เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มือเปื้อนเลือดTangmo Srisuwatjaree
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน บทที่ 4 ล้างแค้น
  • เวลาผ่านไปนานหลายเดือน ทุกวันที่เธอต้องเข้าไปให้อาหารหมู เธอจะนึกถึงภาพของสาวใช้ที่เธอฝังอยู่ใต้ผืนดินที่เธอกำลังเหยียบเสมอ กลิ่นดินที่เธอขุดและกลบยังคงติดมือเธออยู่ แถมเธอยังต้องทำหน้าที่ทุกอย่างในบ้านตั้งแต่กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำอาหาร ดูแลฟาร์ม ดูแลที่นา ไร่สวน ทุก ๆ อย่างในบ้านเธอต้องเป็นคนจัดการมันทั้งหมด แถมยังโดนคำดูถูก ดุด่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ชาวนาไม่พอใจอีกด้วยภาระมากมายที่เธอได้รับหลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอไม่สามารถกลับไปพบเจอครอบครัวได้เธอไม่อาจรู้ได้ว่าพ่อกับแม่ของเธอเป็นตายร้ายดีอย่างไร ชีวิตของเธอตอนนี้ราวกับตกนรกทั้งเป็นและสาหัสยิ่งกว่าตอนที่เธอเฉือนนิ้วก้อยข้างซ้ายตัวเองออกไปเสียอีก

    "แกทำอะไรของแกมาวะกับข้าวนี่มันกินได้ที่ไหน อ๋อ สงสัยคงเป็นเพราะนิ้วแกไม่ครบละมั้งทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ถ้านิ้วแกจะหายไปอีกสักนิ้วก็คงอยู่ในอาหารนี้กระมั้ง ไป! เอาไปทิ้งแล้วทำใหม่เดี๋ยวนี้! ไปเลยนะ แกจะออกไปไหนก็ไป" ชาวนาพูดจาดูถูกเธอสารพัด ถ้อยคำเช่นนี้ออกมาจากปากชาวนาแทบจะทุกวัน หากเธอเถียงและปริปากพูดเธอก็จะโดนคาดโทษหนักขึ้น ๆ เธอจึงยอมจำนนไม่พูดคำใด ๆ ออกไป 

    หญิงสาวได้แต่นั่งทุกข์ระทมอยู่ในฟาร์มจะหนีก็หนีไม่ได้ เธอต้องทนอยู่ในสภาพคนรับใช้ที่ตอนนี้เธอเริ่มถูกโกงเงินค่าจ้างเข้าไปทุกที จากค่าตอบแทนที่ควรจะได้รับเดือนละ 20 เหรียญ ค่อย ๆ ลดลงทีละน้อย ๆ ทุกครั้งที่ชาวนาไม่พอใจอะไรเขาก็ขู่ว่าจะฆ่าเธอให้ตายตามสาวใช้ไปอีกคนและหักเงินเธอในแต่ละเดือน จนตอนนี้เหมือนว่าเธอกำลังชดใช้กรรมที่ก่อเอาไว้จากเธอที่เคยเป็นคนฆ่าหมู ตอนนี้หมูกลับเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาทุกข์ระทมอยู่ที่นี่เธอต้องเลี้ยงมันด้วยเศษอาหารเหลือจากชาวนาที่ดูดีกว่าอาหารที่เธอได้กินในแต่ละวัน

    เวลาค่ำเริ่มใกล้เข้ามาหญิงสาวออกไปนั่งอยู่ที่ริมรั้วหน้าฟาร์มเลี้ยงหมู เธอนั่งเหม่อลอยและคิดว่าถ้าตนตายไปเหมือนสาวใช้คนนั้นได้ก็คงจะดี แต่การฆ่าตัวตายมันก็คงจะเป็นตราบาปติดตัวและวิญญาณของเธอไปตลอดชีวิต เธอภาวนาขอให้ใครสักคนถือมีดเข้ามาแทงเธอตรงนี้ ตอนนี้ เวลานี้แต่ก็คงไม่มีใครทำเช่นนั้น ทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มันทรมานเหลือทน ทำไมเธอถึงเป็นคนที่โชคร้ายถึงเพียงนี้ ในขณะที่คนอื่น ๆ ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจกันเลย เธอไม่ใช่ฆาตกรแต่ทุกอย่างตอนนี้กำลังบีบให้เธอเป็นฆาตกร แม้จะไม่ได้ถูกจับไปอยู่ในคุกในตาราง แต่การอยู่ที่นี่นั้นมันยิ่งกว่าคุกเสียอีก

    หญิงสาวมองหันไปทางบ้านของชาวนาและดูเหมือนว่าในบ้านกำลังมีงานเลี้ยงสังสรรค์กัน เป็นงานเลี้ยงที่มีแค่ชาวนาและลูกชายของเขา เสียงพูดคุยดังโหวกเหวกโวยวายออกมาจากบ้านหลังนั้น คำพูดที่ดูไม่มีสติ บทสนทนาสกปรก ๆ ที่พ่อลูกพูดกันถึงเธอมันทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดและไม่อยากย่างกรายเข้าไปในนั้นแม้สุดท้ายกรรมก็ต้องตกเป็นของเธอที่ต้องเข้าไปทำความสะอาดและเก็บกวาดสิ่งที่พ่อลูกทิ้งเอาไว้

    หลังเสียงพูดคุยของสองพ่อลูกสิ้นสุดลงเธอค่อย ๆ เดินเข้าไปในบ้านนั้นและภาพที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้าเป็นภาพของสองพ่อลูกที่เมาอย่างไร้สติ รอบกายเต็มไปด้วยขวดเหล้าจำนวนมาก ในเวลานี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดของเธอไม่มีใครมาจ้องมองและพูดดูถูกเธอ ไม่มีใครเห็นว่าเธอทำอะไรในเวลานี้เธอจะทำอะไรก็ได้ ถ้าจะหนีก็ทำได้ นี่เป็นโอกาสดีของเธอที่ไม่ได้มีบ่อย ๆ

    แต่ถ้าเธออยากทำให้มันเกิดขึ้นบ่อย ๆ ล่ะ...

    หญิงสาวเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาหลังจากเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า หนทางสู่แสงสว่างกำลังเริ่มขึ้น เธอวิ่งออกไปที่ตลาดในเวลากลางคืนและออกไปซื้อเหล้าให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะสามารถเอากลับมาได้เธอเก็บเหล้าเหล่านั้นเอาไว้ลับ ๆ ในฟาร์มหมูและรอวันที่จะใช้เหล้านี้จัดการล้างความแค้นที่เธอมี

    เธอกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งเพื่อเก็บกวาดทำความสะอาด ระหว่างนั้นเองเธอก็พยายามเดินไปมาทั่วบ้านเพื่อดูว่าชาวนามีทรัพย์สมบัติใดเก็บเอาไว้บ้างและไม่ลืมที่จะเข้าไปในห้องนอนของชาวนาที่คงจะเก็บสมบัติที่สำคัญเอาไว้กับตัว เธอค่อย ๆ ค้นไปตามโต๊ะ ตู้ เตียง และลิ้นชัก ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้เธอพบเจอหลักฐานสำคัญที่ทำให้เธอรู้ความลับของชาวนาเข้า

    แผ่นกระดาษมากมายถูกเปิดออก กระดาษเหล่านั้นเต็มไปด้วยสัญญาโฉนดที่ดิน สัญญาการซื้อขาย กรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ชาวนาเป็นผู้ครอบครอง ถูกเรียงเอาไว้ตามลำดับเก่าไปใหม่หนึ่งในนั้นเป็นเอกสารที่ทำให้เธอรู้ว่า ชาวนาเป็นผู้ครอบครองตลาดใหญ่แห่งนั้น! เวลานี้หญิงสาวเกิดความเข้าใจกระจ่างแจ้งว่าใครเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ลำบากเช่นนี้และคนนั้นคือเจ้านายของเธอเอง! การผูกตลาดเนื้อสัตว์ของชาวนาที่นำมาอ้างผ่านเอกสารจอมปลอมหลักฐานเหล่านี้ชัดเจนพอที่จะส่งชาวนาเข้าคุกได้ 'แต่มันจะไม่จบง่าย ๆ แบบนั้นเป็นแน่' เธอคิด

    เวลานี้หญิงสาวไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตัวเองอีกต่อไป เธอตัดสินใจลุกขึ้นสู้และริเริ่มวางแผนการแก้แค้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายตาของเธอที่เคยหวาดกลัวคำข่มขู่ของชาวนาตอนนี้กลับกลายเป็นสายตาของความพยาบาท สิ่งที่ชาวนาทำทั้งกับตัวเธอ ครอบครัวเธอ พ่อค้าแม่ค้าและสาวใช้ที่ต้องมาตายอย่างไม่เป็นธรรม เธอจะเป็นผู้ล้างแค้นให้อย่างสาสมด้วยตัวของเธอเอง...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in