ใบหน้าของเขาก็คงเคยมีเหลี่ยมมุมกรามคมสันอยู่หรอก หากแต่กาลเวลาและเบียร์ขวดแล้วขวดเล่าก็ช่วยเปลี่ยนให้กลายเป็นแก้มอูมและชั้นคางห้อยย้อยในปัจจุบันไปเสียแล้ว
ฝ่ายนั้นยื่นแก้วที่เหลือเพียงน้ำแข็งมาตรงหน้า ข้าพเจ้ารับมาชงให้ มีเสียงสั่งกำกับปริมาณสุราและโซดาดังมาสองสามคำประกอบกระบวนการก่อนจะยื่นมือมารับแก้วไปกระดกทีเดียวครึ่งหนึ่ง
“จืดชืด” เขาว่า “ชงประสาอะไรวะ”
“ผมก็ชงตามที่เฮียบอก”
เขาเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดมือคว้าขวดเหล้ามารินลงไปอีกราวๆ ข้อนิ้ว พรมโซดาทับจ้วงด้วยที่คีบน้ำแข็งอย่างกระแทกกระทั้นจนสาแก่ใจก่อนจะวางลงและยกดื่มอีกครั้ง
“กลับมาที่เรื่องเดิม” เขาว่าต่อ “ทำยังไงถึงจะอินกับลูกกูได้”
“เฮียหมายถึงว่าจะให้ผมเข้าถึงน้อ-“ เฮียขยับมือ ถ้าจะหัวแตกเพราะแก้วเหล้าก็คงไม่ค่อยเข้าท่า“ไม่ๆ ผมหมายถึงว่าจะให้ผมช่วยให้เฮียเข้าใจลูกได้ยังไง?" แก้วในมือของคู่สนทนาดูจะสงบลง
“นั่นแหละ เมื่อก่อนอะไรๆ ก็ป๊า เดี๋ยวนี้จะขอเงินเมื่อไหร่ค่อยป๊า” เขาคร่ำครวญ “กูก็ตามใจทุกอย่างแล้ว แค่อยากรู้บ้างว่ามันไปทำอะไรที่ไหน ขอเงินไปที ของอะไรไม่รู้เต็มบ้าน มีแต่หน้าผู้ชายขาวๆ กูจะไปแยกออกได้ไง พอถามว่าของคนนี้วันก่อนก็ส่งมาทีนึงแล้วก็งอนกูอีก แปบๆ ก็ออกจากบ้านหายไปทั้งวัน ไปนั่งตากแดดรอใครไม่รู้ ทีกูเรียกไปกินข้าวด้วยกันไม่ยอมไป”
ข้าพเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก รีบยกขวดเหล้าหนีมืออวบอูมที่ยื่นมาจะคว้าชงเองอีก “ใจเย็นน่าเฮีย เด็กก็เป็นงี้ ตอนผมเด็กๆ-“ “กูเข้าใจน่า กูก็ไม่ได้เกิดมาแก่เลย แค่อยากรู้บ้างว่าจะอะไรนักหนา”เขารับแก้วที่ข้าพเจ้ารินน้ำแข็งละลายปนลงไปกว่าครึ่งไปดื่ม “เมื่อก่อนก็อุตส่าห์สมัครเฟซบุ๊กตาม แล้วยังไง พอกูกดขอเป็นเพื่อน เท่านั้นแหละหายเงียบเลย แชร์อะไรให้ก็ไม่ยอมไลค์”
ข้าพเจ้านึกชมความรอบคอบของตัวเองในใจที่หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมกดรับคำขอเป็นเพื่อนของเฮีย
“ทีนี้ กูก็เห็นมันเล่นไอ้ทวิตเต้ออะไรนี่กูก็เลยสมัครไปบ้าง” เฮียยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้ข้าพเจ้าดู
ในหน้าจอนั้น รูปหน้ากลมอูมคุ้นเคยส่งยิ้มตาหยีมาให้ ใต้รูปปรากฏชื่อสกุลเต็มยศ ข้าพเจ้าไถเลื่อนหน้าจอถัดลงไป พบความพยายามในการทวิตก็อกๆ แก็กๆ อยู่บ้าง ไหนๆ แล้ว ข้าพเจ้ากดดูประวัติ พบรายชื่อที่บล็อกไว้เหยียดยาว
“อ้าวเฮีย แล้วไปบล็อกเขาทำไมเยอะแยะ”
“ก็ไม่ยอมฟอลโล่กูกลับบ้าง ด่ากูบ้าง”จังหวะที่ข้าพเจ้ากำลังดูโทรศัพท์ ขวดเหล้าก็ไปอยู่ในมือฝั่งตรงข้ามเสียแล้ว ข้าพเจ้าได้แต่ปลง มองขวดเปล่าอีกสองขวดที่อยู่ข้างตัวแล้ว คงไม่พ้นต้องลากเฮียกลับไปส่งบ้านแน่คืนนี้“แล้วเฮียจะให้ผมช่วยอะไร”
“กูจะขอแอดลูก มันไม่ยอม” เฮียร้องเสียงดังโหยหวน เจ๊เจ้าของร้านส่งเสียงกระแอมดังราวกระดูกไก่ติดคอ
“เป็นผม ผมก็ไม่รับ” ข้าพเจ้าตอบทันควัน “ข้อแรกเลย ใครเขาใช้ชื่อสกุลเต็มกัน นี่ไม่ใช่เฟซฯ”
“มึงรู้ดี มึงเปลี่ยนให้กูที” เขาตอบเริ่มเอนตัวเลื้อยลงไปกับโต๊ะ น้ำเสียงอ้อแอ้ “มึงเล่นใช่มั้ย รับแอดกูด้วย”
“ไม่ครับ” ข้าพเจ้าตอบ ตั้งใจหมายความปฏิเสธทั้งสองคำถาม “ข้อสองเขาไม่จำเป็นต้องฟอลฯ เฮียกลับ” ฝั่งคนเมาเริ่มบ่นอะไรเรื่อยเปื่อยไม่สนใจข้าพเจ้าเสียแล้ว
ข้าพเจ้านิ่งคิด ก่อนตัดสินใจพิมพ์เปลี่ยนชื่อแอคเคาท์ให้เฮียใหม่เป็น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in