Kyō no geijutsu เป็นเพลงที่เล่าว่า ชีวิตคนเรานั้นมีดีบ้างร้ายบ้างก็ถือเป็นสีสันเป็นศิลปะของการใช้ชีวิต เหมือนกับความรักที่ราบรื่นเกินไปก็คงไม่เร้าใจ ยิ่งถ้ามีปัญหาให้ร่วมกันเอาชนะฝ่าฟัน คู่รักก็จะยิ่งรักกันมากขึ้น
เพลง : 今日の芸術 (ศิลปะของวันนี้)
เนื้อร้อง & ทำนอง : Aimyon
ポラロイドカメラを手にした
Poraroido kamera o te ni shita 
ถือกล้องโพลารอยด์ไว้ในมือ
高校卒業の春に
kōkō sotsugyō no haru ni 
ในฤดูใบไม้ผลิที่เรียนจบ ม.ปลาย
嫌いな人と縁を切り
kirai na hito to en o kiri 
ได้ตัดความสัมพันธ์กับคนที่เราเกลียด
kore de banzai 
happī endo daze rarabai 
เท่านี้ก็ไชโย แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว ลั้ลลาบาย* 
筆をタクトのように振る
neko jarashi de asobu yō ni 
fude o takuto no yō ni furu 
สะบัดพู่กันเหมือนวาทยากรที่ให้จังหวะดนตรี
เหมือนเล่นหยอกล้อกับแมวเหมียว
suki na hito o wazato kizu tsuke 
ตั้งใจทำร้ายความรู้สึกคนที่ชอบ
dekita mono ga kandō o unda 
ผลลัพธ์เหล่านั้นก่อให้เกิดความประทับใจ
mita mono subete ni una zuite 
จงเห็นด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบ
mita mono subete o hihan seyo 
จงวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอ
baku hatsu wo okosu sen o kiru 
ตัดเส้นสายที่จะทำให้เกิดระเบิด☆
sore wa aka ka shiro ka ierō ka 
สายนั้นสีแดง สีขาว หรือสีเหลืองกันนะ
ushiro yubi sasare tara sono te ni 
hana taba o mota sete yare 
ถ้าถูกนิ้วจี้ข้างหลัง 
จงมอบช่อดอกไม้ให้มือนั้นถือไว้⦿
kyō mo geijutsu da
วันนี้ก็เป็นศิลปะอีกแล้ว
kitai nante shite nai sa 
ไม่ได้คาดหวังอะไรสักหน่อย
son'na mono suri tsubu shite ekitai ni suru 
จะเปลี่ยนความรู้สึกคาดหวังเหล่านั้น
ให้เป็นหยาดเหงื่อและน้ำตา**
“ii koto o shita” to omo eba 
sore wa mō yasashi-sa janai 
เมื่อคิดว่า "ได้ทำสิ่งดีงามลงไปแล้ว"
นั่นก็ไม่ใช่ความอ่อนโยนใจดีแล้วล่ะ
言葉は鋭い刃になれば
歴史を動かすものになる
kotoba wa surudoi ha ni nareba 
rekishi o ugokasu mono ni naru 
ถ้าคำพูดกลายเป็นดาบที่แหลมคม
มันจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ประวัติศาสตร์เคลื่อนไหว
baku hatsu tekina uta o uta-ou 
มาร้องเพลงแนวระเบิดอารมณ์กันเถอะ
sore wa ai ka ware ka yūjō ka 
เพลงนั้นจะเป็นเพลงรัก เพลงเกี่ยวกับตัวเอง 
หรือเพลงเกี่ยวกับเพื่อนกันนะ
何も描かなくてもいい
me no mae ni aru kyan-pasu ni 
nani mo kaka nakute mo ii 
ไม่ต้องวาดเขียนอะไร
ถึงแคมปัสที่อยู่ตรงหน้าก็ได้★
それも芸術だ
sore mo geijutsu da 
เพราะนั่นก็เป็นศิลปะแล้วล่ะ
燃え上りもしないだろう
umaku iki sugiru ren'ai nante 
moe agari mo shinai darou
ความรักที่ราบรื่นเกินไปนั้น
คงไม่เร้าใจหรอก
jigoku no yōna shuraba ga aru kara 
nama nama shiku aishi au 
เพราะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายดั่งนรก
จึงรักกันอย่างมีชีวิตชีวา
yama ari tani ari no jinsei no hou ga 
yama ni mo tani ni mo ikeru daro 
ชีวิตที่มีดีบ้างร้ายบ้างน่ะ
จะขึ้นเขาหรือลงห้วยก็คงไปได้หมด
e nogu ga sorotte cha omoshiro kunai daro 
ถ้าเตรียมสีวาดภาพไว้ครบครันก็คงไม่สนุก
mita mono subete ni una zuite 
จงเห็นด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบ
mita mono subete o hihan seyo 
จงวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอ
baku hatsu wo okosu sen o kiru 
ตัดเส้นสายที่จะทำให้เกิดระเบิด
sore wa aka ka shiro ka ierō ka 
สายนั้นสีแดง สีขาว หรือสีเหลืองกันนะ
ushiro yubi sasare tara sono te ni 
hana taba o mota sete yare 
ถ้าถูกนิ้วจี้ข้างหลัง 
จงมอบช่อดอกไม้ให้มือนั้นถือไว้
kyō mo geijutsu da 
kyō mo geijutsu da 
kyō mo geijutsu da
วันนี้ก็เป็นศิลปะอีกแล้ว
---------------------------------------------
*ไม่แน่ใจว่า ララバイ(rarabai) ในที่นี้หมายถึงอะไร ระหว่าง 
- lullaby (เพลงกล่อมเด็ก) 
- เสียงฮัมเพลง อย่างเช่น ลาลาบาย~ 
 เพื่อให้เข้ากับบริบทของเพลง เราก็เลยแปลไปว่า ลั้ลลาบาย
☆爆発を起こす線を切る
baku hatsu wo okosu sen o kiru 
ตัดเส้นสายที่จะทำให้เกิดระเบิด
// ท่อนนี้น่าจะหมายถึง "ให้เราตัดความสัมพันธ์กับใครก็ตามที่จะสร้างปัญหาให้เราภายหลัง"
⦿後ろ指さされたらその手に花束を持たせてやれ
ushiro yubi sasare tara sono te ni hana taba o mota sete yare 
ถ้าถูกนิ้วจี้ข้างหลัง จงมอบช่อดอกไม้ให้มือนั้นถือไว้
// ท่อนนี้น่าจะหมายถึง "ถ้าถูกใครแกล้ง รังแก หรือทำไม่ดีใส่ ก็ขอให้เราจงยกโทษให้ภัยเขา" 
ไม่แน่ใจว่า 後ろ指さされた (ushiro yubi sasareta) หมายถึง การแอบย่องไปข้างหลังเพื่อไปจั๊กจี้เอวทำให้ใครสักคนตกใจ หรือจะหมายถึงอย่างอื่น
**そんなものすり潰して液体にする
son'na mono suri tsubu shite ekitai ni suru 
// ท่อนนี้ถ้าแปรตรงตัวจะได้ว่า "เอา
สิ่งนั้นมาบดให้ละเอียด ทำให้เป็น
ของเหลว" (สิ่งนั้น = ความคาดหวัง / ของเหลว = เหงื่อ, น้ำตา) ถ้าแปลแบบตีความอาจจะหมายถึง ให้เราเอาความรู้สึกคาดหวังเหล่านั้น มาแปรเปลี่ยนให้เป็นหยาดเหงื่อหรือน้ำตา กล่าวคือ ถ้าเราฝันอยากทำอะไรให้สำเร็จ ขอให้เราลงมือทำ อย่างน้อยก็ได้ออกแรงเพื่อความฝัน(เกิดเหงื่อ) แม้ระหว่างทางเราอาจจะท้อ เหนื่อย หรือผิดหวังจนเกิดน้ำตา แต่ก็ยังดีกว่ามัวคาดหวังไปวันๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย 
★目の前にあるキャンパスに何も描かなくてもいい
me no mae ni aru kyan pasu ni nani mo egaka nakute mo ii 
ไม่ต้องวาดเขียนอะไรถึงแคมปัสที่อยู่ตรงหน้าก็ได้
// "แคมปัส" ในท่อนนี้คงหมายถึง บริเวณใดบริเวณหนึ่งในมหาวิทยาลัย ที่ตัวละครในเพลงกำลังมองอยู่ 
เป็นเพลงที่มีสัญลักษณ์ในเพลงเยอะ อาจจะมีแปลผิดพลาดไป 
หรือตีความผิดพลาดไปอย่างไรก็ต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ m(_ _)m
 
ฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยค่า :D
				 
			
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in