งาน Liberated ที่จัดที่ชั้นสองของคลาสคาเฟ่สามย่านแต่ก่อนที่จะขึ้นไปดูงาน มีเวิร์คช็อปรีวิวหนังสือก่อน อาจารย์ให้เลือกเล่มที่ยังอ่านไม่จบมาด้วย ให้อ่านก่อนตรงนั้นเลยแล้วรีวิวเท่าที่เราอ่าน การรีวิวหนังสือก็คงเหมือนการ Curate งาน ที่ต้องถ่ายทอดเนื้อหามาให้กระชับ และถ้าเรารู้ความสนใจของผู้เข้าชมงาน/ผู้อ่าน เราก็สามารถ Curate งานหรือรีวิวหนังสือออกมาได้ตรงตามความสนใจของเขา เพิ่มโอกาสที่เขาจะมาเข้าชมงานหรืออ่านหนังสือเล่มนั้น ๆ
งานนี้มีความ Sci-fi สูงมาก คือจับคนมาออกแบบให้อยู่ในชุดเทวดาที่มันดูมีความเอเลี่ยน/อวกาศ อะไรแบบนั้น
หลังจากรีวิวหนังสือกันเสร็จก็ขึ้นเป็นชมงาน Liberated หรือ เป็นไท งานนี้เป็นงานของศิลปินเดี่ยวและแฟนเขาเป็นคนช่วย Curate
งานนี้มีความ Sci-fi สูงมาก คือจับคนมาออกแบบให้อยู่ในชุดเทวดาที่มันดูมีความเอเลี่ยน/อวกาศ อะไรแบบนั้น หรือมีการ Adapt วรรณคดีไทยมาอยู่ในธีม Sci-fi ก็ออกมาเท่มาก ๆ เช่นนางยักษ์ในพระอภัยมณีก็เป็นหุ่นยนต์ ชาละวัน-ไกรทอง ก็เหมือนหุ่นยนต์สู้กัน
ผลงานส่วนใหญ่มาจากพื้นเพของศิลปินที่ที่บ้านมีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ตัวศิลปินตั้งคำถามและต้องการ 'เป็นไท' ออกจากความเชื่อเหล่านั้นที่ถูกกดไว้ผ่านทางพ่อแม่อีกที
ภาพนี้เป็นงานใหญ่สุดที่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบไปด้วยสายสิญจน์ พื้นด้านล่างเป็นดิน ศิลปินกำลังพูดถึงความเชื่อ เรื่องเทวดา ดินเหมือนที่สุดท้ายที่เราต้องตายจากไป ตอนเด็ก ๆ ศิลปินเคยได้รับคำทำนายว่าจะอายุสั้น แต่เขาก็ไม่เชื่อและยังใช้ชีวิตมา พร้อมทั้งนำพื้นหลังเหล่านั้นแสดงออกทางผลงาน
ภาพสุดท้ายที่อยากจะเล่าคืองานที่เด็ก ๆ ที่บ้านมาเขียนเล่นบนงานของพ่อ แต่กลับออกมาสวยและ Surreal อย่างน่าประหลาด นี่อาจจะเป็นการ 'เป็นไท' ที่เรากำลังพูดถึง การที่มีอิสระในการทำสิ่งใดก็ตาม และช่วงที่เรามีอิสระในชีวิตมากที่สุดอาจจะเป็นตอนเด็กที่เรายังไม่ถูกตีกรอบจากสังคมของเราก็ได้
BTW: ช่วงที่ไปมีงาน Gallery Night แต่ไม่มีโอกาสได้ไป คราวก่อนที่มี Gallery Night ก็ไม่ได้ไป หวังว่าสักวันสักครั้งจะมีโอกาสได้ดู Exhbition ในยามค่ำคืน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in