เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลเพลง AimyonKanzen Memeshe
แปลเพลง ハルノヒ (Haru no Hi) ของ Aimyon
  • Haru no Hi เป็นเพลงที่ Aimyon แต่งขึ้นประกอบภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Crayon Shin-chan ภาค Honeymoon Hurricane ~The Lost Hiroshi~ โดยชื่อเพลงมีที่มาจากชื่อเมือง春日部 (Kasukabe) ที่ครอบครัวของชินจังอาศัยอยู่ ซึ่งชื่อเมือง Kasukabe (春日部) เมื่อแยกส่วน จะอ่านได้ว่า Haru(春) กับ Hi(日)  นอกจากนี้ชื่อเพลงハルノヒ (Haru no Hi) ยังหมายถึง คืนวันในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นคืนวันที่ผ่านพ้นฤดูหนาวมาแล้ว เป็นฤดูแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่ต้นไม้พร้อมผลิผล ดอกไม้พร้อมผลิบาน สะท้อนความสัมพันธ์ของฮิโรชิกับมิซาเอะ ทั้งภาพในอดีตที่เปรียบดังฤดูหนาวที่ทั้งสองเคยใช้ชีวิตฝ่าฟันความยากลำบากต่างๆ นานามาด้วยกัน และภาพอนาคตแสนสุขที่เปรียบดังฤดูใบไม้ผลิ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ 

    เพลงนี้ถูกถ่ายทอดผ่านมุมมองของฮิโรชิ อีกทั้งสถานีรถไฟคิตะเซ็นจุ (Kitasenju-eki 北千住駅 ) ที่ปรากฏในท่อนแรกของเนื้อเพลง ถือเป็นสถานที่แห่งความทรงจำของทั้งฮิโรชิและมิซาเอะ เพราะเป็นสถานที่ที่ฮิโรชิขอมิซาเอะแต่งงาน 


    เพลง : ハルノヒ (Haru no Hi)
    เนื้อร้อง & ทำนอง : Aimyon




    北千住駅のプラットホーム
    銀色の改札
    Kitasenju-eki no puratto hōmu
    gin'iro no kaisatsu 

    ช่องตรวจตั๋วสีเงินในชานชาลา
    ของสถานีรถไฟคิตะเซ็นจุ


    思い出話と 想い出ふかし
    腰掛けたベンチで
    omoide-banashi to omoide fukashi 
    koshi kaketa benchi de 

    ตกอยู่ในภวังค์ของเรื่องราวในความทรงจำ
    ตรงม้านั่งที่เคยนั่ง


    僕らは何も見えない
    未来を誓い合った
    bokura wa nani mo mienai
    mirai o chikai atta 

    พวกเราสัญญากัน
    ต่ออนาคตที่ยังมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง


    寒さにこらえた木々と猫が
    まるで僕らのことで
    samu-sa ni kora eta kigi to neko ga 
    marude bokura no koto de 

    เหล่าแมกไม้กับแมวเหมียว
    ที่อดทนต่อความหนาวเย็น
    ช่างดูคล้ายกับสองเรา


    蕾を咲かせようと実を揺らしてる
    素敵に笑っている
    tsubomi o sakaseyou to 
    mi o yurashi teru 
    suteki ni waratte iru 

    ต้นไม้สั่นไหวราวกับหวังให้ดอกตูมเบ่งบาน
    เราต่างหัวเราะกันอย่างเริงร่า


    焦らないでいい
    いつか花束になっておくれよ
    ase ranai de īi 
    itsuka hanataba ni natte okureyo 

    ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้
    สักวันหนึ่งดอกตูมเหล่านั้น
    จะเบ่งบานกลายเป็นช่อดอกไม้


    それまで待っていてね
    sore made matte ite ne 

    ช่วยรอจนกว่าจะถึงตอนนั้นด้วยนะ


    これからの展開をふたりで
    kore kara no tenkai o futari de 

    พัฒนาการของสองเราต่อจากนี้


    飽きるまで過ごしてみるからね
    最低限の愛を伝えながら
    akiru made sugoshite miru kara ne
    saiteigen no ai o tsutae nagara 

    จะลองใช้ชีวิตด้วยกันจนกว่าจะเบื่อ
    พร้อมกับแสดงความรักขั้นพื้นฐานไปด้วย


    どんな未来が
    こちらを覗いてるかな
    don'na mirai ga
    kochira o nozoi teru kana 

    อนาคตแบบไหน
    ที่จะชะเง้อมองมาทางเราหนอ


    君の強さと僕の弱さをわけ合えば
    どんな凄いことが起きるかな?
    kimi no tsuyo-sa to 
    boku no yowa-sa o wake aeba 
    don'na sugoi koto ga okiru kana? 

    ถ้าแบ่งปันความแข็งแกร่งของเธอ
    กับความอ่อนแอของผมให้กันและกัน
    จะเกิดเรื่องสุดยอดแบบไหนขึ้นนะ


    ほら もうこんなにも幸せ
    Hora mō kon'nani mo shi-awase 

    ดูสิ มีความสุขมากขนาดนี้เลยล่ะ


    いつかはひとり いつかはふたり
    大切を増やしていこう
    itsuka wa hitori itsuka wa futari 
    taisetsu o fuyashite ikou 

    จากหนึ่งเดียว สักวันจะเพิ่มเป็นสอง*
    มาเพิ่มพูนสิ่งสำคัญให้มากขึ้นกันเถอะ


    北千住駅をフワっと歩く
    藍色のスカート
    いつになく遠く遠くに見える
    Kitasenju-eki o Fuwatto aruku 
    ai-iro no sukāto
    itsu ni naku tōku tōku ni mieru 

    ในสถานีรถไฟคิตะเซ็นจุ
    มองเห็นกระโปรงสีน้ำเงินพัดพลิ้วเดินมาแต่ไกล**
    ชัดเจนกว่าที่เคยเห็น


    加速する足音
    kasoku suru ashioto 

    เสียงฝีเท้าที่เร่งเดินให้เร็วรี่


    素直じゃないと
    いけないような気がしたよ
    sunao janai to 
    ikenai yōna ki ga shita yo
     
    รู้สึกว่าถ้าผมไม่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง
    คงไม่ได้แล้วล่ะ


    優しさに甘えすぎて
    怯えすぎた男の背中に
    掌を添えてくれるのは
    yasashi-sa ni ama-e sugite 
    obie sugita otoko no senaka ni 
    te no hira o soete kureru no wa 

    ฝ่ามือที่ช่วยหนุนหลังผู้ชายที่อกสั่นขวัญแขวน
    และออดอ้อนต่อความอ่อนโยนมากเกินไปนี้


    もう前を歩く君じゃなきゃダメだから
    mō mae o aruku 
    kimi janakya dame dakara
     
    จะต้องเป็นฝ่ามือของเธอ
    ที่เดินอยู่ข้างหน้าผมเท่านั้น


    どうか未来が
    こちらに手を振ってほしい
    dō ka mirai ga 
    kochira ni te o futte hoshī 

    วิงวอนอยากให้อนาคตช่วยโบกมือทักทายพวกเราที


    日々の辛さと僕の体がだらしなく
    帰る場所を探し続けている
    hibi no tsurasa to 
    boku no karada ga dara shinaku 
    kaeru basho wo sagashi tsuzukete iru 

    ความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน
    กับร่างกายของผมที่ไร้แรงกายแรงใจ
    ยังคงค้นหาสถานที่ที่ให้กลับไปเรื่อยๆ


    ほら もうこんなにも夕焼け
    hora mō kon'nani mo yūyake 

    ดูสิ พระอาทิตย์ตกดิน ยามเย็นขนาดนี้แล้ว


    いつかの灯り思い出すとき
    大切に気づくのでしょう
    itsuka no akari omoidasu toki 
    taisetsu ni kidzuku no deshou 

    ตอนที่นึกถึงแสงไฟจากวันใดวันหนึ่ง
    ก็คงตระหนักและให้ความสำคัญกับมันได้


    焦らないでいい
    いつか花束になっておくれよ
    asera naide īi 
    itsuka hanataba ni natte okureyo 

    ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้
    สักวันหนึ่งดอกตูมเหล่านั้น
    จะเบ่งบานกลายเป็นช่อดอกไม้


    僕らは何も見えない
    未来を誓い合った
    bokura wa nani mo mienai 
    mirai o chikai atta 

    พวกเราสัญญากัน
    ต่ออนาคตที่ยังมองไม่เห็นอะไรสักอย่าง


    どんな未来が
    こちらを覗いてるかな
    don'na mirai ga 
    kochira o nozoi teru kana 

    อนาคตแบบไหน
    ที่จะชะเง้อมองมาทางเราหนอ


    君の強さと僕の弱さをわけ合えば
    どんな凄いことが起きるかな?
    kimi no tsuyo-sa to 
    boku no yowa-sa o wake aeba 
    don'na sugoi koto ga okiru kana? 

    ถ้าแบ่งปันความแข็งแกร่งของเธอ
    กับความอ่อนแอของผมให้กันและกัน
    จะเกิดเรื่องสุดยอดแบบไหนขึ้นนะ


    ほら もうこんなにも幸せ
    Hora mō kon'nani mo shi-awase 

    ดูสิ มีความสุขมากขนาดนี้เลยล่ะ


    いつかはひとり いつかはふたり
    itsuka wa hitori itsuka wa futari 

    จากหนึ่งเดียว สักวันจะเพิ่มเป็นสอง


    いや もっと もっと
    大切を増やしていこう?
    iya motto motto 
    taisetsu o fuyashite ikou? 

    ไม่สิ มาเพิ่มพูนสิ่งสำคัญให้มากขึ้นกว่านี้กันเถอะ


    住み慣れた駅のプラットホーム
    Sumi nareta eki no puratto hōmu 

    ชานชาลาของสถานีรถไฟ
    ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างคุ้นชิน


    水色に挨拶
    「お帰りなさい」と
    mizu iro ni aisatsu `okaerinasai' to 

    มีเสียงทักทายอย่างสงบ
    ที่ว่า "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน"


    小さく揺れる影を踏む
    幸せ
    chīsaku yureru kage o fumu 
    shi-awase

    เหยียบย่ำเงาที่สั่นไหวเล็กน้อยอย่างมีความสุข







    ------------------------------------------------


    * いつかはひとり いつかはふたり
    (itsuka wa hitori itsu ka wa futari)
    จากหนึ่งเดียว สักวันจะเพิ่มเป็นสอง
    // หลายที่วิเคราะห์ว่าท่อนนี้อาจหมายถึง ชินจังกับฮิมาวาริ (ลูกของฮิโรชิกับมิซาเอะ) แต่ในเนื้อเพลงไม่ได้ระบุแน่ชัด อาจจะหมายถึงชีวิตของฮิโรชิที่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย แล้วได้มาเจอกับมิซาเอะก็ได้ หรืออาจหมายถึงอย่างอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตีความของผู้ฟังค่ะ

    ** กระโปรงสีน้ำเงิน/สีกรมท่า คงหมายถึง ร่างของมิซาเอะที่กำลังเดินมา


    Haru no Hi เป็นอีกเพลงของ Aimyon ที่ชอบมาก แต่ไม่กล้าแปลสักที เพราะAimyon แต่งเพลงนี้ไว้ดีมาก พอฟังเพลงแล้วคิดเห็นเป็นภาพ แต่ไม่สามารถบรรยายออกมาให้สละสลวยเท่าเนื้อเพลงต้นฉบับได้ และคิดว่าด้วยความอ่อนแอทางภาษาของเราอาจมีบางท่อนที่แปลผิดไป อย่างไรก็ขออภัยไว้ด้วยนะคะ สามารถแนะนำ แก้ไขจุดที่แปลผิดได้เลยค่ะ m(_ _)m 




    ฝากอุดหนุนเพลงของศิลปินด้วยนะคะ :D






    / อัปเดตล่าสุด (14/04/2020) Aimyon ได้ทำเพลงประกอบโฆษณาเครื่องดื่ม 淡麗グリーンラベル 
    โดยนำเพลง Haru no hi มาปรับเป็นเวอชั่นอะคูสติก เพราะไปอีกแบบค่ะ อยากฟังแบบเต็มๆ เพลงเลย




Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in