อิสลาม คาริมอฟ ประธานาธิบดีของอุซเบกิสถาน เสียชีวิตระหว่างดำรงตำแหน่งผู้นำ ด้วยวัย 78 ปี เมื่อวันที่ 2 กันยายน คาริมอฟคือผู้นำของประเทศตั้งแต่อุซเบแยกตัวอออกจากสหภาพโซเวียต ในปี 1991 และหากย้อนหลังไปอีก 2 ปี เขาคือผู้นำของ สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตอุซเบก ซึ่งเป็น 1 ใน 15 สาธารณรัฐสังคมนิยมในวงศ์ไพบูลย์ของโซเวียต เขาเป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์อุซเบก แน่นอนว่าด้วยพลังอำนาจที่ไม่มีใครในอุซเบกสร้างบารมีได้เท่าคาริมอฟ อุซเบกิสถานจึงมีประธานาธิบดีเพียงคนเดียว มาตลอด 15 ปี จนกระทั่งคาริมอฟเสียชีวิตลง

ตอนแรก สื่อรัสเซียก็จับพิรุธได้เมื่อ 17 สิงหาคมว่า ทางการอุซเบฯ ได้หามคาริมอฟเข้าโรงพยาบาล และไม่มีใครเห็นหน้าคาริมอฟอีกเลย จนสันนิษฐานว่าท่านอาจเสียชีวิตแล้ว แต่ตอนนั้นทางการอุซเบฯ บอกว่า คาริมอฟ แค่ป่วย

จนกระทั่งวันที่ 1 กันยายน ทางการอุซเบฯ ออกฉายสุนทรพจน์ของคาริมอฟ เมื่อครั้นประกาศให้อุซเบกิสถานเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต เมื่อ ค.ศ.1991 ออกทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ เหมือนเป็นการบอกใบ้อะไรบางอย่าง

และในวันต่อมา ก็มีการยืนยันว่า คาริมอฟ เสียชีวิตแล้ว

ภาพพจน์ของคาริมอฟ ไม่ค่อยดีในสายตาของตะวันตกเท่าไหร่ โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ไม่พอใจ เหตุการณ์ที่เมืองอันดิจาน เมื่อปี 2005 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย เพราะทางการจัดการกับผู้ประท้วง ซึ่งเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวนักธุรกิจที่ถูกจำคุก 23 ราย

นอกจากนี้ คาริมอฟยังสั่งให้รัฐควบคุมสื่อ ห้ามการวิจารณ์คณะรัฐบาล และเคยให้จัดประชามติ เมื่อปี 2002 ให้ขยายช่วงเวลาเป็นผูนำประเทศจากวาระ 5 ปี เป็น 7 ปี และ คาริมอฟ ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ำมาโดยตลอด 5 สมัยติดต่อกัน ครั้งล่าสุดคือการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2015 คาริมอฟ ได้รับเลือกจากคะแนนเสียงร้อยละ 90.39

อีกทั้ง คาริมอฟ ยังยืนข้างรัสเซีย ในเกมแย่งชิงยุทธศาสตร์เอเชียกลาง ระหว่าง รัสเซีย-จีน และสหรัฐอเมริกา โดยรัสเซียได้ยกหนี้ให้แก่อุซเบกิสถานจำนวน 865 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการตอบแทน

ชาวอุซเบกส่วนมากชื่นชมในตัวคาริมอฟ ถึงแม้เขาจะเป็นผู้นำที่รวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง แต่นั่นก็เพราะความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของอุซเบกิสถาน ซึ่งถุกแทรกแซงจากภายนอก ที่ในฐานพื้นที่ยุทธศาสตร์มหาอำนาจ รวมถึงภัยจากการก่อการร้าย ที่อาจข้ามจากตะวันออกกลางเข้ามายังเอเชียกลาง ที่ผู้คนนับถือศาสนาอิสลามอีกด้วย

เชอร์ซอด อิกามเบอร์ดิเยฟ ทนายความที่ทาชเคนต์ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ในวันเดียวกับที่คาริมอฟ เสียชีวิตว่า "แน่นอน มันเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อเสถียรภาพของประเทศ (พูดถึงการปกครองประเทศแบบรวมอำนาจของคาริมอฟ) เราคงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถานแล้ว เราปกป้องตัวเองจากภัยต่างๆ ไม่ได้เพียงลำพัง (ต้องอาศัยความเด็ดขาดในการปกครองด้วย) เรารู้ว่าสถานการณ์ภายในประเทศเป็นอย่างไร เรายังรักเขาอยู่"

อุซเบกิสถานหลังยุคของคาริมอฟ ตอนนี้ นิกมาติลลา ยุลดาเชฟ ประธานสภาอุซเบก เป็นประธานาธิบดีรักษาการณ์ชั่วคราว ทั้งนี้ ยังไม่มีการประกาศจากทางการว่า จะมีกำหนดเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง เมื่อไหร่.