ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก
7.25 น.
เวลาเดิม
ที่ตำแหน่งเดิม
ในรถไฟขบวนเดิม
บนถนนเส้นหลักรถยนต์แน่นขนัดและรถมอเตอร์ไซค์พยายามเบียดเสียดอย่างเอาเป็นเอาตายทั้งที่เป็นไฟแดง
คุณเคยคิดไหมว่าโลกที่ตัวเองอยู่เป็นเพียงแค่โลกจอมปลอม ทุกเช้าได้ถูกระบบเซตไว้แล้ว
รอเพียงคุณตื่นขึ้นมาตอกบัตรว่านี่คือความจริงตรงหน้าอย่างน่าไม่อาย
คุณเป็นแบบนั้น เคยเป็น หรือกำลังจะเป็น ตัวละครหลักในเซตติ้งใหญ่ ตอนที่ดวงอาทิตย์ร่วงหล่นลงมาคุณก็คิดว่า ‘เอาแล้ว’ แต่กลายเป็นว่าไม่มีใครตาย ไม่มีใครหลอมละลายกลายเป็นผง โลกยังไม่แตกอย่างหน้าทน คุณพบว่ามันเป็นแต่โคมไฟมหึมา คุณสวมบททรูแมนค้นพบว่าโลกใบใหญ่ในสายตา ทุกอย่างนั้นได้มีใครสักคนกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ลืมตาตื่นจวบจนกลางคืนหลับไหล เราอาจจะมี’ พระเจ้าส่วนบุคคล’ ที่วางแผนจุ้นจ้านกับชีวิตเล็กๆ นี้ไว้กระทั่งถึงวันที่ผืนดินกลบหน้า ซับหัวตาเล็กน้อยด้วยความผูกพัน
ความสงสัยเป็นเสียงนาฬิกาปลุก
หลักฐานทุบคุณจนตื่น
ความผิดพลาดรูเบ้อเร่อทำให้คุณนึกคิดได้
‘รู้แล้วก็รีบออกมาซะ’ เสียงหนึ่งดังในหัวคุณ เป็นเสียงของใครสักคนไกลออกไป
‘จะอยู่แบบนี้ไปจนตายหรือ’
ความลังเลสับสนทำให้คุณยากตัดสินใจ ในเมื่อสิ่งเหล่านั้นเคยเป็นโลกทั้งใบ เป็นชีวิตทั้งหมดของคุณ ใครจะไม่นึกเสียดายเล่า
หากแบบนี้ก็ไม่เลว ไม่ต้องวุ่นวายปวดหัว ชีวิตเนิบนาบเหมือนเคารพเพลงชาติหน้าเสา ร้องไปตามหน้าที่ทั้งที่ไม่อยากแต่ก็ไม่มีอะไรเสียหาย เหนื่อยหน่ายเล็กน้อยเพียงแต่กินอิ่มนอนหลับ สิ่งเดียวที่จะเสียหายคืออิสรภาพก็แค่นั้น แต่มันคืออะไรกันเล่า คือความยากลำบากในการไขว่คว้าให้ได้มาอีกหรือเปล่า
คุณมีคำถามมากมายเมื่อเดินมาจนสุดชายขอบของทะเลที่คุณไม่คิดว่ามันจะมีจุดสิ้นสุด มันเป็นแค่แอ่งน้ำบ่อใหญ่ติดตั้งระบบคลื่นเสมือนจริง แต่ก็ช่างไร้ชีวิต คุณคิดว่าปลาก็คงถูกนายทุนจ้างมาว่ายเล่นเหมือนกัน
ถ้าเปิดประตูตรงหน้าออกไปจะกลับมาไม่ได้อีกคุณตระหนักดี
‘จะยอมเสี่ยงมั้ย’ เสียงนั้นดังขึ้นอีก'
“ที่นี่ฉันหายใจไม่ออกแล้ว” ออกไปจากที่นี่ไปตายหรือค้นพบความจริง ร่ำรวยเป็นเศรษฐี ตรากตรำเช่นชนชั้นกลางหรือใช้ชีวิตอย่างหนูท่อหรืออะไรสักอย่าง แต่
“ใครจะสนวะ” คุณสบถ จับลูกบิดที่แสนฝืดเคืองกระแทกมันสองสามครั้งก็เหมือนใช้แรงทั้งชีวิต
“ถ้าแค่ข้างนอกนั่นมีเบียร์รสชาติเยี่ยมกว่าไอ้โลกนี่หน่อยฉันจะดีใจมาก”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in