เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
MeMoRiesMUBEATAK
[Review] Death Office : สำนักงานแห่งความตาย, (2019)
  • ที่สำนักงานแห่งความตายนี้
    "ผู้ใช้บริการ ถูกเสมอ"


    ***คำเตือน : มีสปอยล์***

    "ตายแล้วไปไหน?" คือคำถามที่ใครหลายคนสงสัยและต้องการหาคำตอบ และในซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ จะทำให้คุณรู้ว่า คนเราเมื่อตายแล้วจะไปไหน
    Death Office สำนักงานแห่งความตาย (Shiyakusho) เป็นเรื่องราวของสำนักงานแห่งหนึ่งในโลกหลังความตาย ที่ไม่ว่าเราจะตายด้วยอุบัติเหตุ ตายด้วยอายุขัย ถูกฆาตกรรม หรือว่าตั้งใจฆ่าตัวตาย เมื่อวินาทีที่สิ้นลมหายใจ ทุกคนจะต้องมาที่นี่อย่างไม่มีข้อแม้ เพื่อทำการลงทะเบียนประวัติการตายของตัวเอง แล้วจึงค่อยไปดูกันอีกที่ว่าที่ปลายทางของแต่ละคนนั้นจะเป็นสวรรค์หรือนรก

    ก่อนหน้าที่จะมาดูซีรีส์เรื่องนี้ เราเคยอ่านมังงะมาก่อนแล้ว และรู้สึกชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มาก เพราะมันมีทั้งความเศร้า ความสุข ความเจ็บปวด ความแค้น ที่ถูกเล่าผ่านทั้งตัวเจ้าหน้าที่แผนกต่าง ๆ และผู้ตาย จำได้ว่าอ่านทิ้งไว้นานมาก พอรู้ว่าจะทำซีรีส์ก็ไม่ได้ตามต่อ และเพิ่งจะมามีโอกาสดูก็ตอนนี้เอง

    ด้วยความที่เป็นซีรีส์ขนาดสั้น 10 ตอน แต่ละตอนมีความยาวราว ๆ 30 นาที เลยดูรวดเดียวจนจบ และถึงแม้จะเป็นเนื้อหาที่เคยอ่านจากมังงะมาแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกสนุกที่ได้ดู และชอบเนื้อหาของมันอยู่

    มาที่ตอนแรกของเรื่องกันดีกว่าค่ะ  ในตอนแรกเราจะเห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า "มิกิ" ตื่นขึ้นมาในสำนักงานที่มีแต่คนตายอยู่เต็มไปหมด บางคนก็แผลเหวอะหวะน่ากลัว มีหัวแค่ครึ่งซีกก็มีเหมือนกัน จนเธอได้เจอกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ชืิ่อ "ชิมูระ มาสะมิจิ" ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง ถึงได้รู้ว่าตัวเธอตายแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าชิมูระก็พาเธอไปลงทะเบียนการตายที่แผนกฆาตกรรม ตามที่เธอบอกไว้ว่าตัวเองถูกฆ่าตาย แต่ไป ๆ มา ๆ ดันไม่มีข้อมูลของเธออยู่ในนั้น ทำให้เธอกลายเป็นวิญญาณที่ได้แต่เดินไปเดินมาอยู่ในสำนักงานแทน

    และนี่คือโฉมหน้าของนายชิมูระกับรอยยิ้มประจำตัวของเขาค่ะ เป็นรอยยิ้มรับแขกจริง ๆ เพราะทั้งเรื่องพี่แกยิ้มแบบนี้ตลอดแทบทุกสถานการณ์ ถึงในการ์ตูนจะดูเป็นยิ้มแข็ง ๆ เหมือนใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา แต่พอมาเป็นไลฟ์แอคชันแบบนี้แล้วก็เป็นรอยยิ้มที่ดูแล้วสยองขวัญเหมือนกันนะ ฮา

    อย่างที่บอกไปว่าคนตายจะต้องมาลงทะเบียนประวัติการตายของตัวเอง เพื่อยื่นเรื่องขอไปสู่สุคติ ทำให้นี่เป็นจังหวะที่เราได้รู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาเขาเป็นแบบไหน และสาเหตุการตายคืออะไร ซึ่งพอทำเอกสารเสร็จก็จะไปที่ขั้นต่อไปนั่นก็คือ "การก้าวต่อไป"

    ส่วนตัวแล้ว เรามองว่า "การก้าวต่อไป" ของเรื่องนี้คือการยอมรับทุกสิ่งที่ว่ามันเคยเกิดขึ้น และปล่อยวางมันลง เพื่อไม่ให้มีอะไรค้างคาใจ และพร้อมที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในชาติหน้า เหมือนอย่างที่ชิมูระบอกกับเด็กหนุ่มคนนี้ว่า การจะยอมรับความตายนั้นต้องยอมรับชีวิตของตัวเองให้ได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกแบบไหนก็ตาม ถ้าทำไม่ได้ก็จะไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้ เพราะยังคงยึดติดกับสิ่งเหล่านั้นอยู่ 

    และแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องของคนตายเท่านั้น แต่ยังมีอดีตของเจ้าหน้าที่แผนกด้วยเช่นกัน โดยเริ่มแรกมาจากการที่มิกิไปรู้ความลับเข้าว่าที่จริงแล้วคนที่จะมาเป็นเจ้าหน้าที่ในสำนักงานแห่งความตายนั้นล้วนเป็นนักโทษประหารที่ผ่านคดีร้ายแรงอย่างการฆ่าคนตายมาก่อน ถึงในตอนแรกเธอจะไม่พอใจและต่อว่าพวกเขาว่าเป็นฆาตกร เพราะสิ่งที่เห็นเพียงผิวเผิน แต่สุดท้ายก่อนที่เธอจะยอมรับสาเหตุการตายของตัวเองและไปเกิดก่อนที่จะครบ 49 วัน เธอก็ได้ไปไล่อ่านเปิดประวัติของแต่ละคน และพบว่าการที่พวกเขาฆ่าคนนั้น ล้วนมีเหตุผลทั้งหมด

    ถึงจะน่าเสียดายที่เรื่องนี้มีแค่ 10 ตอนและแต่ละตอนเราก็เคยอ่านในมังงะมาแล้ว แถมยังจบแบบปมไม่เคลียร์ ภรรยาของชิมูระหายไปไหน แล้วเขาจะตามหาเธอเพื่ออะไร จะมีซีซันสองมั้ยก็ไม่รู้ แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะไม่มี ฮา แต่การได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังสนุกและเจ็บปวดไม่เปลี่ยน ทั้งอดีตของคุณอิชิมะ ฮายาชิ และชิมูระที่ถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรฆ่าลูกสาวตัวเองทั้งที่ไม่ใช่คนผิด ถึงจะไม่มีอดีตของนิชิกาวะคนเดียวก็เถอะ แต่รวม ๆ แล้วเราก็ยังได้ข้อคิดดี ๆ หลายอย่างจากเรื่องนี้เหมือนกัน ทั้งการทำทุกอย่างให้เต็มที่เหมือนเป็นวันสุดท้าย การบอกความรู้สึกของตัวเองออกไป การไม่ยึดติด การไม่ตัดสินคนจากภายนอก เป็นเรื่องราวของโลกหลังความตายที่น่าสนใจมากค่ะ 

    และถ้าใครสนใจอยากดูซีรีส์เรื่องนี้บ้าง สามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ NETFLIX นะคะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in