดาเตะไม่ดีอะไร แต่ไหนๆ แล้วก็อยากค่อยกลับไปให้เห็นตอนที่พวกเราเติบโตมากขึ้นเท่าตัวแล้วน่ะ!
ยูโตะ : …เป็นเอกฉันท์เลยสินะ
วาตารุ : ไม่ได้ตกลงกันได้เร็วแบบนี้มานานแล้วเนอะ
บันริ : ทั้งที่ตอนคุยกันเรื่องจะให้ εpsilonΦ มาเข้าร่วมเฟสนี่เถียงกันไปตั้งขนาดนั้นเนอะ
ริโอะ : ถึงทั้งตอนนั้นและตอนนี้ก็มีความเห็นไม่ตรงกันก็เถอะนะ
ยูโตะ : …เรื่องนั้นน่ะไม่เป็นไรหรอก! ต่างคนต่างก็มีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป คิดเห็นไม่ตรงกันน่ะเรื่องปกติ
ถึงอย่างนั้นก็อยู่บนเรือลำเดียวกัน แล้วก็มุ่งไปสู่ที่หมายเดียวกัน นั่นแหละ…คือ Argonavis ล่ะ!
วาตารุ : …นั่นสินะ
บันริ : พูดได้ดีนี่ ลีดเดอร์!
ริโอะ : หึๆ…
เร็น : …อื้ม!
ยูโตะ : ดีล่ะ! งั้นไหนๆ แล้วก็มาเตรียมการสำหรับไลฟ์ครั้งต่อไป…อ๊า!!
วาตารุ : ทำไมน่ะ?
ยูโตะ : จะว่าไปเมื่อไม่นานมานี้มีคนโทรมาขอให้ช่วยไปไลฟ์ให้ด้วย…
ริโอะ : ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยนี่ จากใครน่ะ?
ยูโตะ : คือว่า…จากมาสเตอร์น่ะ…มาสเตอร์ที่ “Submariner”…
บันริ : มาสเตอร์นี่…หมายถึงมาสเตอร์ที่ฮาโกดาเตะน่ะเหรอ? ทั้งที่เพิ่งคุยกันไปว่าจะอยู่โตเกียวต่อน่ะนะ!?
ยูโตะ : แต่ในกรณีนี้…คือเหมือนแค่ไปเดินทางกันไง…แบบว่าคนละความหมายกับกลับไป…
เร็น : ไปกันเถอะ!!
ทั้ง 4 คน : เอ๊ะ?
เร็น : ถ้ามีคนที่ต้องการไลฟ์ของพวกเราอยู่ล่ะก็… ไม่ว่าที่ไหนก็ไปกันเถอะ!
แล้วก็…ค่อยกลับมากันอีกก็พอแล้วนี่! กลับมาที่นี่น่ะ!
ตอนที่ 4 : สิ่งที่ตัดสินใจแล้ว
[—— ไม่กี่วันต่อมา]
บันริ : อุหวา…พอไม่มีทั้งผู้ชมทั้งสตาฟแล้ว ที่นี่กว้างขนาดนี้เลยเนอะ
ริโอะ : สุดยอดเลย…ทั้งๆ ที่เพิ่งขึ้นแสดงในเฟสไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง
วาตารุ : เร็นอยากดูภาพนี้สินะ?
เร็น : เป็นแบบนั้น…หรือเปล่านะ ผมเองก็ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ขอโทษนะ
แค่อยากเห็นที่นี่…อีกสักครั้ง
ยูโตะ : ฉัน…ดีใจนะที่มาที่นี่ ทำให้คิดขึ้นมาว่าจะต้องมาไลฟ์ที่นี่อีกให้ได้เลย
วาตารุ : นั่นสินะ…ต้องมากันอีกให้ได้เลย
ริโอะ : อา ครั้งต่อไปนี่แหละจะต้องไปจนถึงที่สุดเลย…
บันริ : แน่นอนอยู่แล้ว! จะมามัวแต่อารมณ์อ่อนไหวกันอยู่ไม่ได้แล้ว!
ยูโตะ : …นั่นสินะ! เราจะต้องขัดเกลาฝีมือให้สามารถแสดงไลฟ์ที่ดีกว่านี้ขึ้นไปอีกให้ได้เพื่อวันนั้น!
วาตารุ : งั้นไปกันเลยไหม? ถึงจะยังมีเวลาจนกว่าเครื่องจะออกก็เถอะ
บันริ : อ๊ะ นี่อยากซื้อของฝากเลยอยากไปสนามบินเร็วหน่อยน่ะ!
เร็น : ผม…ขออยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อยได้ไหม?
ริโอะ : ยังมีอะไรอีกเหรอ?
เร็น : …อยากจะดูไว้อีกสักหน่อยน่ะ
ยูโตะ : งั้นเหรอ…งั้นพวกเรานำไปก่อนนะ มาให้ทันเวลาเครื่องออกล่ะ
เร็น : อื้ม
—————————————
เร็น : (ยังรู้สึกเหมือน…ความเร่าร้อนยังหลงเหลืออยู่เลย… ความเร่าร้อนนั้น ที่สัมผัสได้จากที่นี่)
(ความเร่าร้อนนั้น…ที่สัมผัสได้จากเฟสที่เคยดูตอนเด็กๆ…และ Des Fes)
(ไม่ว่ายังไง…ก็จะมายืนที่นี่อีกครั้งให้ได้——)
ชู : ยังอาวรณ์ไม่เลิกเลยนี่ พี่ชาย
เร็น : …เอ๊ะ?
ชู : ตอนแรกทำมาเป็นบอกว่า “ไม่รู้เหตุผลที่จะเข้าร่วม” แท้ๆ เปลี่ยนไปเยอะเลยนี่?
เร็น : ชู……คุง?
ชู : ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าอย่างกับเห็นผีสิ
เร็น : ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?
ชู : ผมไม่ใช่เหรอที่ต้องเป็นคนถามน่ะ? …แต่ผมก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรยิ่งใหญ่หรอกนะ
แค่ที่นี่จะเริ่มรื้อถอนวันพรุ่งนี้เลยมาดูไว้สักหน่อยเป็นครั้งสุดท้ายน่ะ
เร็น : งั้นเหรอ?
ชู : อ้าว ไม่รู้หรอกเหรอ? จะปล่อยสเตจใหญ่ยักษ์แบบนี้เอาไว้ตลอดไปทั้งๆ ที่ไม่ใช้งานก็ไม่ได้น่ะสิ
เร็น : ………
ชู : อะฮะ ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว อยู่ต่อหน้าผมแล้วทำหน้าเศร้าตลอดเลยเนอะ
เร็น : ไม่ใช่เศร้า…แต่เป็นเจ็บใจต่างหาก
ชู : หา?
เร็น : ที่ไม่ได้จัดเฟส… ที่ไม่ได้ทำให้ผู้ชมสนุกสนานกัน——
ที่ไม่ได้สู้…กับชูคุงหรือวงอื่นๆ
ชู : …พี่ชายอยากสู้เหรอ? กับวงด้วยผมน่ะ
เร็น : คิดว่า…ใช่นะ
ชู : อะไรกัน ไม่เด็ดขาดเลยนะ… หืม อย่างนี้นี่เอง ถ้างั้น…ตัดสินใจแล้วล่ะ
เร็น : ตัดสินใจ…ว่าอะไรเหรอ?
ชู : ครั้งต่อจะทำให้พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ให้ดู
เร็น : เอ๊ะ? งั้นหมายความว่า……จะยังทำ εpsilonΦ ต่อ——
ชู : ใช่แล้ว
จะทำต่อไป
ตอนที่ 5 : ละครหมู่คณะที่ตัดผ่านกัน
เร็น : จะทำ εpsilonΦ ต่อไป…ค่อยยังชั่ว…! ถ้าอย่างนั้นก็ต้องได้ขึ้นสเตจด้วยกันอีกที่ไหนสักแห่งแน่!
ถ้าอยางนั้นที่ให้ εpsilonΦ ขึ้นเฟสกัน…ก็ไม่ใช่เรื่องผิดพลาด…!
ชู : คึกอะไรอยู่คนเดียวน่ะ แต่ความจริงที่ว่าจนกว่า LR Fes จะกลับมาจัด พวกเราก็จะไม่มีที่ไหนให้สู้กันก็ไม่เปลี่ยนไปหรอกนะ?
แล้วถ้าสุดท้าย LR Fes ไม่กลับมาจัดทั้งๆ แบบนี้จะเอายังไงล่ะ?
เร็น : เรื่องนั้น…
??? : อะไรกัน เรื่องนั้นไม่เห็นจำเป็นต้องเป็นที่ LR Fes เลยนี่?
ฟูตะ : ใช่แล้ว! ก็ไลฟ์กันเรื่อยๆ ไปเลย!
ชู : เอ๋…?
เร็น : เฟลิกซ์ซัง ฟูตะคุง… ทำไมมาอยู่ที่นี่กันล่ะ!?
ฟูตะ : ก็ได้ยินว่าจะรื้อถอนงานเลยมาดูไว้เป็นครั้งสุดท้ายน่ะ แล้วก็บังเอิญมาเจอกับเฟลิกซ์ซัง!
เฟลิกซ์ : ผมเองก็มาด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นแหละ เพราะอยากสัมผัสบรรยากาศของสถานที่ที่ค่อยๆ เลือนหายไปหลังจากความเร่าร้อนนั้นได้ผ่านเลยไปนี่นะ
ไม่นึกเลยว่าพวกเธอจะมาที่นี่ก่อน
เร็น : คือว่า…ที่เมื่อกี้บอกว่า “ไม่เห็นจำเป็นต้องเป็นที่ LR Fes เลย” นี่…?
ฟูตะ : เมื่อกี้คุยกับเฟลิกซ์ซังมาน่ะ! ว่าอยากประชันวงดนตรีกันจังเลยเนอะ!
เฟลิกซ์ : แล้วนั่นก็ไม่เป็นต้องเป็นไลฟ์ Two-man น่ะ Argonavis หรือ εpsilonΦ จะเข้าร่วมด้วยก็ได้
ชู : ทำอะไรตามใจแบบนั้น…มาจัดกันเองโดยไม่ผ่านดัคริเวอร์จะได้เร้อ?
เฟลิกซ์ : ทางบริษัทให้แต่ละวงจัดการเรื่องไลฟ์ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเราไม่ใช่เหรอว่าจะให้วงไหนเข้าร่วมบ้าง?
เร็น : ถ้าอย่างนั้น…ก็จะได้สู้กันอีกน่ะสิ! กับทุกคน!!
อ๊ะ…แต่ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเรียกไจโรด้วย…
ฟูตะ : งั้นก็ขอกับเจ้าตัวไปเลยสิ!
เร็น : กับเจ้าตัว…?
เฟลิกซ์ : เอ้า ออกมาให้เห็นหน้าสักทีจะดีไหม?
??? : ………ชิ
เร็น : นายูตะคุง!? เธอเองก็มาด้วยเหรอ!?
เฟลิกซ์ : เจอกับเขาที่เกทเหมือนกันน่ะ ดูเหมือนจะมาด้วยเหตุผลเดียวกับพวกเราสินะ
นายูตะ : ไม่ใช่เฟ้ย… อย่ามาเหมารวมกับพวกแก
อะไรที่จบไปแล้วน่ะจะเป็นยังไงก็ช่าง…แค่คิดว่าถ้ามาที่นี่น่าจะนึกออกก็เท่านั้นแหละ
อิมเมจสำหรับแต่งเพลงต่อไปน่ะ
ฟูตะ : สมแล้วจริงๆ! นายูตะเริ่มเดินหน้าต่อแล้วสินะ! งั้นจะแพ้ไม่ได้แล้ว!
เร็น : ……มาไลฟ์ด้วยกันเถอะ! ไจโรเองก็มาประชันวงดนตรีกันเถอะ!
นายูตะ : ……ตั้งแต่พรุ่งนี้พวกเรามีทัวร์ทั่วประเทศ เพื่อทำให้คนทั่วญี่ปุ่นรู้จักไจโรยังไงล่ะ
เพราะงั้นคงไม่ว่างทำอะไรแบบนั้นไปอีกสักพัก
เฟลิกซ์ : ถ้าอย่างนั้นเราเองก็มีแพลนจะไลฟ์ที่นาโกย่ากับโตเกียวอีกหลายครั้งเลย เพราะฉะนั้นเลยจัดประชันวงทันทีเลยไม่ได้เหมือนกัน
คิดว่าจะยึดเอาทั้งสองที่เป็นฐานที่ตั้งแล้วฝังรากโลกของพวกเราไว้ในทั้งสองที่น่ะ
ฟูตะ : อ๊ะ จะว่าไปพวกเราเองก็จะเข้าร่วมเทศกาลดนตรี Ska ที่คิจิโจจิกันล่ะ!
อาจจะไม่ว่างไปสักพัก แต่จะต้องประชันวงดนตรีกันให้ได้เลย!
ชู : ทุกคนดูจะยุ่งกันเชียวนะ… พวกเราเองก็ว่าจะจัดการถ่ายทอดสดกันไปสักพัก——
แต่ถ้าว่างตรงกันก็เอาด้วยก็ได้
เร็น : งั้นเหรอ…ถ้าอย่างนั้นอยากให้สัญญากันตรงนี้!
ว่าจะ…กลับมาสู้กันต่อให้ได้!
ฟูตะ : เอาจริงๆ นี่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายของการสู้กันอยู่ดี…แต่ไลฟ์ที่ได้จัดกับทุกคนน่ะสนุกมากเลย!
เพราะฉะนั้นฉันสัญญา!
เฟลิกซ์ : ผม…ยังมีสิ่งที่อยากวาดฝันไปพร้อมกับวงอยู่ เพราะฉะนั้นจะให้มาจบแบบค้างคาอยู่แบบนี้ไม่ได้
ผมสัญญา
ชู : ให้ทำอะไรไฟแรงเชียวนะ? …แต่ก็ น่าสนุกดีน่ะนะ
จะสัญญาก็ได้
เร็น : นายูตะคุง……
นายูตะ : ถ้าคิดจะมาขวางทางกันล่ะก็…จะขยี้ให้แหลกไปซะให้หมด แค่นี้ล่ะ
เร็น : ……อื้ม!
ต้องมายืนบนสเตจเดียวกันอีกให้ได้เลย! …พร้อมกับทุกคน!!
—————————————
เร็น : สักวัน——
เฟลิกซ์ : ที่นั่นจะไม่มีทั้ง “ผู้ชนะ” หรือ “ผู้แพ้”
นายูตะ : จะมีแต่ “เหตุผล” และ “การเตรียมใจ” ของแต่ละคนเท่านั้น
ฟูตะ : ที่นั่นจะไม่มีทั้ง “เบื้องหน้า” หรือ “เบื้องหลัง”
ชู : ทุกคนจะเป็น “ตัวเอก” และพร้อมกันนั้นก็จะไม่มี “ตัวเอก” อยู่เช่นกัน
เร็น : แล้วพวกเรา จะมาพบกันที่สเตจแห่งคำสัญญาอีกครั้ง
เพราะเรื่องราว——
ทุกคน : ยังไม่จบยังไงล่ะ……!
*ชื่อตอนของบทนี้มาจากเนื้อเพลง「AAside」นะคะ
ไม่ว่าจะเป็น “光は差す Hikari wa sasu แสงสาดส่อง” “後戻りはしない Atomodori wa shinai จะไม่ย้อนกลับไป” “決めたこと Kimeta koto สิ่งที่ตัดสินใจแล้ว” หรือ “交差する群像劇 Kousa suru gunzougeki ละครหมู่คณะที่ตัดผ่านกัน”
ส่วนคำที่อยู่ใน “…” ตอนช่วงท้ายของตอนเองก็มาจากท่อนต่างๆ ของเนื้อเพลงเช่นกัน ดังนี้ค่ะ
ที่นั่นจะไม่มีทั้ง “ผู้ชนะ” หรือ “ผู้แพ้”
[勝者と敗者を 分かつのがモノガタリか? Shousha to haisha wo wakatsu no ga monogatari ka? สิ่งที่แบ่งแยกผู้ชนะกับผู้แพ้ออกจากกันคือเนื้อเรื่องงั้นหรือ?]
จะมีแต่ “เหตุผล” และ “การเตรียมใจ” ของแต่ละคนเท่านั้น
[退けぬ'理由'と'覚悟'抱えて Nokenu ‘riyuu’ to ‘kakugo’ kakaete แบก ‘เหตุผล’ และ ‘การเตรียมใจ’ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เอาไว้]
ที่นั่นจะไม่มีทั้ง “เบื้องหน้า” หรือ “เบื้องหลัง”
[この世界は表裏一体 Kono sekai wa hyouri ittai ในโลกใบนี้ ทั้งสองด้าน (เบื้องหน้าและเบื้องหลัง) เป็นด้านเดียวกัน]
ทุกคนจะเป็น “ตัวเอก” และพร้อมกันนั้นก็จะไม่มี “ตัวเอก” อยู่เช่นกัน
[主役が一人と誰が決めた? Shuyaku ga hitori to dare ga kimeta? ใครเป็นคนตัดสินกันว่าตัวเอกมีได้แค่คนเดียว?]
[このモノガタリに主役(ヒーロー)なんていらない Kono monogatari no shuyaku (HERO) nante iranai เรื่องนี้ไม่ต้องการตัวเอก (ฮีโร่) หรอก]
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ติดตาม AAside Main Story กันมาจนถึงบทจบนี้
ยังขอยืนยันว่าสตอรี่ของเกม AAside นั้นสนุกมากๆ ตอนแปลเองก็สนุกมากๆ และได้รับอะไรมามากมายเลยค่ะ
ที่จริงตอนแรกกลัวจะแปลได้ไม่ครบ 9 บท (รวมบท 0) เลยไม่กล้าแปลสักที
แต่มาตอนนี้ที่ทำมาจนถึงบทจบแล้วก็รู้สึกว่าดีแล้วจริงๆ ที่ตัดสินใจแปลค่ะ☺︎
ถ้าหากมีข้อผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยจริงๆ นะคะ
รบวกนทักมาได้เสมอเลยนะคะ?
สุดท้ายนี้ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ไว้เจอกันสตอรี่หน้าค่ะ!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in