เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Working lifepiscesdiamond
First job first tear
  • สวัสดีค่ะทุกคน เราอยากมาเล่าเรื่องงานแรกของเราซึ่งก็เป็นงานที่หลายๆคนอยากจะเป็นเลยแหละเพราะเงินมันดีมากๆสำหรับการเริ่มต้นของเด็กจบใหม่ นั่นก็คือ ผู้ช่วยตรวจสอบบัญชี หรือที่เรียกว่า ออดิท นี่แหละค่ะ

    งานออดิทถือว่าเป็นงานที่เด็กบัญชีส่วนมากอยากทำเลยนะคะ โดยเฉพาะBig4 (kpmg,deloitte,ey,pwc) ซึ่งงานแรกก็สตาร์ทที่เงินเดือน 28xxx แล้วนะ ตาลุกวาวกันเลยใช่ไหมละคะสำหรับเด็กจบใหม่เงินเดือนเริ่มต้นก็ได้เกือบสามหมื่น ใช่ค่ะ เราคือหนึ่งในนั้นที่อยากเริ่มต้นทำงานเพราะ เงิน นี่แหละค่ะ เราว่าหลายๆคนก็รู้สึกเหมือนกับเรานะงานแรกเงินเดือนเยอะขนาดนี้ลองไปทำดูก็ไม่เสียหาย ถือว่าเก็บเงินและประสบการณ์ไปก่อน 

    ตอนเริ่มต้นออดิทของเราถือว่าเป็นการเริ่มที่ดีนะคะ จ็อบแรกก็ได้ไปต่างจังหวัดเลย รู้สึกตื่นเต้นเหมือนไปเที่ยวใช่ไหมละ5555 แถมพี่ในทีมก็พาเราไปกินเที่ยวนู้นนี่นั่นเลยรู้สึกว่าสนุกจังเลยงานนออดิทเนี่ย ได้เดินทางไปด้วยทำงานไปด้วย เรารู้สึกแบบนั้นจนกระทั่งเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า Year end 

    มันคือช่วงพีคที่สุดในงานออดิท ตอนแรกๆก็คงคิดว่าไม่หนักขนาดนั้นหรอกมั้ง พวกพี่ๆก็เว่อไป พอเข้ามาจริงๆ มันคือสิ่งที่พี่ๆบอกไว้เลยค่ะ เหมือนเรามีสองมือหนึ่งสมอง เจ็ดวันยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ไม่พอ เพราะงานที่เราต้องทำหน้าที่ตรวจสอบนั้นจะต้องครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งพี่อินชาจจะเป็นคนแบ่งหน้าที่ว่าแต่ละคนในทีมจะต้องรับผิดชอบในส่วนไหน ซึ่งเราเด็กใหม่ที่ทำงานมาไม่ถึงปีคงไม่ต้องเจองานที่รับผิดชอบคนเดียวหรอกมั้ง แต่ด้วยความที่โชคร้ายหรือดวงซวยของเรานี่แหละค่ะที่จะต้องเป็นอินชาจตัวเองตั้งแต่year end แรก หึหึหึ สนุกเลยสิงานนี้ เหมือนต้องทำงานทุกอย่างแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ พี่ๆก็ไม่มีให้ถาม จะถามพี่เมเนเจอร์ก็ไม่ค่อยตอบ ยอมรับเลยค่ะว่างานนั้นท้อมากๆ เรากลับมาบ้านร้องไห้ไปด้วยก็ยังทำงานไปด้วยเพราะงานมันไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จเลย มืดแปดด้านไปหมดเลยค่ะ จะไปถามเพื่อนเพื่อนก็ยังไม่มีใครที่รับผิดชอบงานเท่ากับเรา เพราะทุกคนเริ่มต้นที่งานง่ายๆไปก่อนเพราะในทีมอื่นมีหลายคน สุดท้ายเราก็ไปถามรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกันในจ็อบอื่นให้เค้าช่วยสอนงานเราทั้งหมด นั่นคือความโชคดีที่สุดในความโชคร้ายของเราค่ะ โดยที่ตอนให้พี่ช่วยสอนงานเราพี่ยังถามเลยนะคะว่าทำไมให้งานเราทำคนเดียวทั้งๆที่งานนั้นอย่างน้อยต้องมีพี่อีกหนึ่งคนที่มีแรงค์สูงกว่าทำ สำหรับคำตอบนั้นเมเนเจอร์ก็ตอบกลับเรามาได้เพียงว่าคนไม่มี และที่ผ่านมาก็ทำมากันได้ 

    เมื่อได้ยินคำตอบแบบนี้คนที่ได้อ่านรู้สึกยังไงกันคะ สำหรับเราเป็นคำตอบที่บันทอนกำลังใจของมากเลยค่ะ เหมือนเป็นคำถามที่เด็กรุ่นใหม่ต้องการคำตอบว่าทำไมประเทศไทยถึงไม่พัฒนา แล้วคนรุ่นเก่าๆตอบกลับมาว่านี่พัฒนาแล้วนะ สมัยก่อนรุ่นลุงเนี่ยไม่มีรถไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำ ถนนนี่ยังเป็นลูกรังอยู่เลย       บลาๆๆๆ  แต่คำตอบนี้แหละค่ะที่ทำให้เราต้องพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดและผ่านมันไปให้ได้ด้วยคนเดียว แล้วเอาผลลัพธ์ไปตบหน้าเมเนเจอร์ว่าที่ผ่านมาทำกันได้ไม่ได้แปลว่ารุ่นหลังๆต้องทำคนเดียว การที่ระบบมันแย่ไม่ได้หมายความว่าต้องแย่ตาม แต่ควรทำมันให้ดีขึ้น และหลังจากนั้นเรากับเมเนเจอร์คนนี้ก็ไม่คุยกันอีกเลยค่ะ 

    เหตุการณ์นี้แหละค่ะที่ทำให้เราต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่างานออดิทนั้นเป็นสิ่งที่อยากทำไปตลอดชีวิตหรือเปล่า เพราะระบบมันหล่อหลอมให้การทำงานออดิทต้องอึดถึกทน  มีพี่ที่เรารู้จักเข้ารพยังต้องเอาคอมไปทำงานเลยค่ะ เพราะงานต้องเสร็จ แต่งานออดิทก็มีข้อดีคือการได้ประสบการณ์ในการเจองานหลายรูปแบบ เจอคนหลายระดับตั้งแต่ staff ไปจนถึง director รวมถึงความรู้ทางบัญชีที่แน่นปึก และโอกาสในอนาคตที่ว่ากันว่าสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งในระหว่างทางเราอาจจะต้องแลกด้วยเวลา ความอดทนและน้ำตา
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in