เราเป็นคนชอบกระต่ายค่ะ?
มีจิตใจหวั่นไปกับกับดวงตาใสแจ๋วและหูยาวนุ่มฟู เรามีใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งเมื่อเรามีความพร้อมก็อยากจะรับเอากระต่ายหูตกตัวกลมซักมาเลี้ยงไว้ อยากไปเกาะกระต่ายที่ญี่ปุ่นแล้วก็นอนกลิ้งไปมากับกระต่ายนับร้อยที่อยู่รอบตัว อาห์ มันต้องเป็นความรู้สึกที่ดีมากแน่ๆเลย♡
และในขณะเดียวกันเราก็เป็นคนที่ชื่นชอบในเรื่องความสวยความงาม แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้แต่งหน้าเก่งอะไรมากมาย แต่ก็มีความสนอกสนใจในเรื่องของผลิตภัณฑ์ต่างๆทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ อะไรที่ออกมาใหม่แล้วมันดูดี #ของมันต้องมี สิ่งนี้ใช้แล้วดี๊ดีก็ซื้อเก็บไว้บ้าง (แม้ว่าไม่ได้ใช้เท่าไร ก็...เรียกว่าเป็นความสุขทางใจก็แล้วกันนะ) และติดตาม Beauty Bloger และ Beauty Influencer หลากหลายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
จนกระทั่งวันหนึ่งที่เรานั่งอ่านกระทู้ความงามตามไปประสา ดูยูทูปสอนเฉดดิ้งหน้าไปๆมาๆก็ไปป๊ะกับกระทู้นี้...
เครื่องสำอางบนความเจ็บปวดของกระต่าย
ขอไม่เล่าถึงเนื้อหาในกระทู้นี้ก็แล้วกันเนอะเพราะมันจะดูเป็นเนื้อหาที่ซ้ำซ้อนกันเกินไป แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปอ่านกันนะคะ เราคิดว่าทุกคนก็รู้กันอยู่แหละว่ามีการเอาสัตว์ไปทดลองเกี่ยวกับเรื่องยารักษาโรค เครื่องสำอาง ตลอดจนทดลองเกี่ยวกับเครื่องปรุงที่ใช้ในการประกอบอาหารต่างๆก่อนที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆจะมาถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่สัตว์เหล่านี้ต้องพบเจอในห้องทดลอง ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย หนู ลิง แมว หรือแม้แต่น้องหมาบีเกิล ก็แค่รับรู้ว่ามันมีแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไรนัก
ก็เอาเป็นว่ากระทู้นี้คือจุดเปลี่ยนในใจของเราเลยค่ะว่าจากนี้ไป...
ฉันจะไม่ใช้เครื่องสำอางที่ทดลองกับสัตว์อีกแล้ว!
เราคิดว่าถ้าเราเลี้ยงกระต่ายน้อยน่ารักของเรา(ที่ตั้งชื่อให้ล่วงหน้าแล้วว่าน้องนุฟนิฟ) อยู่ดีกินดี มีความสุข แต่มีกระต่ายอีกจำนวนมากที่ถูกขังอยู่ในกรง โดนโกนขนแล้วป้ายสารเคมีที่มีฤทธิ์แรงๆ ถูกหยอดสารเคมีเข้าตาทุกวี่ทุกวันแล้วก็ตายจากไปด้วยความทรมาน เราทนไม่ได้!
จากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลไปเรื่อยๆเกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ พบเห็นซีนสะเทือนใจมากมาย (เช่น คลิปนี้จากองค์กร PETA -->
Animal Testing in 60 Seconds Flat ที่อยากให้เข้าไปดูนะคะ หกสิบวินาทีเท่านั้นเอง) แต่ก็แอบเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า เอ๊ะ... แล้วผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์นี่ มันจะโอเคหรอ จะได้มาตรฐานมั๊ย ถ้าไม่ทดลองกับสัตว์แล้วจะยืนยันได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์มันปลอดภัยกับมนุษย์อย่างเราจริงๆ
พอเริ่มคุ้ยแคะแกะเกาก็พบความจริงว่าจริงๆแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ก็เป็นแบรนด์เครื่องสำอางดังๆที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งนั้นเลยค่ะ (เช่น Aesop ที่เซรั่มประเสริฐมาก, Paula Choice, Lush, Hourglass หรือ Urban Decay อาห์ ใครที่มี Naked Heat Palette ก็สามารถใช้ต่อไปได้อย่างสบายใจนะค้า) และแม้ว่าตัวผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่ได้ทดลองกับสัตว์โดยตรงแต่กว่าจะผลิตออกมาจนถึงมือเรา ผลิตภัณฑ์นั้นๆก็ต้องผ่านการทดลอง ค้นคว้า วิจัย เพื่อให้ผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการทดลองผ่านการเพาะเซลล์เนื้อเยื้อ ทำแบบจำลองวิเคราะห์ในคอมพิวเตอร์ หรือการทดลองกับอาสาสมัครจริงๆ หรืออาจเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นไม่ได้ใส่สารเคมีเลยหรือใส่มาน้อยนิดมากๆ เช่น แบรนด์สายธรรมชาติ ออร์แกนิคจ๋าต่างๆ เฮ้ยย คือมันดีต่อสัตว์ ดีต่อโลก ดีต่อใจ และก็ดีต่อผิวเราด้วยนะเนี่ย :D
สำหรับ วิธีการสังเกตว่าผลิตภัณฑ์นี้ทดลองกับสัตว์หรือไม่ ก็สังเกตได้จากสัญลักษณ์ Leapping Bunny, No Animal Testing, Cruelty - Free และ Vegan Product ค่ะ (อันหลังสุดนี้เรารักมาก) ซึ่งอันที่จริงก็เชื่อได้ครึ่งไม่ได้ครึ่งเพราะมีหลายแบรนด์เหมือนกันที่เขียนๆไปงั้นแหละ แต่ตัวบริษัทเอง บริษัทแม่ หรือ Third Party ที่เป็นแหล่งผลิตหรือขายสารส่วนผสมที่ใช้ในเครื่องสำอางเป็นคนทดลองเอง เพราะฉะนั้นเพื่อความชัวร์เราก็ต้องเช็คก่อนซื้อเด้อออออ
หน้าตากุ๊กกิ๊กประมาณนี้จ้ะ
และนี่คือตัวอย่างที่อยู่บนฉลากของผลิตภัณฑ์จริงๆเด้อ
บางอันก็เขียนไว้ บางอันก็เป็นกระต่ายเลย
อ้นนี้เป็นตราของทาง PETA เลยค่ะ
แล้วจะหากอยากจะรู้ว่าผลิตภัณฑ์นี้ใช้หรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ เราก็จะดูผ่านทางเว็บไซต์ของ
PETA เป็นหลัก สำหรับผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ รวมถึงบล็อก
Logical Harmony ที่มีรายชื่อผลิตภัณฑ์ที่น่ารักปลอดภัยไร้ความโหดร้ายทารุณและมีการเขียนอัพเดตข่าวสารของผลิตภัณฑ์ต่างๆค่ะเป็นประจำทุกสัปดาห์ (เช่น บางแบรนด์อยู่ๆก็เปลี่ยนใจไปทดลอง บางแบรนด์ก็กลับใจมาไม่ทดลองแล้ว)
และสำหรับสาวไทยใจรักสัตว์โลกอย่างเราๆ ก็สามารถเข้าไปอ่านรายชื่อแบรนด์ที่มีขายในประเทศไทยได้ที่เพจ
Skipping Bun Bun ค่ะ เป็นเพจที่เราเข้าไปบ่อยมากมากมากมากมากมากมาก คุณแอดมินน่ารักและอัพเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆบ่อยมาก รวมถึงเพจ
Be Gentille: TH Cruelty-Free Community ที่เรารู้จักกับแอดมินเพจนี้ผ่านทางเพจ Skipping Bun Bun นั่นแหละค่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in