เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
fictober 2018sleepy cat
6-7. Drooling & Exhausted อดีตคนนั้นกับปัจจุบันที่หลับใหล
  • ข้าพเจ้ากำลังทำงานอยู่ หรือหากจะกล่าวให้ถูกก็คือ ข้าพเจ้าเคยทำงานอยู่ และกำลังคิดว่าตัวเองทำงานอยู่ในตอนที่ถูกเขย่าปลุกให้ตื่น ชายแขนเสื้อของข้าพเจ้าชุ่มน้ำลาย หน้าจอโน้ตบุ๊คดับมืดเย็นเฉียบราวกับอนาคตที่ให้ข้าพเจ้าได้สัมผัส

    ข้าพเจ้าเขย่าเมาส์สองสามทีให้คอมตื่นขึ้น พร้อมๆกับพยายามลืมตาอีกข้างให้ขึ้นมาด้วยอย่างยากเย็น ซึ่งพบว่าไม่ยากเลยเมื่อเหลือบไปเห็นข้าพเจ้าอีกคนยืนอยู่ข้างๆ

    “ข้าพเจ้า” คนนั้นช่างดูเข้มข้นผิดรูปร่างที่พร่าเลือน ราวเปลวไฟขอบไหวที่แผดแสงแรงจ้า ผิดกับข้าพเจ้าคนนี้ที่นั่งกะปลกกะเปลี้ยซังตายเต็มทน มือเอื้อมคว้าถ้วยกาแฟดำเย็นชืด กล้ำกลืนกระเดือกสสารสีดำเข้มข้นขมเฝื่อนลงคอ

    “หลับไปได้ยังไง งานยังไม่เสร็จ”ข้าพเจ้าคนนั้นกล่าว

    ข้าพเจ้าไม่ได้กล่าวตอบตัวเองข้าพเจ้าไม่ควรจะต้องกล่าวตอบตัวเอง หากสิ่งที่ถามอยู่นั้นเป็นข้าพเจ้าจริงๆก็ควรจะรู้ว่า 1. ข้าพเจ้าไม่ได้อยากหลับ ไม่เช่นนั้นคงไม่กินกาแฟ และ 2. ยิ่งเอาแต่ถามงานก็ยิ่งจะไม่เสร็จ หน้าจอโน้ตบุ๊คสว่างวูบขึ้นมา เผยให้เห็นงานที่ค้างอยู่ ซึ่งข้าพเจ้าจำได้ว่าทำไว้มากกว่านี้แน่ๆหรือนั่นจะเป็นอีกความลวงหนึ่งในความฝัน?

    ตบๆ เมาส์อีกสองสามที เมาส์ไม่ขยับสักพักเครื่องก็ส่งเสียงฟู่หวีดแหลม ราวกรีดร้องประท้วงการใช้งานยาวนาน สังขารของเครื่องรุ่นอายุเฉียดสิบปีก็คงทนได้ประมาณนี้ ข้าพเจ้าหักใจกดปุ่มปิดหักดิบ ระหว่างนั้นเสียงจิ๊ปากขัดใจของข้าพเจ้าที่ไม่ใช่ข้าพเจ้า ก็ดังขึ้นกวนใจข้าพเจ้าคนนี้ขึ้นอีก

    “ห่วย” เสียงของข้าพเจ้าทั้งคู่ดังประสานขึ้นพร้อมกัน “ทำไมไม่ซื้อใหม่ซักที”ประโยคหลัง ข้าพเจ้าคนนี้ไม่ได้กล่าว

    “ไม่มีเงิน เป็นตัวเราเองทำไมถึงได้ไม่รู้ล่ะ ถามมาได้”

    “ทำไมไม่มีเงิน ก็เงินเดือนเพิ่งออกไปเมื่อวานซืน”

    “โอนจ่ายค่าซ่อมรถไปแล้วเมื่อเช้านี้ เป็นบ้าอะไรทำไมจำไม่ได้”

    “เป็นอดีต”

    ก็ว่าอยู่ว่าทำไมข้าพเจ้าคนนั้นถึงช่างดูเข้มข้นสดใสได้ปานนี้

    ข้าพเจ้ากดเปิดคอมอีกครั้ง หลังจากปลุกปล้ำกับหน้าจอฟ้ามรณะอีกสองสามรอบ เจ้าแก่ก็ยอมแพ้แต่โดยดีให้ข้าพเจ้าได้ทำงานต่อไป กาแฟถ้วยสุดท้ายตบตีสมองของข้าพเจ้าอย่างหนัก ข้าพเจ้าปั่นงานไป หน้าแล้วหน้าเล่า ท่องกับตนเองไว้ว่าอีกไม่กี่หน้า อีกสามหน้า สองหน้า หนึ่งหน้า ระหว่างนั้นอดีตของข้าพเจ้ายืนดูอยู่เงียบๆ ไม่พูดอะไรอีก แต่ดูรูปร่างของอดีตจะยิ่งซีดจางไปเรื่อยๆ ตามจำนวนงานที่คืบหน้าไป จนจบประโยคสุดท้าย อดีตจางหาย ข้าพเจ้าล้มตัวลงนอนอย่างเป็นสุขใจ ไว้เดี๋ยวจะหลับให้เต็มอิ่ม ชดเชยที่บังคับขืนใจสมองและสองลูกตาของข้าพเจ้ามาหลายวัน

    ข้าพเจ้ากำลังทำงานอยู่ หรือหากจะกล่าวให้ถูกก็คือ ข้าพเจ้าเคยทำงานอยู่ และกำลังคิดว่าตัวเองทำงานอยู่ ตอนที่ถูกเขย่าปลุกให้ตื่น ข้าพเจ้ารับรู้ความรู้สึกเปียกชุ่มข้างใบหน้า ลืมตาตื่นขึ้นก็พบกับหน้าจอโน้ตบุ๊คที่มืดสนิท

    ข้าพเจ้าเขย่าเมาส์ให้หน้าจอสว่างอีกครั้งหนึ่ง หนึ่งครั้ง สองครั้ง หน้าจอยังไม่ติด ข้าพเจ้าเอะใจ ไฟโน้ตบุ๊คดับอยู่

    เสียงแผ่วโหยกระซิบอยู่ข้างหูของข้าพเจ้า “ไม่ได้เซฟ” ข้าพเจ้าหันไป อีกครั้งที่เห็นข้าพเจ้าอีกคน รอบนี้สภาพทรุดโทรม ใต้ตาดำคล้ำ

    “อะไรวะ” ข้าพเจ้าออกอุทาน

    “อนาคตไง” ข้าพเจ้าคนนั้นกระซิบตอบ ก่อนจะเลือนหายไปเงียบๆ...

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in