วันนี้ผมได้มีโอกาสฟังอาจารย์ในกลุ่มพูด หลังจากมีเพื่อนคนหนึ่งสร้างผลงานศิลปะจากความเศร้า ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเข้ามาเรียนทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการจะอยู่ ทำให้เป็นเรื่องที่อาจารย์หยิบมาพูดคุย
ใจความหลักๆคือ อาจารย์ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนสถาปัตย์ แต่เขาติดพยาบาลกับสถาปัตย์ เขาคิดว่าพยาบาลมันไม่เหมาะกับเขาแน่ๆ จึงเลือกสถาปัตย์ ตอนนี้อาจารย์บอกว่าถ้าเป็นไปได้ ถ้าสอบหมอได้ ก็จะเลิกเป็นอาจารย์ไปเรียนยังได้เลย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบตอนเด็กๆแล้ว เขามีหลายเรื่องต้องรับผิดชอบ เวลามันคนละเวลากัน ตอนที่เขาเรียนสถาปัตย์ก็เรียนมาได้ ทนเรียนมาได้รู้สึกตัวอีกทีก็จบแล้ว และบอกกับเพื่อนในกลุ่มผมว่า ถ้ามันไม่แฮปปี้จริงๆก็ไปเถอะ เสียครึ่งปีหรือหนึ่งปี ดีกว่าเสียห้าปีแล้วถอยหลังกลับไม่ได้แลลอาจารย์
หลังจากเลิกคลาส นี่เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในหัวผมทันที ผมรู้สึกเหนื่อยหน่ายที่ต้องมาเรียนแล้ว แต่ผมก็ยังมีความรับผิดชอบที่กดทับตัวอยู่ ผมไม่อยากอยู่ก็จริง แต่ลองเรียนไปก่อนแบบที่อาจารย์พูดผมก็กลัวว่าผมจะเผลอไปจนมันจบ จนผมไม่เหลือทางให้วกกกลับ ผมไม่เห็นสิ่งที่จะทำให้ผมมีความสุขได้ในอนาคต ได้แต่หวังว่าแม่จะเข้าใจ
ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่าผมไม่ได้ชอบวิชาสถาปัตยกรรม ผมอยากเรียนเรื่องที่ผมสนใจมาตั้งแต่เด็กๆจนแอบติดมาถึงตอนนี้ เรื่องของประวัติศาสตร์ เป้าหมายตอนนี้สำหรับผมมันค่อนข้างจะดูสูงอย่าง อักษรศาสตร์ แต่ผมว่ามันค่อนข้างจะเหมาะกับผมจริงๆ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกตามหลังคนอื่นๆอยู่หลายก้าว ผมกำลังสับสน และเครีียด ไม่กล้าที่จะบอกแม่ตัวเอง ทุกครั้งที่แม่โทรมาผมพูดแค่สบายดี เหนื่อยนิดหน่อย ขอไปทำงานก่อนนะ ผมพูดตรงๆเลยว่า ที่สถาปัตย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มันดีมากๆ เพื่อนๆก็ยอดเยี่ยม รวมถึงวิชาเรียน แต่ตอนนี้ผมไม่ได้หลงรักมันอีกต่อไปแล้ว ผมอยากไปต่อที่อื่น
แต่ความกังวลของผมก็ยังติดอยู่ไม่ว่าจะเป็นการที่ผมไม่ใช่เด็กที่เก่งอะไร ผมต้องการความพยายามอย่างมากในการติดอักษรศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ผมต้องการจะไปอยู่เกษตรศาสตร์เช่นดัน แต่พบว่าไม่มีสาขานี้เปิดสอน) ผมต้องการออกจากเมืองนี้ ผมคิดว่าเมืองนี้มันคือเมืองในเพลง Rock 'N Roll Star ของโอเอซิส เพราะมันเป็นเมืองที่หาทางออกยากเหลือเกิน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in