Title : My Sunshine
Author : umumunum
โลกของมาร์คเป็นเพียงโลกแคบๆสีเทาหม่นเท่านั่น
ไม่มีสีสัน ไม่มีความสุข
มีแต่ความเงียบเหงาเดียวดาย ภายใต้จิตใจที่ตีกันยุ่งเหยิง
จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งเข้ามา
คุณคนนั้น คุณที่เปรียบเหมือนสีสันต่างๆ
เจโน่ลี...
“ว่าไงนะลูก ศิลปะบำบัดเหรอ”
“ค—ครับ”
มาร์คกุมมือไว้ที่หน้าตัก ก้มหน้ามองขาสั่นไปมาราวกับกำลังโดนจับได้ว่าทำความผิด ในสมองเขาตีกันวุ่นว่าแม่คงจะหาว่าเขาบ้าแน่ๆ แม่อาจจะไล่เขาออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ หรือไม่เขาก็อาจจะโดนตีโทษฐานที่พูดจาไร้สาระ
“ได้สิ” แม่ตอบอย่างใจดี “แม่ว่ามันดูน่าสนุกดีนะ”
“ครับ”
“แล้วเรารู้ที่เหรอว่าเขามีที่ไหน”
“รู้ครับ— มันเป็นชมรมในโรงเรียนน่ะครับ”
“อ้าว... เราจะไม่อยู่ชมรมคณิตแล้วเหรอ” แม่แสดงท่าทีเสียดาย“แม่ว่าศิลปะอะไรนั้นไว้ที่หลังก่อนดีไหม เรียนก่อนดีไหมมาร์ค”
“ผม.. ผมก็เรียนดีแล้วนี่ครับ”
“แม่รู้ เพราะเราอยู่ชมรมนั้นมาตลอดไง” หญิงวัยกลางคนเริ่มคิดหนัก “ถ้าออกมันจะส่งผลกับการเรียนไหมลูก แม่ว่าศิลปะบำบัดเราทำที่บ้านเอาก็ได้นะ”
“แต่ว่าผม—“
Title : My Sunshine
Author : umumunum
WritingPrompt : Colors
โลกของมาร์คเป็นเพียงโลกแคบๆสีเทาหม่นเท่านั่น
ไม่มีสีสัน ไม่มีความสุข
มีแต่ความเงียบเหงาเดียวดาย ภายใต้จิตใจที่ตีกันยุ่งเหยิง
จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งเข้ามา
คุณคนนั้น คุณที่เปรียบเหมือนสีสันต่างๆ
เจโน่ลี...
“ว่าไงนะลูก ศิลปะบำบัดเหรอ”
“ค—ครับ”
มาร์คกุมมือไว้ที่หน้าตัก ก้มหน้ามองขาสั่นไปมาราวกับกำลังโดนจับได้ว่าทำความผิด ในสมองเขาตีกันวุ่นว่าแม่คงจะหาว่าเขาบ้าแน่ๆ แม่อาจจะไล่เขาออกจากบ้านเลยด้วยซ้ำ หรือไม่เขาก็อาจจะโดนตีโทษฐานที่พูดจาไร้สาระ
“ได้สิ” แม่ตอบอย่างใจดี “แม่ว่ามันดูน่าสนุกดีนะ”
“ครับ”
“แล้วเรารู้ที่เหรอว่าเขามีที่ไหน”
“รู้ครับ— มันเป็นชมรมในโรงเรียนน่ะครับ”
“อ้าว... เราจะไม่อยู่ชมรมคณิตแล้วเหรอ” แม่แสดงท่าทีเสียดาย“แม่ว่าศิลปะอะไรนั้นไว้ที่หลังก่อนดีไหม เรียนก่อนดีไหมมาร์ค”
“ผม.. ผมก็เรียนดีแล้วนี่ครับ”
“แม่รู้ เพราะเราอยู่ชมรมนั้นมาตลอดไง” หญิงวัยกลางคนเริ่มคิดหนัก “ถ้าออกมันจะส่งผลกับการเรียนไหมลูก แม่ว่าศิลปะบำบัดเราทำที่บ้านเอาก็ได้นะ”
“แต่ว่าผม—“
“เชื่อแม่เถอะ เดี๋ยวเราจะเสียดายทีหลังถ้าไม่เลือกตามที่แม่บอก”
สุดท้ายเมฆก้อนใหญ่ที่ลดลงต่ำที่สุดก็หยุดอยู่กลางหัวผม ก่อนจะปล่อยสายฟ้าแรงๆลงมาแกล้งกัน
ผมคงต้องเป็นบ้าจริงๆ
มาร์คสมัครเข้าชมรมคณิตเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมาตลอด5 ปีในรั้วมัธยม ดวงตาที่เต็มไปด้วยหมู่เมฆก้อนหนาบดบังจนโลกของเขามืดครึ้มเหลียวมองไปยังชมรมศิลปะบำบัดที่ตัวเขาเองอยากเข้า
มีคนสมัครชมรมนั้นน้อยกว่าชมรมคณิตที่มาร์คยืนอยู่หลายเท่าตัว
แต่คุณประธานชมรมก็ยังยิ้มหวานดึงดูดผู้คนมากหน้าหลายตาเข้าไปฟังเจโน่ลีพูดถึงชมรมที่ตัวเองก่อตั้งด้วยความภาคภูมิใจ
มาร์คอยู่ไกลเดินกว่าจะได้ยินคำโฆษณาจากปากเจโน่ลี แต่ก็ใกล้จนได้รับความสดใสจากคุณประธานชมรมคนนั้นมาไม่น้อย
“นายคนนั้น” จู่ๆเสียงของเจโน่ก็ดังขึ้นจนได้ยินมาถึงเขา ทุกคนบริเวณนั้นมองตามนิ้วที่เจโน่ชี้มายังมาร์คลีที่ยืนนิ่งเหลียวมองซ้ายขวา ว่านายคนนั้นมันคือนายคนไหน
“นายนั่นแหละ ถ้าสมัคเข้าชมรมวิชาพื้นฐานฝ่ายวิชาการอนุโลมให้เขากิจกรรมเพิ่มอีกได้นะ มาอยู่ด้วยกันหลังเลิกเรียนเถอะ”
เจโน่ยิ้มหลังจากเห็นใบหูของมาร์คเป็นสีแดง
ในเวลานี้เจโน่เป็นเหมือนกับพระอาทิตย์สำหรับเขา
พระอาทิตย์ที่เปล่งแสงสู้กับหมู่เมฆ
พระอาทิตย์ที่ปล่อยความอบอุ่นสู้กับความหนาวเย็น
พระอาทิตย์ที่ขับไล่คุณพระจันทร์ใจร้ายออกไปจากโลกของมาร์คลี
“กระดาษแผ่นนี้จะเป็นตัวแทนรองรับความเครียดภายในจิตใจของทุกคน มองเหมือนมันเป็นเหมือนกับกำแพง ส่วนพู่กันก็มองเหมือนมันเป็นมือของพวกเธอเอง”
“เธอจะรู้สึกเหมือนได้ต่อยกำแพง แต่เธอจะไม่เจ็บตัว”
คุณครูคนสวยผู้เป็นครูประจำชมรมศิลปะบำบัดนั่งลงข้างๆมาร์ค ครูคนสวยยิ้มหวานไม่ต่างจากคุณประธานชมรมมากเท่าไหร่
กำแพงงั้นเหรอ... คนซึมๆอย่างเขาได้ยินยังอยากจะหัวเราะออกมา
มาร์คพิจารณามองกระดาษสีขาวสะอาด เขาควรจะร่างเส้นมันก่อนดีไหม กลัวว่ามันจะออกมาไม่สวยแล้วคุณครูจะไม่พอใจ
“มาร์ค ระบายเลยสิ” ในห้องนี้มีนักเรียนเพียงแค่ 5 คนเท่านั้นเพราะเป็นเวลาหลังเลิกเรียน คุณครูจึงจำชื่อของมาร์คได้ “อย่าไปคิดมาก จุ่มสีที่ชอบแล้วก็ระบายลงไปเลย”
ถึงอย่างนั้นมันก็ยากสำหรับเขาอยู่ดี
“ผมไม่มีสีที่ชอบครับ”
“งั้นเอาแบบนี้... ครูจะตั้งโจทย์ให้ดีไหม” มาร์คเริ่มยิ้มออก เขาพยักหน้าพร้อมมองตาคุณครูไปด้วย
“วาดรูปตัวนายเอง” คุณครูชี้นิ้วมาที่หน้าอกข้างซ้ายของผม“ตัวนาย... ตอนมีความสุข”
นั่นยิ่งยากเข้าไปอีก
คุณครูคนสวยมีประชุมจึงทำให้ทั้งห้องเหลือแค่นักเรียนด้วยกัน
มาร์คจ้องมองคุณประธานชมรมที่ตั้งใจวาดรูปอยู่ที่มุมห้องตลอดเวลา เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาละสายตาไปจากเจโน่ไม่ได้เลย แม้แต่วินาทีที่เขาต้องวาดตัวเองตอนมีความสุข เขายังมองเจโน่ไปด้วยวาดดวงอาทิตย์สีเหลืองสดไปด้วย
“เสร็จแล้ว!” เจโน่ลืมตัวเผลอตะโกนเสียงดังขึ้นมาทำให้ทั้งห้องกันไปมองที่หมอนั่นเป็นตาเดียว“ขอโทษครับ ดีใจเกินไปหน่อย”
ยิ้มอีกแล้ว...
เป็นความผิดพลาดของตัวเขาเองที่มานั่งอยู่ใกล้กับโต๊ะครูที่เป็นที่ส่งงาน เจโน่อยู่ตรงหน้าเขาใกล้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ทำให้หัวใจของมาร์คทำงานอย่างหนักจนเหงื่อเริ่มจะไหลออกมาตามกรอบใบหน้า
“หืม... ทำไมรูปของนายมีสีสันแค่ดวงอาทิตย์เอง”
พรึ่บ!
มาร์คลีแทบจะคว่ำงานของตัวเองลงกับโต๊ะเมื่อเจโน่มองมายังงานของเขาแล้วตั้งคำถาม
“ขอโทษ” เจโน่ตกใจกับการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก “ไม่ได้ตั้งใจนะ ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดี”
“ไม่ใช่อย่างนั้น...” มาร์คไม่กล้ามองไปที่เจโน่ที่นั่งรู้สึกผิดอยู่ตรงข้ามกับเขา “แค่... เราวาดไม่สวย เลยไม่อยากให้ดู”
“จริงๆเราก็วาดไม่สวยนะ” เจโน่หยิบงานของตัวเองมาให้มาร์คลีดู เจโน่วาดรูปแมวใหญ่ๆตรงกลาง ส่วนพื้นหลังก็เต็มไปด้วยสีสันสดใส “แต่เราใช้สีเยอะมากเลย มาร์คใช้สีโทนเย็นเข้มๆกับสีเหลืองเท่านั้นเอง”
“...”
“เราได้ยินนะว่าโจทย์ของมาร์คคือความสุข แต่ภาพมันดูเศร้ามากเลย”
“...”
“เอางี้” เจโน่หยิบงานของเขาไปวางไว้ในกองส่งงาน“ไปกินไอติมกัน เราเลี้ยงเอง”
หลังจากวันนั้นเจโน่ก็มาร์คก็สนิทกันมากขึ้น มาร์คที่รู้จักแต่สีโทนเย็นถูกเจโน่ลีแนะนำสีโทนร้อนให้เขาได้รู้จักเพิ่ม แล้วสีเหลืองก็กลายเป็นสีโปรดของเขา
“มาร์ค นายดูสดใสขึ้นนะ” คุณครูคนสวยยิ้มให้กับมาร์ค “แต่เจโน่คงจะทำให้นายปวดหัวใช่ไหม”
“ครูครับ ผมไม่ได้ทำให้มาร์คปวดหัวสักหน่อย” เจโน่แกล้งเบะปากสร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณครูและมาร์คลี
“ดูรูปของมาร์คสิ มันหมายถึงข้างในของมาร์คกำลังวุ่นวายนะ”
“...”
“ถ้าไม่ปวดหัว...” คุณครูอมยิ้มร้ายขึ้นมา “ก็ต้องปั่นป่วนหัวใจมากแน่ๆเลย”
และเจโน่ลีก็กลายเป็นคนโปรดของเขา...
end
อะไรก็ไม่รู้555555555
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in