"ตำนานกล่าวไว้ว่า ห้วงน้ำวนบริเวณนี้มีอาถรรพ์ หากเรือสำเภาใดแล่นผ่านยามเที่ยงคืน จักอัปปางลงสู่ก้นทะเลลึก..."
นัยน์ตาสีรัตติกาลทอดมองความเวิ้งว้างของผืนน้ำสีครามยามค่ำคืน
สงบนิ่งทว่าไหววูบ—แววตาแอบซ่อนบางอย่างเอาไว้
กลางมหาสมุทร ไม่มีแม้นาฬิกาบอกเวลา
แต่สภาพอากาศคล้ายกับสื่อว่าวันใหม่ใกล้มาถึงแล้ว
ท้องฟ้าพร่างดาวด้านบน
บัดนี้เริ่มปกคลุมด้วยหมู่เมฆสีทมิฬ
ใบเรือสำเภาโบกสะบัดตามแรงลมที่กระโชกแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
กัปตันเรือเริ่มกระวนกระวายกับสถานการณ์อันตราย ลูกเรือคนอื่นๆเริ่มแตกตื่น,
เขายังคงนั่งมองแสงจันทร์กระทบผืนน้ำ
ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
สายลมยามวิกาลแปรเปลี่ยนเป็นลมพายุอย่างรวดเร็วและไร้ซึ่งสัญญานเตือน ก้อนเมฆบนฟ้าเคลื่อนที่คล้ายกงจักร, พร้อมทำลายทุกสิ่งเบื้องล่างได้ทุกเมื่อ
เขาหลับตาลง
อธิษฐานภายในใจด้วยแรงกล้า
ความสั่นโคลนของตัวเรือทำให้ข้าวของรอบตัวเริ่มไหลออกจากเรือลงสู่ท้องทะเล
เกลียวคลื่นซัดรุนแรงราวกับเจ้าสมุทรพิโรธ
พัดพากระแสน้ำเข้าสู่ลำสำเภา
ทุกสิ่งรอบตัวไร้การควบคุมใด,
ซัดสาด แตกสลาย ดำดิ่ง
เขาปล่อยกายและจิตวิญญาณ
ล่องลอยลงสู่ความมืดมิดแห่งทะเลลึก
จุดหมายมีเพียงซากปรักหักพังที่สาบสูญ
ดวงใจเขาโหยหาเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
อิศราที่รัก ยังรอคอยพี่อยู่หรือไม่
ถึงเวลาแล้ว ได้หวนคืนสู่อ้อมกอดเจ้าเสียที
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in