“ข่าวด่วนต้นชั่วโมงเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เกิดเหตุคนร้ายบุกฆาตกรรมหอนาฬิกาของจังหวัด...นับว่าเป็นรายที่สามที่เกิดขึ้นติดต่อกันในเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ... ยังไม่ทราบสิ่งที่น่าจะเป็นเหตุจูงใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังระดมกำลังติดตามคนร้ายที่ยังหนีลอยนวล...”
ร่างที่อยู่ตรงหน้าประตูมีสภาพแหว่งวิ่นอ่อนแรง มือข้างหนึ่งห้อยร่องแร่ง อีกข้างคอยประคองไว้ เลือดไหลเลอะเทอะ หยดฟุ้งไปในอากาศ
ฉันพาร่างกะปลกกะเปลี้ยดังกล่าวเข้าบ้านกดให้นอนลงบนเก้าอี้ยาวก่อนออกจากห้องไปหาอุปกรณ์ทำแผล เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่ารอบเก้าอี้ยาวเต็มไปด้วยเลือด ฉันคว้าผ้าพันแผลกดหยุดเลือดจากมือข้างที่ห้อยร่องแร่ง
“ไม่เป็นไรหรอก” ร่างนั้นตอบ “ถึงยังไงก็คงไม่รอดแล้วล่ะที่จริงแบบนี้ก็ดีแล้ว”
“คุณตั้งใจจะฆ่าตัวตายตั้งแต่แรกอยู่แล้วใช่มั้ย”
เสียงของเขาอ่อนลงทุกขณะ “ฉันกำลังคืนสิ่งที่ฉันไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของตั้งแต่แรกต่างหาก” ฉันเอาหมอนหนุนหลังเขา ยกแก้วน้ำให้จิบ “ขอบใจ”
“รอบตัวคุณมีคนคุ้มกันแน่นหนา ไม่มีทางที่คุณจะถูกทำร้ายได้เลยถ้าคุณไม่ตั้งใจปล่อยให้มีคนเข้าไป”
เขาหัวเราะอย่างอ่อนแรง “เด็กน้อยเอ๊ย เธอเห็นจากระยะไกลลิบในบ้านที่ล้อมรั้วด้วยความเพิกเฉยน่ะสิ” เลือดไหลซึมออกมาตามมุมปากของเขา ฉันซับให้ก่อนที่เขาตั้งท่าจะถ่มทิ้ง “พวกนั้นไม่มีใครทำงานจริงจังกันหรอก”
“เวลาน่ะ อยู่ได้ด้วยตัวของมันเองมานานแล้ว มนุษย์ต่างหากที่พยายามกำหนดรูปร่างลักษณะของพวกเขาออกมา”เขาพยายามจะลุกขึ้นแต่ฉันกดให้นอนต่อ เขาจำยอมนอนราบลงไปตามแรงมือฉัน ทว่าแววตาคู่นั้นดูไม่ได้อ่อนแสงลงเลย “ฉันเห็นมาตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังใช้กะลาเจาะรูแล้วปล่อยให้จมน้ำ เธอนึกภาพออกไหม”
“ต่อมาพักใหญ่ เสียงฆ้องและเสียงกลองเข้ามามีบทบาท ฉันยังจำได้ตอนที่เสียง ‘โมง’ ดังกังวานไปในสายหมอกยามเช้ามืดท่ามกลางความหลับใหล ทั้งเมืองค่อยๆ ตื่นขึ้น อา ฉันชักจะเรื่อยเปื่อยไปเสียแล้ว”
“จนกระทั่งนาฬิกาเข้ามาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว จนสุดท้ายก็มีกำหนดให้สร้างหอนาฬิกาประจำเมืองขึ้นฉันจึงได้อยู่ที่นั่นเหมือนที่เธอเห็นมาตั้งแต่เกิด” เขาไอออกมาชุดใหญ่เลือดฟุ้งกระจายไปในอากาศ ฉันลูบหลังของเขา “พักผ่อนเถอะคุณ”
เขายกมือขึ้นห้าม ก่อนจะพูดต่อไป “แต่เธอก็เห็นใช่มั้ยเด็กน้อย ว่าทุกวันนี้ ทุกคนก็มีนาฬิกาเป็นของตัวเอง ไม่มีใครมาดูนาฬิกาที่หอนาฬิกาอีกแล้ว”เขายิ้มบางๆ “บางอย่างก็ควรจะสูญหายไปตามกาลเวลา”
“แต่เราก็ควรจะอนุรักษ์” เขาจุ๊ปากให้ฉันเงียบ “เก็บคำนั้นไว้ก่อนเถอะ ฉันไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจความหมายของมันดีมั้ย เธอ ที่เพิ่งจะเกิดใหม่ด้วยร่างโบราณน่ะหรือ”เขาหัวเราะ ส่วนฉันเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองใจ “ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าพวกนั้นจะทำหอนาฬิกาใหม่อีกทำไม”เขามองหน้าฉัน “อย่าโกรธไปเลยเด็กเอ๋ย มันเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของพวกเรา ฉันเองก็อยากจะอยู่ให้คำแนะนำเธอ แต่คงจะไม่มีโอกาสแล้ว” นัยน์ตาของเขาหรี่ปรือลง “ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามเวลา”
เขาหยุดพูด ลมหายใจเริ่มแผ่วอ่อนลงก่อนจะสิ้นสนิท
ฉันออกไปที่หลังบ้าน ขุดดินเป็นหลุมใหญ่เตรียมฝังร่างของเขามองเลยออกไปนอกรั้วบ้าน ผู้คนมากมายเดินผ่านไปมาแวบหนึ่งที่ฉันรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมอง แต่เมื่อเพ่งมองลอดรั้วก็ไม่เห็นใคร ฉันลากร่างของเขามาใส่หลุม ถัดไปไกลๆ นั้น ซากร่างของอดีตหอนาฬิกายืนผุพังอยู่อย่างเศร้าสร้อย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in