Day-10 : rain
Junho x dohyon
“ฝนตกอีกแล้ว”
จุนโฮเงยหน้าขึ้นพร้อมทั้งหันซ้ายขวาเพื่อหาต้นเสียงที่กล่าวประโยคนี้ขึ้นท่ามกลางสายฝนโปรยปรายที่ปกติจะส่งผลให้เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรทำให้จุนโฮนึกสงสัยถึงที่มาของเสียงแต่ผู้คนมากมายในเวลาเลิกงานบนรถบัสนั้นค่อนข้างเป็นอุปสรรคในการตามหาตัวเจ้าของน้ำเสียงดังกล่าว
“เดี๋ยวต้องตัวเปียกกลับบ้านอีกแน่ๆ”
เสียงนั้นยังดังขึ้นเขากวาดสายตามองทุกคนบนรถอย่างละเอียด แม้จะยากสักหน่อย
“น่าจะพกร่มมาด้วยจริงๆ”
ด้วยประโยคนั้นจุนโฮจึงเหลือบมองร่มคันใหญ่ข้างกายตัวเองอย่างเผลอตัว
จุนโฮคิดว่าถ้าตัวเองตามหาเจ้าของน้ำเสียงนี้พบ..บางทีเขาอาจจะให้อีกฝ่ายติดร่มกลับไปด้วยกันก็ได้
แต่อาจจะไม่ได้ลงทางเดียวกันนี่หว่า
โง่จริง
.
.
.
วันนี้ฝนตกตั้งแต่เช้า
เป็นอีกวันที่ชาจุนโฮจะเริ่มต้นวันด้วยอาการหูดับเพราะสายฝนเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุของอาการนี้นักว่าทำไมถึงเกิดอาการหูดับไม่ได้ยินอะไรในทุกครั้งที่ฝนตกแรกเริ่มอาการเหล่านี้ค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับเขามากทีเดียวแต่เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้งจุนโฮก็เริ่มคุ้นชินกับมันทุกครั้งที่ฝนตกเขาก็จะเสียบหูฟังไว้ราวกับว่ากำลังฟังเพลงและไม่ได้ยินเสียงใดๆทั้งสิ้น
และนั่นทำให้เขามีภาพลักษณ์ที่เย็นชาพอสมควร
บนรถบัสยามเช้ายังคงแออัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาท่าทางง่วงซึม
แหงล่ะฝนตกยามเช้าเป็นอะไรที่ชวนง่วงสุดๆ
“ตกอีกแล้ว”
เป็นอีกครั้งที่เขาได้ยินเสียงของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางสายฝนจุนโฮกวาดสายตามองหาทุกคนในขบวนรถว่าใครที่เป็นเจ้าของน้ำเสียงเดียวที่เขาได้ยินในเวลาฝนโปรยปราย
แต่ก็ไม่พบใครทั้งนั้นทุกคนต่างอยู่ในโลกของตัวเองไม่ได้พูดคุยกับใคร บ้างก็ง่วงซึมบ้างก็มองวิวนอกหน้าต่างที่ถูกสายฝนบดบังทัศนียภาพ
“ถ้าไม่ติดว่ามีควิซคงไม่ตื่นมาแน่ๆ”
เสียงดังกล่าวยังคงอยู่ จุนโฮขมวดคิ้ว
ในเมื่อไม่มีใครขยับปากพูด..แล้วเสียงมาจากไหน?
ถ้าคิดให้แฟนตาซีสมกับอาการแปลกๆ ที่เขาเผชิญมาตลอดหลายปีจุนโฮคิดว่าเขาคงได้ยินเสียงในใจของใครสักคนแม้จะไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเสียงในใจของใครคนนั้นแต่เขาคาดว่าคงเป็นคนเดียวที่เขาจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายในยามฝนตก
ถ้าเดินเข้าไปใกล้ขึ้น..จะได้ยินเสียงในใจชัดขึ้นหรือเปล่านะ?
เขาเกิดคำถามขึ้นในใจขณะที่เรียวขาก็ขยับก้าวไปตามใจนึก
“เมื่อคืนก็นอนดึกด้วยสิจะจำอะไรไปควิซเนี่ย”
เสียงนั้นดังชัดขึ้นราวกบผู้พูดอยู่ห่างเขาไม่มากจุนโฮกวาดสายตามองหาเจ้าของน้ำเสียงอีกครั้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่รถบัสจอดลงที่ป้ายหนึ่ง
“ลงไปเปียกฝนแต่เช้าอีกแล้ว”
เสียงนั้นดังขึ้นในตอนที่มีร่างสูงโปร่งเดินผ่านหลังของเขาพอดีจุนโฮหันขวับไปมอง แต่อีกฝ่ายก็เดินลงจากรถไปแล้วแม้จะได้เห็นเพียงแผ่นหลังและสีผมสีสว่างของอีกฝ่าย แต่นั่นก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ขึ้นเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เสียงนั้นเบาบางลงตามระยะห่างที่เจ้าของร่างโปร่งเดินจากไปจุนโฮมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไม่ละสายตา ท่ามกลางสายฝนที่น่าเบื่อหน่าย..ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าหัวใจเขาสูบฉีดได้ดีจนน่ากังวลว่าเขากำลังมีอาการอื่นใดแทรกซ้อนในยามฝนโปรยอีกหรือเปล่า
แม้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้า..
แต่จุนโฮก็รู้สึกได้ว่าฝนตกครั้งต่อไปคงเป็นการอยู่ท่ามกล่างสายฝนที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
เขายกยิ้มบางกับสายฝน
ขอให้ได้เจอคุณอีกนะครับ
เจ้าของเสียงที่มากับฝน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in